หลังจากกระทรวงสาธารณสุขพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย โดยพบว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน 2 ราย ซึ่งเดินทางกลับจากเที่ยวญี่ปุ่น และอีกรายเป็นหลาน 8 ขวบไม่ได้เดินทางแต่ติดเชื้อจากปู่ย่า แต่ทางกระทรวงฯย้ำว่า ไม่ใช่เคสที่เรียกว่า Super spreader จึงเกิดคำถามว่าจะมีการดำเนินการอย่างไรเพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อ รวมทั้งกรณีสายการบินที่ออกตั๋วราคาถูกเดินทางไปประเทศเสี่ยงนั้น
ด่วน! ไทยพบผู้ป่วยโควิด-19 เพิ่ม 3 ราย ยันไม่ใช่ “super spreader”
ไทยพบผู้ป่วย “โควิด-19” อีกราย หลังเจ้าตัวปิดข้อมูลเดินทางปท.เสี่ยง
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 26 ก.พ.2563 ที่กระทรวงสาธารณสุข(สธ.) นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข(สธ.) กล่าวว่า กรณีพบผู้ป่วยเพิ่มอีก 3 ราย และทางรพ.บี.แคร์ ออกแถลงการณ์เรื่องนี้ ว่า พบผู้ป่วย ซึ่งเป็นปู่ย่าสองสามีภรรยาเดินทางไปเที่ยวฮอกไกโด ที่ญี่ปุ่น และหลาน 8 ขวบก็ป่วยแต่ไม่ได้ร่วมเดินทาง แต่ติดจากความใกล้ชิด เคสนี้ถือเสี่ยงเป็น Super spreader แต่โชคดีที่เราคุมได้ จนไม่ถึงขั้น Super spreader เพราะลุงที่ป่วยตอนแรกก็ไม่ยอมบอกว่ามีประวัติเดินทาง และหากคุมไม่อยู่ เชื้อก็จะแพร่ได้ จะเหมือนของเกาหลีใต้ โลกมีอาจุมม่าแล้ว ที่แพร่เชื้อแบบ Super spreader เราไม่อยากมีคุณลุงมาแพร่เชื้อในไทย ดังนั้น ทางที่ดีที่สุดอย่าไปตอนนี้เลย” นายอนุทินกล่าว
เมื่อถามว่าผู้ป่วยที่ไปฮอกไกโดปิดข้อมูลด้วย นายอนุทิน กล่าวว่า วันแรกเขาไม่แจ้ง แต่มาแจ้งวันหลัง จริงๆไม่ได้ปกปิดเลย ซึ่งรพ.ก็แถลงทันที ทำให้กรมควบคุมโรคเข้าไปดำเนินการควบคุมได้ แต่หากมีเคสลักษณะนี้บ่อยๆ ก็คงต้องอาศัยกฏหมายโรคติดต่ออันตราย อย่างไรก็ตาม กรณีตั๋วถูกขอย้ำว่า ขอให้รักตัวเอง และต้องไม่แพร่เชื้อไปยังผู้อื่น และอย่าทำให้คนอื่นเดือดร้อน เพราะถ้าทำเมื่อไหร่คงต้องใช้กฎหมายโรคติดต่ออันตราย
ผู้สื่อข่าวถามว่าอย่างรัฐมนตรีที่กลับจากเกาหลีใต้ต้องเฝ้าระวัง 14 วันหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า ถามเพื่ออะไร เขามีอาการหรือไม่ จริงๆ ก็ต้องเฝ้าระวัง 14 วัน ถึงจะเป็นรัฐมนตรี หรือใครก็ตาม ส่วนประกาศโรคติดต่ออันตราย ขณะนี้ยังไม่บังคับใช้ ก็น่าจะวันนี้(26 ก.พ.)