“เปอโยต์” คืนชีพ ใต้ปีก เอ็มจีซี-เอเชีย

“เปอโยต์” หนึ่งในแบรนด์เก่าแก่ที่อยู่คู่กับตลาดรถยนต์ไทยมาอย่างยาวนาน ภายใต้การทำตลาดของกลุ่มยนตรกิจ ซึ่งหลังจากมีการแยกกิจการให้กับทายาทดูแลเป็นสัดเป็นส่วน หลายแบรนด์ได้ยุติการทำตลาดไป ส่วนเปอโยต์ นั้นเริ่มเงียบหายไปในช่วง 1-2 ปีที่ผ่าน ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวอีกครั้งกับการเข้ามาเป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรายใหม่ของกลุ่ม MGC-ASIA หรือ กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด

การเข้ามาคว้าสิทธิ์นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการนั้น นำทีมโดย “เสี่ยจุ๋ย” ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เอ็มจีซี-เอเชีย ทั้งนี้เพื่อเติมเต็มไลน์การขายรถยนต์ของกลุ่มให้ครบถ้วนทุกระดับราคา ตั้งแต่ระดับคันละไม่กี่แสนไปจนถึงคันละกว่า 60 ล้านบาท

17 ก.ค. 2562 แจ้งเกิด “เปอโยต์” อีกครั้ง

วันนี้ (17 กรกฎาคม 2562) กรุ๊ป พีเอสเอ ,ผู้ผลิตรถยนต์ เปอโยต์ สัญชาติฝรั่งเศส แต่งตั้งบริษัท เบลฟอร์ต ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ เปอโยต์ ประเทศไทย ภายใต้กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด ให้เป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว โดยพิธีลงนามสัญญาแต่งตั้ง จัดขึ้น ณ สถานเอกอัครราชฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย พร้อมได้รับเกียรติจาก นาย ณัก ลาปูฌ เอกอัครราชฑูตฝรั่งเศสประจำประเทศไทย เป็นประธานสักขีพยาน

ลอเรนซ์ โนเอล รองประธานอาวุโส อาเซียน กรุ๊ป พีเอสเอ กล่าวว่า กรุ๊ป พีเอสเอ มีความยินดีที่ได้ เอ็มจีซี-เอเชีย มาร่วมเป็นพัทธมิตรทางธุรกิจ ในฐานนะผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในประเทศไทย เนื่องจาก เอ็มจีซี-เอเชีย เป็นหนึ่งในผู้นำด้านธุรกิจค้าปลีกรถยนต์ รวมถึงธุรกิจ mobility ในอาเซียน พร้อมกับความเป็นมืออาชีพของเอ็มจีซี – เอเชีย จึงนับเป็นการเปิดโอกาสให้เราได้ทำตลาดในไทย รวมถึงนำเสนอสินค้าใหม่อีกมากมายในอนาคตเพิ่มจำนวนลูกค้ารายใหม่ ๆ ให้กับแบรนด์ เปอโยต์ ในไทย

ขณะที่ ดร. สัณหวุฒิ ธรรมชวนวิริยะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท มาสเตอร์ กรุ๊ป คอร์ปอเรชั่น (เอเชีย) จำกัด เปิดเผยว่า “ผมรู้สึกยินดีและเป็นเกียรติที่ได้รับความไว้วางใจจาก กรุ๊ป พีเอสเอ ให้เป็นผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์ เปอโยต์ อย่างเป็นทางการในไทย แต่เพียงผู้เดียวนับเป็นนิมิตหมายอันดีที่ทางกลุ่มบริษัทได้มีโอกาสขยายธุรกิจ ร่วมกับพันธมิตรธุรกิจระดับโลกอย่าง กรุ๊ป พีเอสเอ เรามีความเชื่อว่า สินค้าภายใต้ กรุ๊ป พีเอสเอ จะมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทย รวมถึงการบริการอย่างมืออาชีพ จากเอ็มจีซี –เอเชีย

