“ไม่กินผัก” ฝันร้ายของคนเกลียดผักใบเขียว

คำถามในใจของใครหลายคนตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมา คือ ทำไมเราถึงเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่า ผักใบเขียวมีรสขมและมักจะไม่อร่อยนัก แต่หลายคนอาจชอบและทานมันได้ มีคำตอบว่าแท้ที่จริงอาจไม่ใช่แค่เรื่องส่วนตัว แต่มันเป็นเรื่องของกรรมพันธุ์ที่ติดตัวมา

การถ่ายทอดทางพันธุกรรมซึ่งมีความไวต่อการรับรสขม นี่เป็นที่มาที่ทำให้หลายคนเกลียดการกินผักบางชนิดที่มีใบเขียว ไม่ว่าจะเป็นผักโปรดของใครหลายๆคน อย่าง บล็อกโคลี่หรือกะหล่ำ เข้าใจความรู้สึกเลยว่าจะเป็นรสชาติสุดฝันร้ายของคนที่ไม่ชอบ
ฝันร้ายของคนที่มียีนทางพันธุกรรมนี้
ไม่ใช่เพียงแค่ผักรสขม แต่คนที่ได้รับยีนทางพันธุกรรมที่ไวต่อรสขมนี้ ยังรู้สึกเกลียดรสชาติ ของดาร์กช็อคโกแลต,กาแฟ หรือเบียร์บางประเภทอีกด้วย และสำหรับใครที่เป็นปัญหาในเรื่องนี้ ทีมวิจัยที่ได้ทำการศึกษาหาคำตอบเรื่องนี้กล่าวไว้ว่า โดยปกติตามคำแนะนำจากองค์การอนามัยโลกบ่งชี้ชัดเจนว่าจะต้องรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ซึ่งประกอบไปด้วยผักผลไม้วันละ 5 ชนิด เพื่อให้อาหารครบหมู่ แต่คนที่มียีนดังกล่าวไม่ได้รับประทานผักหลายชนิด ซึ่งอาจกลายเป็นผลเสียในระยะยาว

ประโยชน์ของคนที่มียีนทางพันธุกรรมนี้
อาหารบางชนิดที่มีรสชาติขมอาจเป็นปัญหาต่อร่างกาย ทำให้เสียสุขภาพได้ นี่เป็นข้อได้เปรียบของคนที่มียีนนี้ คือจะมีภูมิคุ้มกันในการกินของเป็นพิษเข้าร่างกายได้
ความรู้เรื่องของยีนรับรส “ขม”

• โดยปกติมนุษย์จะมียีนรับรส 2 ตัว เรียกว่า TAS2R38 ทำหน้าที่ช่วยรับรสสัมผัสที่เป็นรส “ขม”
• แบ่งเป็น 1. AVI และ 2. PAV รวมเป็น TAS2R38 และถ้าหากว่ามียีน AVI เหมือนกันทั้ง 2 ตัว จะไม่ค่อยมีความไวต่อรสสัมผัสความขมบางชนิด แต่ถ้าหากว่าใครมียีนที่แตกต่างกัน กล่าวคือมียีน AVI 1 ตัว และยีน PAV 1 ตัว จะดีกว่าเดิมหน่อยคือเริ่มรู้สึกถึงรสสัมผัสความขมได้บ้าง
• ได้รสสัมผัสความขมมากที่สุด คือกลุ่มคนที่มียีน PAV เหมือนกันทั้ง 2 ตัว และเราจะเรียกกลุ่มคนเหล่านี้ว่า Supertaster หรือ “ซูเปอร์เทสเตอร์” จะรับรู้ถึงความขมได้ชัดมากกว่าคนทั่วไปคำถามคือพวกเขาทราบได้อย่างไร และมีมาตรฐานอะไรเพื่อประเมินว่านี่คือข้อเท็จจริงที่สรุปได้ สำหรับคนที่มียีนชนิดนี้ คำตอบคืองานวิจัยนี้ได้ทำการศึกษาอย่างละเอียดจากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด 175 คน ได้บทสรุปชัดเจนว่า กลุ่มคนที่มียีนสองตัวเป็น PAV เหมือนกัน จะรับประทานผักใบเขียวน้อยกว่าปกติ ในขณะที่ผักใบเขียวนั้นส่งผลในเชิงบวกกับสุขภาพมากและดีแต่สุขภาพหัวใจแก่ผู้ที่รับประทาน
  

สิ่งที่ทีมวิจัยพยายามหาทางวิจัยเพิ่มเติม คือการสร้างทางเลือกที่ดีให้กับคนที่เลี่ยงและไม่ทานผักใบเขียวหลายชนิด ด้วยการผสมผสานการใช้เครื่องเทศรสดีต่างๆ เพื่อใช้ในการปรุงรสคู่กับผักเหล่านั้น จะทำให้การรับประทานผักเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้น,มีรสสัมผัสที่ดีขึ้น และนี่อาจเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับคนไม่ทานผักในอนาคตภายภาคหน้า
ขอบคุณข้อมูลจาก: https://www.bbc.com/news/health-50387126