โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“เมญ่า” แจงเหตุเลิก “ฟิลิป” เขาทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีพอ-ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้!

อีจัน

อัพเดต 22 พ.ย. 2562 เวลา 03.47 น. • เผยแพร่ 22 พ.ย. 2562 เวลา 03.44 น. • อีจันบันเทิง
“เมญ่า” แจงเหตุเลิก “ฟิลิป” เขาทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีพอ-ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้!
เปิดใจที่แรกหลัง “เมญ่า นนธวรรณ” มิส&#3…

เปิดใจที่แรกหลัง “เมญ่า นนธวรรณ” มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2014 ได้ออกมาประกาศขอยุติชีวิตคู่ กับสามีชาวสวิตเซอร์แลนด์ “ฟิลิป บรามาส” ทั้งที่เพิ่งแต่งงานใช้ชีวิตคู่มาได้ 1 ปีกว่าเท่านั้น และมีลูกชายสุดน่ารัก วัยหนึ่งขวบ อย่าง”น้องเบฬิน”
ล่าสุดออกมาเปิดใจในรายการคุยแซ่บShow ทางช่องOne31 ที่มี พีเค ปิยะวัฒน์, ธัญญ่า ธัญญาเรศ และ หนิง ปณิตา เป็นพิธีกร พร้อมเผยสาเหตุที่ทำให้แยกกันอยู่กับสามีถึงขั้นเสียใจหนักมาก กินไม่ได้ นอนไม่หลับ และมาฟังจากปากว่าสาวเมญ่ายังรักสามีอยู่หรือไม่ ?

ตอนนี้ชีวิตเป็นยังไง ?
เมญ่า : ตอนนี้ชีวิตโอเคค่ะ แฮปปี้ขึ้น

เกิดอะไรขึ้นวันที่โพสต์คนไทยตกใจกันทั้งประเทศ ?
เมญ่า : เหมือนเป็นช่วงเวลาที่เราคิดและวิเคาะห์แล้วว่าอยู่ตรงนี้เรามีความสุขกว่า

ตกลงสถานะตอนนี้คือ ?
เมญ่า : สถานะคือยังไม่ได้หย่า ลดสถานะจากสามี ภรรยามาเป็นเพื่อนกัน ยังเป็นครอบครัวเดียวกัน ยังอยู่ด้วยกันสามารถดูแลลูกเหมือนเดิมได้ แค่เราไม่สามารถรักกันในฐานะคนรักเท่านั้นเอง
ขยายความคำว่าแยกกันอยู่ให้ฟังหน่อย ?
เมญ่า : จริงๆ ไม่เชิงแยกกันอยู่ ตอนที่อยู่สเปนก็ยังอยู่บ้านเดียวกัน ความหมายของเมญ่าคือเราแค่มีพื้นที่ให้กัน ให้ต่างคนต่างมีช่วงเวลาของตัวเอง ได้มีเวลาคิดมากขึ้นว่าจริงๆ แล้วที่เราเป็นอยู่แฮปปี้หรือยัง แล้วที่เราถอยออกมาแฮปปี้กว่าหรือเปล่า

พ่อของน้องเบฬินว่ายังไงบ้าง ?
เมญ่า : เขาก็ไม่อยากที่จะให้เป็นแบบนี้ ในความรู้สึกเขาเขาก็ยังรักเราอยู่ คิดว่าสามารถที่ยังจะแก้ไขให้เป็นแบบเดิมได้อยู่ แต่สำหรับเราอยู่ตรงนั้นเราไม่เห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรเลย ไม่ได้ทำให้เราสบายใจพอที่จะอยู่ตรงจุดนั้น เราก็เลยเลือกที่จะคุยกับเขาถามเขาว่าถ้าเราต้องการอย่างนี้เขาโอเคมั้ย
ตอนนี้เมญ่าอยู่ไทยหรือสเปน ?
เมญ่า : ตอนนี้เพิ่งกลับมาไทย เขาก็กลับมาไทยทำงานอยู่ เขากลับมา 1 เดือน แล้วเดี๋ยวเขากลับไป