ลอเรนซ์ โนเอล กล่าวเพิ่มเติมถึงการเลือกเอ็มจีซี-เอเชีย ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายเปอโยต์ในไทยว่า ในส่วนของกลุ่มพีเอสเอมีความสนใจตลาดภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยในปีที่ผ่านมา มียอดจำหน่ายรวมทั้งสิ้น 10,000 คัน โดยแบ่งเป็นแบรนด์เปอโยต์ 9,000 คัน และเป็นแบรนด์ซีตรอง และแบรนด์อื่นๆ อีก 1,000 คัน และในปีนี้ ทางพีเอสเอตั้งเป้าจำหน่ายสำหรับในภูมิภาคนี้ เพิ่มขึ้นมากกว่า 10,000 คัน ดังนั้น เราจึงมองหาผู้ที่จะเข้ามาดูแลและทำตลาดแบรนด์เปอโยต์ในภูมิภาคดังกล่าว และได้พบกับทางเอ็มจีซี-เอเชีย ที่เราชื่อมั่นว่า จะสามารถสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าในกลุ่มได้ทั้งหมด

ปัจจุบันกลุ่มพีเอสเอมีโรงงานผลิตรถยนต์เปอโยต์ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จำนวน 2 แห่งได้แก่ มาเลเซีย มีกำลังการผลิต 75,000 คัน และที่เวียดนาม 50,000 คัน ซึ่งทั้ง 2 แห่ง ผลิตรถยนต์รุ่น 3008 กับรุ่น 5008 และในปีถัดไปเรามีแผนจะผลิตเพิ่มอีก 2 รุ่น โดยรถเปอโยต์ที่ทาง เอ็มจีซี-เอเชีย จะนำเข้าจำหน่ายในไทยทั้ง 2 รุ่นมาจากโรงงานในประเทศมาเลเซีย

3 ประเด็นหลักสู่การเป็นตัวแทน

ดร.ยอร์ก บรอเยอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปอโยต์ ประเทศไทย กล่าวถึงสาเหตุที่มั่นใจในการเลือกเป็นผู้นำเข้าและจำหน่ายรถยนต์เปอโยต์ในประเทศไทยว่า หนึ่งด้านผลิตภัณฑ์ จะมีการเปิดตัวรถเปอโยต์รุ่นใหม่ออกสู่ตลาดไทย 2 รุ่นและตามมาอีกถึง 6 รุ่นด้วยกัน ในช่วงไม่กี่ปีข้างหน้านี้ ประกอบกับกลยุทธ์การเลือกนำรถยนต์ที่ผลิตในภูมิภาคเอเชียเข้ามาจำหน่าย ทำให้ราคาสามารถแข่งขันในตลาดได้

สอง ในส่วนของเซกเมนต์การทำตลาด ทางด้านราคา จะอยู่ระหว่าง 2 เซกเมนต์ใหญ่ คือ กลุ่มที่มีปริมาณการผลิตจำนวนมาก เรียกว่า กลุ่มแมส กับกลุ่มรถยนต์ระดับหรู ซึ่งเราจะอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 กลุ่มนี้ พูดง่าย ๆ คือ เปอโยต์จะนำเสนอรถยนต์ให้ครอบคลุมเซกเมนต์ใหม่ในประเทศไทย เรียกว่า “ไฮเอนด์-เมนสตรีม” ซึ่งมาจากคุณสมบัติที่ผสมผสานความเป็นพรีเมียมแบบรถยุโรป

สาม ด้านเชื่อมั่นด้านแผนการขยายเครือข่ายด้านการขายและบริการ ที่ไม่ใช่มีเฉพาะใน กทม.เท่านั้น หากครอบคลุมพื้นที่การให้บริการต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะนี้ อยู่ในระหว่างการหาพาร์ทเนอร์เข้ามาร่วมกันในการดำเนินงาน ทั้งหมดนี้ คือความเชื่อมั่นที่ทางเอ็มจีซี-เอเชีย มีต่อพีเอสเอ และแบรนด์รถยนต์เปอโยต์

