โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“หม่ำ จ๊กมก” ทำหนังไม่หวังรายได้ หวังคนดูมีความสุข

daradaily

อัพเดต 06 ธ.ค. 2562 เวลา 12.53 น. • เผยแพร่ 06 ธ.ค. 2562 เวลา 12.52 น.

“หม่ำ จ๊กมก” ทำหนังไม่หวังรายได้ หวังคนดูมีความสุข

      ได้ฤกษ์ดีบวงสรวงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับภาพยนตร์ตลกเรื่อง “คุณชายใหญ่”  ที่ได้ผู้กำกับฯ ฝีมือดีอย่าง “เพ็ชรทาย วงศ์คำเหลา” หรือ“หม่ำ จ๊กมก” ที่เรียกว่ามาดูแลเองเกือบจะทุกขั้นตอน แถมเรื่องนี้ยังแสดงเป็น พระเอก ตัวร้าย คนใช้ ยันเด็กน้อย ล่าสุดมีโอกาสเจอตัวเลยไม่พลาดที่จะถามถึงเรื่องภาพยนตร์เรื่องนี้สักหน่อย ซึ่งเจ้าตัวเผยว่า

      เป็นหนังอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยากทำให้คนดูมีความสุข และก็เป็นเรื่องแรกที่ร่วมงานกับพระนครฯ ก็อยากให้คนมาดูเยอะๆ ซึ่งก็คุยกับเขามาหลายครั้งแล้ว แต่ไม่ได้มีโอกาสได้คุยจริงจัง พอมีเรื่องนี้เข้ามาเลยลองไปคุยดู แล้วเขาก็ชอบและอยากให้ทำเลย 

      ส่วนตัวเราเป็นคนชอบหนังอยู่แล้ว ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกที่เราได้เล่น กำกับ ถ่าย เข็นดอลลี่ จัดแสง เสิร์ฟน้ำ เรียกได้ว่าแทบจะทำทุกอย่างเอง ซึ่งด้านการลงทุนพระนครฯ เขาเป็นคนจัดสรร และงบประมาณการสร้างก็เยอะอยู่ เพราะมันจะช้ากว่าหนังปกติ จะไม่เหมือนหนังแอ็คชั่นที่จะต้องดับเบิล ถ้าเปรียบเทียบหนังธรรมดา 10 บาท หนังแอ็คชั่นก็จะเป็น 30 ถ้าเราใช้ทุนเท่านี้ก็จะออกมาประมาณนี้ ซึ่งหนังของเราก็อาจจะต้องดับเบิลไปอีกนิดหน่อย เพราะมีการเสียเวลาในการแต่งตัว ที่ต้องแต่งทีเดียวแล้วเล่นทีเดียวใน 1 วัน ที่เป็นคิวของนักแสดง ถ้าพรุ่งนี้มาเล่นซีนเดิมแล้วต้องเปลี่ยนชุดใน 6 บทบาท ก็จะใช้เวลา 6 วันในการถ่าย 

       สำหรับความเครียดของเราจะอยู่ที่เรื่องแต่งหน้า เพราะใช้เวลานานเกือบ 3 ชั่วโมง ซึ่งเราไม่เคยใช้เวลาฟิตติ้งหนังนานถึง 3-5 เรื่องนี้เป็นเรื่องแรกเลย แล้ววันแรกเราก็ฟิตติ้ง 2 ตัวละคร ใช้เวลา 2-4 ชั่วโมง ถ่ายภาพนิ่งก็ครึ่งชั่วโมง ถ้าคนหงุดหงิดง่ายก็คือจบเลย ซึ่งเราก็ขี้หงุดหงิดอยู่แล้ว

       ด้านลูกสาว “เอ็ม บุษราคัม” เขาก็ไม่ห้ามเรา เพราะเป็นสิ่งที่เรารัก ซึ่งเราชอบภาพยนตร์ ชอบตลก มันอยู่ในสายเลือด เป็นอะไรที่ชื่นชอบมากๆ ถ้าเป็นเรื่องดูหนังก็จะมาเป็นที่ 1 เลย ซึ่งตัวเขาก็อยากให้เราพัก เพราะปีนี้ทั้งปีเราได้เจอหลานคนเล็กแค่ 4 ครั้ง คนที่ 2 ก็เพิ่งคลอดมาได้ 3 เดือนกว่า ก็เจอแค่ 4 ครั้งเหมือนกัน แล้วก็หลานคนโตก็ได้เจอประมาณ 7 ครั้ง ส่วนใหญ่เขาก็พามาหา ยิ่งปีนี้เราได้ไปหาก็ประมาณ 2-3 ครั้ง ล่าสุดวันก่อนเขาก็เพิ่งพามาหา ซึ่งปีหน้าเราก็แพลนไว้แล้วว่าจะพาครอบครัวทั้งหมดไปเที่ยวกันที่ใกล้ๆ เช่น เขมร พม่า ที่ยังไม่เคยไป เพราะเราขี้เกียจนั่งเครื่องไปไกล

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0