กลับมาเมืองไทยอยู่ด้วยกันมั้ย ?
เมญ่า : ตอนนี้พ่อเขาอยู่โรงแรม เมญ่าอยู่กับลูกที่บางนา ในเมืองสะดวกกับเขาเวลาทำงานมากกว่า
เมญ่าเป็นคนเริ่มไอเดียนี้ เป็นคนบอกเขา เขาช็อกมั้ย ?
เมญ่า : ช็อกค่ะ เขาช็อกตั้งแต่ไม่ใส่แหวนแล้ว ถอดนานแล้ว
แสดงว่าการที่เราไม่ใส่แหวนปัญหาก็ค่อนข้างหนัก ?
เมญ่า : ใช่ค่ะ เพราะตั้งแต่แต่งงานไม่เคยถอดแหวนเลย เรารู้สึกว่าการใส่แหวนเป็นการรักษาสัญญาซึ่งกันและกัน ในเมื่อวันหนึ่งเรารู้สึกว่าคุณไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเราตั้งแต่ก่อนแต่งงานจนวันแต่งงานแล้ว มันก็ไม่จำเป็นต้องใส่แหวนนี้ต่อไป
ไม่รักษาสัญญาเรื่องอะไร ?
เมญ่า : ไม่อยากเข้าลึกถึงราละเอียดแต่มันเป็นความรู้สึกของคนที่ตั้งใจที่จะใช้ชีวิตคู่กับคนคนหนึ่ง แล้วก็มีการวางแผนที่ดีแล้ว แล้วก็รู้ว่าเราชอบหรือไม่ชอบอะไร เขาแฮปปี้กับอะไรไม่แฮปปี้กับอะไร
แยกกันอยู่หมายความว่าต่างคนต่างที่จะมีคนใหม่ได้มั้ย ?
เมญ่า : ต้องอยู่ในการตกลงในระดับต่อไป แต่ตอนนี้ไม่ได้เริ่มคุยถึงขั้นนั้น แค่เรายังโฟกัสกันอยู่แค่สองคน แต่ตอนนี้แค่เราถอยมาดูควาสัมพันธ์ที่ไม่ได้ใช้ชีวิตแบบคนรักแค่นั้นเอง
แสดงว่าอนาคตก็มีสองทางคือ อยู่หรือแยกกันไปมีคนใหม่ แต่ตอนนี้ยังไม่ถึงจุดนั้น ?
เมญ่า : ถูกต้องค่ะ
ตอนนี้ก็คืออยู่ในระยะเวลาตัดสินใจแบบร้อยเปอร์เซ็นต์อีกรอบ ?
เมญ่า : ใช่ค่ะ

