โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“เศรษฐกิจหลัก”...มีบทบาทลดลงในอนาคต!!!

Wealthy Thai

อัพเดต 14 ส.ค. 2563 เวลา 05.25 น. • เผยแพร่ 14 ส.ค. 2563 เวลา 05.25 น. • wealthythai
“เศรษฐกิจหลัก”...มีบทบาทลดลงในอนาคต!!!
ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ ถือว่าดีขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค ซึ่งทำให้หลายประเทศก็เริ่มทยอยกลับมาดำเนินธุรกิจต่างๆ รวมถึงการแข่งขันกีฬาในต่างประเทศที่เริ่มกลับมาแข่งขันกันต่อพร้อมกับการใช้มาตรการควบคุม

ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีที่สถานการณ์การระบาดของ Covid-19 กำลังดำเนินอยู่ในเวลานี้ ถือว่าดีขึ้นในเกือบทุกภูมิภาค ซึ่งทำให้หลายประเทศก็เริ่มทยอยกลับมาดำเนินธุรกิจต่างๆ รวมถึงการแข่งขันกีฬาในต่างประเทศที่เริ่มกลับมาแข่งขันกันต่อพร้อมกับการใช้มาตรการควบคุม
“แต่ในขณะเดียวกันก็ยังมีความกังวลว่าจะเกิดการติดเชื้อรอบใหม่ ซึ่งก็มีรายงานออกมาให้เห็นบ้างแล้ว ทั้งใน จีน เกาหลีใต้ และประเทศญี่ปุ่น”
สถานการณ์ที่ทุกอย่างเริ่มลดความรุนแรงและคลี่คลายในทางดีที่มากขึ้น นั้นเริ่มมีการพูดถึงการใช้ชีวิตหรือการดำเนินธุรกิจต่างๆ ในรูปแบบใหม่ หรือที่เรียกกันว่า ‘New normal’ ซึ่งก็มีหลายอย่างที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงไป เช่น การออกแบบสถานที่การใช้ชีวิตในรูปแบบใหม่ๆ การใช้ระบบเทคโนโลยีในการสื่อสารและพื้นฐานที่มากขึ้น รวมถึงการใช้ชีวิตในรูปแบบที่ระมัดระวังการต่อกันบ้าง เป็นต้น
“ซึ่งเรื่องของ ‘New normal’ นั้นวิกฤตของ COVID-19 ที่เกิดขึ้นนี้มีโอกาสอะไรบ้างที่รอเราอยู่ และอาจจะเป็นความท้าทายใหม่ๆ ‘New challenge’ ที่จะมีต่อการทำธุรกิจและการลงทุนรวมถึงการพัฒนาประเทศในช่วงจากนี้ต่อไป”
ในแง่ของโอกาส ผมมองว่ามีโอกาสใหม่ๆ ที่น่าสนใจต่อเศรษฐกิจและการลงทุนที่อยู่ในกลุ่มดังต่อไปนี้ 
1.สุขภาพอนามัย : เรื่องสาธารณสุขจะเป็นโจทย์ใหญ่ที่หลายประเทศจะให้ความสำคัญและลงทุนเพิ่มมากขึ้นต่อจากนี้ ทั้งในเรื่องการศึกษาข้อมูล การประเมินความเสี่ยง การพัฒนายารักษาโรคที่ให้ทันใช้เมื่อการระบาดในระดับประเทศ
2.เทคโนโลยี : การใช้เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการทำงานและการอยู่อาศัยจะเติบโตและมีความสำคัญเพิ่มมากขึ้น ตั้งแต่ระดับบุคคลไปจนถึงระดับประเทศ เราอาจจะเห็นการใช้เทคโนโลยีต่างๆ มาพัฒนาเครื่องมือเพื่อตรวจวิเคราะห์ด้านสุขภาพมากขึ้น 
3.การบริการ : ธุรกิจบริการใหม่ๆ อาจมีความสำคัญมากขึ้น เช่น บริการขนส่งอาหาร บริการซ่อมแซมต่างๆ ทั้งในบ้านและอาคาร  บริการด้านการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อตามสถานการที่ต่างๆ ที่อาจจะเติบโตและเป็นโอกาสจากนี้ไป

 

 

4.การสร้างและการออกแบบสถานที่ต่างๆ : ด้วยโรคระบาดที่ทำให้เกิดการเว้นระยะห่างเพื่อป้องกัน เราอาจเห็นการออกแบบสถานที่ เช่น อยู่อาศัย อาคารต่างๆ ที่เป็นไปในลักษณะที่ให้สามารถป้องกันการติดต่อของโรคต่างๆ เกิดขึ้น
5.อาหาร : ประเทศไทยมีความอุดมสมบูรณ์ด้านอาหารประเทศหนึ่งในโลก และมีความพร้อมในการรองรับภาวะฉุกเฉินต่างๆ ได้ แต่เมื่อพิจารณาแล้วธุรกิจด้านอาหารของไทยมีสัดส่วนของ จีดีพี ของประเทศที่ยังน้อย ซึ่งเป็นโอกาสที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมด้านอาหารของประเทศให้สร้างรายได้จากต่างประเทศได้ 
ตัวอย่างที่ยกมานี้อาจเป็นเพียงบางส่วนที่เป็นกรณีศึกษาจากการเกิดโรคระบาดในครั้งนี้  ซึ่งทุกครั้งเมื่อเกิด ‘วิกฤต’ ก็จะมี ‘โอกาส’ อยู่เสมอทั้งในด้านการพัฒนาหรือการลงทุนฟื้นฟูขึ้นมาใหม่ ซึ่งนั่นอยู่ที่ว่าเราจะประเมินความเสี่ยงของโอกาสนั้นได้ดีเพียงใด
มองว่าความท้าทายที่น่าจับตามองจากนี้ต่อไปนั่นคือ กลุ่มธุรกิจต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบไม่ว่าจะเป็น  ‘ภาคการส่งออก’ ที่ประเทศไทยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน รวมไปถึงภาค ‘การท่องเที่ยว’ และ ‘การเดินทางขนส่งต่างๆ’  ที่ทำให้ธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร สนามบิน ต้องปิดทำการลงเพราะการระบาดของ COVID-19 ซึ่งธุรกิจทั้ง 3 กลุ่มนี้ถือเป็นสัดส่วนรายได้หลักของ จีดีพี ในแต่ละปี
“จึงเป็นคำถามว่าประเทศไทยจะทำอย่างไร เมื่อ ‘เศรษฐกิจหลัก’ ของประเทศมีแนวโน้มที่จะมีบทบาทลดลงมากขึ้น ในขณะที่ ‘ธุรกิจใหม่ๆ’ ที่เริ่มมีบทบาทกับการพัฒนาประเทศมากขึ้น  ซึ่งผมว่ามองว่าเป็นทั้ง ‘ความท้าทาย’ และเป็น ‘โอกาส’ ในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ ที่ประเทศไทยมีความพร้อมอยู่แล้ว”
ในตอนหน้าผมจะมาพูดถึงความน่าสนใจของสินทรัพย์และการลงทุนต่างๆ ว่า เราจะจัดพอร์ตลงทุนในกลุ่มต่างๆ อย่างไรดี ทั้ง ‘กลุ่มที่กำลังมีบาทบาทลดลง’ กับ ‘กลุ่มธุรกิจที่กำลังมีบาทใหม่’ ที่ผมได้กล่าวไว้ใน เพื่อเตรียมพร้อมการเปลี่ยนผ่านไปสู่การเปิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ครับ

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0