นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และ นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม คือ 2 ใน 3 ผู้สมัครชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ที่ถูกจับตา แม้จะเคยร่วมกันเปิดโปงโครงการรับจำนำข้าว สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ แต่ในจังหวะที่ต้องแข่งขันกัน ก็ไม่มีใครยอมใคร
ถึงจะเปิดตัวหาเสียงที่หลัง แต่สมาชิกพรรคหลายร้อยคนที่มารอต้อนรับ ในจ.สงขลา สะท้อนชัดเจนว่า แชมป์เก่าคนนี้ยังมีความนิยมส่วนบุคคลสูงนี่เป็นข้อเด่นของนายอภิสิทธิ์ ที่นพ.วรงค์ รู้ตัวมาตลอดว่ายังสู้ไม่ได้
แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่า ตลอด 13 ปีที่นายอภิสิทธิ์เป็นหัวหน้าพรรค ส่วนใหญ่ผูกขาดการเป็นพรรคฝ่ายค้าน นี่เป็นจุดอ่อนที่นพ.วรงค์ ชูธง “กล้าเปลี่ยน” เพื่อหวังชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรค
แม้จะสู้กันดุเดือด แต่ ทั้ง 2 คน ประกาศจุดยืนตรงกันว่า ต้องการนำพรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้ง เพื่อเป็นแกนนำหลักจัดตั้งรัฐบาล แต่ก็ต้องยอมรับว่า หากฝันนี้ไม่เป็นจริง จะมี 2 ทางเลือกที่ทำได้คือ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล หรือ เป็นพรรคฝ่ายค้าน
นพ.วรงค์ ไม่เคยปิดประตูการร่วมกับพรรคการเมืองอื่น โดยเฉพาะ พรรค คสช. นี่ทำให้ถูกมองว่า หากได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค มีโอกาสสูงที่ พรรคประชาธิปัตย์ จะเป็นพรรครัฐบาล
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ ย้ำจุดยืนทุกครั้งที่มีโอกาส ว่าจะไม่ร่วมกับทั้ง คสช. และ ครอบครัว ชินวัตร
หากใครมองว่า นี่ คือ ละครฉากใหญ่ที่พรรคประชาธิปัตย์จงใจสร้างขึ้น คงต้องมองปรากฎการณ์นี้ใหม่ เพราะ ผลลัพธ์ของการแข่งขันครั้งนี้มีแนวโน้มว่าจะไม่จบลงที่ใครเป็นหัวหน้าพรรค เพราะอาจหมายถึงโอกาสที่พรรคประชาธิปัตย์จะได้เป็นรัฐบาลหรือไม่ด้วย
ติดตามข่าววันนี้ได้ที่นี่ >> https://www.pptvhd36.com/special/ข่าววันนี้