พอมีปัญหาแบบนี้รู้สึกมั้ยว่ามันยากขึ้นในการตัดสินใจเพราะเรามีลูก ?
เมญ่า : ถามว่ามีส่วนมั้ยก็มีส่วนที่ยากขึ้น เพราะเราก็ไม่ได้ตัวคนเดียว แต่ในมุมของเมญ่าที่ใช้ชีวิตมาตั้งแต่เด็กเราเห็นผู้หญิงรอบตัวแล้วแม้แต่กระทั่งครอบครัวเราเองต้องอยู่เพื่อทนให้มีคำว่าครอบครัวที่สมบูรณ์แต่จริงๆ แล้วการที่เขาอยู่แล้วอดทนมันมีอะไรหลายๆ อย่างที่มันเป็นตัวอย่างที่ไม่ดี มีหลายๆ อย่างที่อาจมากระทบกับความรู้สึกของลูกโดยที่เค้าไม่รู้ตัวนั่นคือสิ่งที่เขาพยายามจะทำให้ครอบครัวเป็นไปอย่างที่สมควรจะเป็น แต่เขาอาจจะเผลอหลุดหลายๆ อย่างออกมาทำให้เด็กซึมซับว่าจริงๆ แล้วพ่อ แม่ ไม่ได้อยู่เพื่อให้เขามีความสุข เพราะที่เป็นอยู่พ่อแม่อาจจะทะเลาะกัน ไม่รักกัน อาจจะทำอะไรไม่ดีแล้วทำให้ลูกเห็น สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ทำให้ลูกเป็นคนมีคุณภาพในอนาคต
การตัดสินใจครั้งนี้เอาลูกเป็นที่ตั้ง อยากให้คุณภาพชีวิตของลูกมีคุณภาพที่ดี
เมญ่า : ถูกต้องค่ะ
วัฒนธรรมกับอายุของเราที่ต่างกันมีส่วนเกี่ยวข้องมั้ย ?
เมญ่า : ไม่มีส่วนเลย เพราะว่าเราใช้เวลาคบกันมาซักพักนึง เมญ่าไม่มองว่าวัฒนธรรมที่แตกต่างจะมีผลมาก เราค่อนข้างที่จะไปทางเดียวกับเขา แล้วก็มีความคิดเดียวกันที่จะเลี้ยงลูกไปในทางนี้เหมือนกัน กับอายุที่ต่างกันก็ไม่มีปัญหา เพราะเราก็ค่อนข้างโตกว่าอายุในความคิด การที่เราคบกับเขาเป็นเหมือนบาลานซ์ชีวิตของเราให้ไปในทางเดียวกันได้
ตั้งแต่ประกาศแยกทางกับสามี มีคนเข้ามาจีบหรือยัง ?
เมญ่า : ถามว่ามีมั้ย เราก็ไม่ได้ขี้เหร่มาก ก็มีคนเข้ามาทักบ้าง แต่เราก็ยังไม่ได้เปิดใจอะไรให้ใคร เราก็ยังโฟกัสซ่อมบำรุงครอบครัวเราอยู่
แสดงว่าสถานะตอนนี้ ต่อให้มันเป็นอย่างนี้มันก็ยังมีความรู้สึกเราก็ยังอยากซ่อมบำรุง ?
เมญ่า : ตัวเขาค่ะ ตัวเขาพยายามซ่อมบำรุงอยู่ตอนนี้
แต่ดูเหมือนเมญ่าจะตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ?
เมญ่า : ปัญหาที่เกิดขึ้นมันอยู่ที่เขา ที่เมญ่าเลือกออกมาเพราะเขาทำหน้าที่สามีได้ไม่ดีพอ เพราะว่าเขาไม่สามารถรักษาสัญญาที่ให้ไว้ได้ดีพอ ฉะนั้นการที่เขาจะกลับมาในชีวิตเราเขาก็ต้องพิสูจน์ เหมือนเขาเคยเป็นโลกทั้งใบของเรา พอวันนึงแล้วตัวเขาเองเป็นคนทำร้ายโลกทั้งใบใบนั้น
แล้วทุกวันนี้เค้าพิสูจน์ตัวเองยังไงบ้าง ?
เมญ่า : เห็นความพัฒนาขึ้นแต่ยังไม่ได้ดีพอที่จะกลับมรักเขาได้แบบเดิมในแบบที่เราเคยให้เขา
เราทิฐิไปมั้ย ?
เมญ่า : ไม่ค่ะ หนูเป็นคนง่ายที่สุดในบรรดาผู้หญิงบนโลก ไม่ทะเลาะเรื่องไร้สาระ คู่เราไม่ทะเลาะกันเลย ทะเลาะกันน้อยมาก ด้วยเหตุผล แล้วเมื่อไหร่ที่เมญ่าหลุดอะไรออกไปเมญ่ขอโทษ บ้านเราไม่มีการใช้กำลัง บ้านเราไม่มีการด่าหยาบคาย เพราะรู้สึกว่าการที่เราสองคนทะเลาะกันควรคุยด้วยเหตุผล ต้องมีสติพอ จะไม่เอาเวลาที่เราปี๊ดอยู่แล้วเราไปคุยกับเขา เราตกผลึกเป็นเดือนๆ สติเราพอมั้ย เราคุยกับเขาแล้วเขาจะมีข้ออ้างอะไรมั้ย
แสดงว่าตอนนี้นอนคนละบ้าน ?
เมญ่า : ไม่ค่ะ ตอนที่อยู่ต่างประเทศก็นอนเตียงเดียวกันนะ เขาบอกว่าเขาไม่ขอแยกเตียงนอน เขายังแฮปปี้ที่จะนอนเตียงเดียวกับเรา
ไม่ใจอ่อนบ้างหรอ ใกล้ชิดกันมาก ?
เมญ่า : ไม่ค่ะ บางทีก็คิดนะว่าอย่างที่เขาเรียกว่าห่างกันหรอในเมื่อห่างกันแต่นี้เอง แต่เราก็ไม่มีจูบ ไม่มีกอดอะไรเลย
วันนี้เจอกันอาทิตย์ละกี่วัน ?
เมญ่า : แล้วแต่ค่ะ เขากลับมาเมืองไทยทำงานหนักมาก ก็จะเป็นช่วงที่ว่างจากการทำงานก็จำถามเขาว่าอยากเจอลูกมั้ย เขาก็เจอ