ประเดิม เอสยูวี 2 รุ่น 3008-5008

ดร.ยอร์ก บรอเยอร์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทฯได้เตรียมแผนในการรุกตลาดเมืองไทยไว้โดยแผนระยะสั้น จะมีการเปิดตัวโมเดลใหม่ 2 รุ่น ได้แก่ รุ่น 3008 และรุ่น5008 ในงาน Big Motor Sale ช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ตามด้วยรถยนต์อีก 6 รุ่นใหม่ ภายใน 2 ปีข้างหน้า

ส่วนราคาของทั้ง 2 รุ่นนั้น ดร.ยอร์ก บรอเยอร์ กล่าวว่า ราคาจำหน่ายขณะนี้ ยังไม่สามารถแจ้งราคาที่ชัดเจนได้ เนื่องจากอยู่ในระหว่างการศึกษาเรื่องอุปกรณ์มาตรฐานที่จะมีอยู่ในตัวรถ แม้จะมีการกำหนดราคาตัวเลขกลมๆ แต่ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์มาตรฐาน ราคาก็จะขยับขึ้น-ลงตามไปด้วย อย่างไรก็ตาม หากทราบรายละเอียดต่างๆ ชัดเจนแล้ว จะแจ้งราคาให้ทราบอีกครั้งหนึ่ง

อย่างไรก็ตามราคาน่าจะไม่สูงมากนัก เนื่องจากการได้รับสิทธิประโยชน์จากข้อตกลงเขตการค้าเสรีอาเซียนหรือ อาฟต้า ที่ยกเว้นภาษีอากรนำเข้าให้กับสินค้าที่ผลิตภายในประเทศสมาชิก 0 % ดังนั้นทั้ง 2 รุ่น 3008 และรุ่น 5008 ซึ่งขึ้นไลน์ประกอบที่โรงงานในประเทศมาเลเซียจึงได้รับสิทธิประโยชน์นี้ด้วย

ขณะเดียวกันเตรียมแผนสร้างเครือข่ายโชว์รูม เริ่มในปี 2020 จะมีการขยายเครือข่ายด้านการขายและบริการหลังการขาย และเฟสที่ 3 จะขายเครือข่ายด้านการขายและบริการหลังการขายเพิ่มขึ้น พร้อมกับการนำโมเดลรุ่นใหม่เข้ามาทำตลาดให้มีความหลากหลายมากขึ้น

อย่างไรก็ตาม การขยายเครือข่ายจะต้องสอดคล้องกับยอดจำหน่าย ในช่วงแรก ทางเอ็มจีซี-เอเชีย จะลงทุนในการสร้างเครือข่าย เนื่องจากมีพื้นฐานและศักยภาพ แบ่งเป็นเขตกรุงเทพฯ อย่างน้อย 4 แห่ง และในต่างจังหวัด จะเน้นเฉพาะหัวเมืองขนาดใหญ่ จำนวน10 แห่ง ซึ่งเราจะสรรหาพาร์ทเนอร์ที่มีความสนใจและมีศักยภาพในการลงทุน เป็นผู้ดำเนินการในส่วนนี้

ถึงบรรทัดนี้ หากมองให้ลึกลงไปถ้าเปอโยต์ภายใต้การดูแลของเอ็มจีซี-เอเชีย ตัดสินใจทำราคาในระดับนี้ นั่นหมายความว่า ตลาดเอสยูวี กำลังเข้าสู่โหมดการใช้ราคาเป็นตัวนำทาง ซึ่งแน่นอนว่า ผลดีย่อมเกิดกับผู้บริโภคอย่างเราๆ มีทางเลือกมากขึ้น ส่วนในระยะยาวคงยังไม่สามารถบอกได้เพราะมีเงื่อนไขต่างๆ มากมาย แต่หากมองเฉพาะการดูแลของ เอ็มจีซี-เอเชียในปัจจุบันแล้วถือว่า มั่นใจและเชื่อมือได้