พอกลับมาเมืองไทยเขารู้อยู่แล้วเมญ่าเป็นคนดังในประเทศไทย ต้องมีคนมอง มีคนสัมภาษณ์ ได้ตกลงกันมั้ยว่าเราจะพูดยังไง ?
เมญ่า : ได้คุยค่ะ เหตุผลที่หนูต้องประกาศเพราะหนูต้องการความชัดเจนให้คนเห็น เพราะว่าในขณะที่เราอยู่เมืองไทยทำงานคนก็จะถามว่ามีปัญหากับครอบครัวหรือเปล่า เลิกกับสามีจริงมั้ย หลายๆ คำถามทำให้เรากดดันมั้ย เรากดดันนะ ในขณะที่เราก็ไม่รู้จะทำอะไรให้ชัดเจน ก็เลยต้องประกาศให้ชัดเจนในจุดที่ว่าอย่าถามอะไรเรามากเลย เพราะตอนนี้เราเป็นแบบนี้นะ แล้วเราก็ผ่านความทุกข์กันมาพอสมควร มาถึงจุดนี้เราชัดเจนในจุดที่ว่าเราต้องการลดสถานะในความสัมพันธ์นะ แต่ยังไม่ได้หย่ากัน ซึ่งตอนที่ประกาศออกไปคนส่วนใหญ่คิดว่าเราหย่ากันแล้ว เลิกกันแล้ว เป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวแล้ว ซึ่งจริงๆ มันไม่ใช่
ยังรักเขาอยู่มั้ย ?
เมญ่า : รักมั้ยหรอ เราใช้เวลากันมาค่อนข้างพอสมควรแล้วเรามีสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในชีวิตเราก็เพราะเขา รักมั้ย ก็ยังต้องมีรักแต่มันไม่เท่าเดิมเท่านั้นเอง
แล้วเขายังรักเราอยู่มั้ย ?
เมญ่า : รักค่ะ เราเห็นชัดเลยว่าเขารัก เขาพูดเสมอว่ายังรักเราอยู่ แต่ทำไมเรารักเขาไม่ได้
นอนเฉยๆ จริงหรอ
เมญ่า : ไม่มี นอนจริงๆ
ตัวสามีเองเขาก็ต้องมีพยายามบ้างแหละ
เมญ่า : วันสุดท้ายก่อนกลับมีจูบกัน เป็นจูบแรกที่ไปถึงเป็นเดือนเลย มาจูบแรกวันนั้น เขาคงคิดอะไรได้หลายอย่างว่าอาจจะเป็นวันสุดท้ายแล้วมั้ง แล้วเขาก็ขอโทษว่าที่ทำให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้
แสดงว่าไม่คิดจะกลับไปสเปนอีก ?
เมญ่า : กลับค่ะ ลูกต้องใช้เวลาอยู่กับพ่อ เพราะเรายังเป็นครอบครัวเดียวกันอยู่ การที่เมญ่ากลับมาเมืองไทยแล้วมางานในสิ่งที่เมญ่าคิดถึงแล้วก็รัก มันอาจจะต้องใช้คำว่างานเป็นหลักแทนที่จะเป็นเขา เพราะเมื่อก่อนเมญ่าให้เขาเป็นหลัก
เป็นเพราะน้องหมาหรือเปล่า เพราะเขารักน้องหมามาก
เมญ่า : ไม่เกี่ยวค่ะ ถ้างั้นคงไม่แต่ง
สิ่งที่จะทำให้ผู้หญิงตัดสินใจได้ขนาดนี้มันก็ไม่พ้นบุคคลที่สาม ?
เมญ่า : เราจะไม่พูดถึงจุดนั้น

ช่วงแรกที่แยกกันอยู่ถึงขั้นกินไม่ได้ นอนไม่หลับเลย ต้องพึ่งยานอนหลับมั้ย มันดีขึ้นมั้ย ?
เมญ่า : ถ้าพูดตรงๆ ก็พึ่ง ก็แค่ได้หลับ ความทุกข์ของผู้หญิงเมื่อต้องเจอกับความทุกข์มากๆ เราก็ต้องจมดิ่งตรงนั้นซักพักจนกว่าเราจะคิดได้ เมญ่าโชคดีอยู่อย่างที่เราไม่แตะแอลกอฮอล์ลอยู่แล้ว การที่เราไม่ต้องพึ่งแอลกอฮอล์ลเพื่อลืมความทุกข์หรือเลื่อนความทุกข์ไปเรื่อยๆ ทำให้เราใช้เวลากับความทุกข์ตรงนี้สั้นกว่าคนอื่น เรามีสติเร็วกว่าคนอื่น ทำให้เราตัดสินใจง่ายขึ้น
ก่อนหน้านี้เราให้โอกาสเขามั้ย ?
เมญ่า : ให้โอกาสค่ะ ครั้งนี้เป็นครั้งที่สองที่เป็นปัญหาหลักใหญ่ๆ แล้วเราก็คุยกับเขาแล้วว่าครั้งนี้จะเป็นครั้งสุดท้าย ถ้าย้อนไปครั้งแรกคือตอนที่ก่อนที่จะถ่ายรายการ(คุยแซ่บShow) ที่เจอลูกตอน 19 วัน
คนมองว่าเมญ่าเป็นผู้หญิงเพอร์เฟคท์ คิดมั้ยว่าการใช้ชีวิตคู่เรามีจุดผิดพลาดตรงไหน ในมุมของเราเอง ?
เมญ่า : ในมุมของเราเอง จากวินาที่แรกที่เราเป็นแฟนเขา จนมาเป็นภรรยาเขา จนมาเป็นคนนรักของเขา เชื่อว่าไม่มีอะไรที่พลาดเลย เพราะตั้งใจที่จะสร้างครอบครัวกับเขา ก็รู้ว่าอะไรที่เขาชอบ เอาใจเขาใจเรามาใส่กันตลอด ทำครอบครัวของเราให้เป็นครอบครัวที่เคยคาดหวังเอาไว้ เมญ่าคิดว่าเมญ่าจะทำอะไรพลาดที่จะเสียครอบครัวของเราไป เราก็ถามเขาว่าที่เราอยู่เราเคยทำอะไรพลาดหรือเปล่า เราทำหน้าที่เราไม่ดีพอหรือเปล่า เขาก็บอกว่าไม่มีเลย

คุณแม่ให้กำลังใจยังไงบ้าง? แม่รู้คนแรกๆ เลยมั้ย ?
เมญ่า : รู้คนแรกๆ เลย ครอบครัวรู้เป็นคนแรกๆ เลย แล้วก็เพื่อนสนิท ก็ต้องขอขอบคุณทุกคนที่ฟังเราให้กำลังใจ ในช่วงเวลาที่ทุกข์มากๆ เก็บไว้คนเดียวมันก็ยาก คนรอบข้างให้กำลังใจและคอยแนะนำ มันทำให้เรามีตัวเลือกในความคิดหลายๆอย่าง และทำให้เราตัดสินใจได้อย่างถูกต้อง
แม่เป็นคนสมัยเก่าเขาบอกมั้ยว่าให้อยู่ๆ ไปเถอะ ?
เมญ่า : บอกค่ะ เขาบอกว่าให้อยู่เพื่อลูก หนูก็บอกว่าการที่อยู่เพื่อลูกทำให้ลูกทรมาน
ถ้าลูกโตขึ้นอีกหน่อยจะเล่าให้ฟังมั้ย ?
เมญ่า : ไม่ใช่เรื่องที่จะเล่าให้เด็กฟัง เรื่องปัญหาพ่อแม่นะ ถ้าเขาถามก็ตอบกว้างๆ ไม่ละเอียดอะไรมาก ไม่ใช่เรื่องที่ลูกจะมารับฟังอะไรแบบนี้

ถ้าสามีดูอยู่อยากจะบอกอะไรกับเขา ?
เมญ่า : ล่าสุดเราก็คุยกับเขาเรียบร้อยแล้ว เราเสียใจที่มันต้องมาอยู่ในจุดนี้ เราก็ทำเต็มที่แล้ว ครั้งหนึ่งเขาเคยเป็นโลกทั้งใบและเป็นสิ่งที่เรารักมากที่สุด พอมันเป็นแบบนี้มันค่อนข้างที่จะรักษาความรักของเราไปด้วยกัน เขาเองก็เสียใจ การที่จะให้กลับมาเป็นเหมือนเดิมถ้ามันเป็นไปได้มันก็คงจะดี แต่ว่าเขาคงอาจจะต้องใช้เวลาซักพักนึงเพราะมันไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่คนๆ นึงที่รักได้ขนาดนี้จะรู้สึกหมดใจได้ขนาดนี้
ตอนนี้ยังอยู่ในสถานะที่รอเขาอยู่มั้ย ?
เมญ่า : ไม่เรียกว่ารอมั้ย เรียกว่าอยู่อย่างมีความสุขมั้ย ตอนนี้มีความสุข ใช้เวลาเต็มที่กับการที่จะมีความสุขและได้เลี้ยงลูกอย่างมีความสุขมากกว่า เมญ่าต้องการเลี้ยงเบฬินให้เป็นเด็กที่มีคุณภาพ การที่จะเลี้ยงลูกให้มีคุณภาพคุณแม่ต้องมีความสุข ถ้าเรามีแต่ความเครียด ความกดดัน

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0