“หม่อมป้อม” เปิดตำหรับ 14 สมุนไพรไทย! “อาหาร” คือ “ยา”
บทความก่อนนหน้านี้ได้พูดถึงตัวอย่างการจับคู่ผักสมุนไพรกับอาหารเพื่อแก้กัน ครั้งนี้เรามาลองดู ตัวอย่างสรรพคุณของผักสมุนไพรไทยกันบ้าง เช่น
กระชาย
มีวิตามินเอสูง วิตามินซี วิตามินบี1 วิตามินบี3 วิตามินบี6 แคลเซียม ธาตุเหล็ก และมีสารเคอร์คูมิน (Curcumin) ซึ่งมีฤทธิ์ช่วยต้านการอักเสบและต้านอนุมูลอิสสระทำให้เซลล์ในร่างกายไม่เสื่อมเร็ว
กระเจี๊ยบเขียว
เมือกลื่นในฝักกระเจี๊ยบจะช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร ช่วยรักษาโรคกระเพาะอาหารหรือลำไส้อักเสบได้ ช่วยควบคุมน้ำตาลระดับในเลือดได้เนื่องจากในฝักกระเจี๊ยบเขียวมีเส้นใยอาหารอยู่เป็นจำนวนมาก โดยจะรักษาระดับการดูดซึมน้ำตาลจากลำไส้ใหญ่ให้คงที่ จึงเหมาะกับผู้ป่วยโรคเบาหวาน อีกทั้งยังช่วยลดคอเลสเตอรอล
ดอกแค
ช่วยเสริมสร้างกระดูกเพราะมีแคลเซียม ฟอสฟอรัสสูง แก้อาการท้องเดิน ท้องร่วง สมานแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ แก้บิดมูกเลือด แก้ไข้หัวลม มีเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายสามารถเปลี่ยนเป็นวิตามินเอซึ่งช่วยบำรุงสายตาและต้านมะเร็ง
หัวปลี
มีธาตุเหล็ก ช่วยบำรุงเลือด แก้โลหิตจาง และลดน้ำตาลในเลือดได้ รวมทั้งยังแก้โรคเกี่ยวกับลำไส้ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
ตำลึง
มีสรรพคุณระบายท้อง ลดอาการอึดอัดท้องหลังจากรับประทานอาหาร เนื่องจากตำลึงมีสารช่วยย่อยแป้ง และยังแก้ร้อนในได้ด้วย
ชะพลู
รักษาโรคหืดและแก้บิด ราก ขับเสมหะให้ออกทางระบบขับถ่าย ขับลมในลำไส้ แก้ธาตุพิการ บำรุงธาตุ แก้ท้องอืดเฟ้อ ขับลม แก้บิด แต่ถ้ากินใบชะพลูในปริมาณมากเกินไป อาจเกิดผลเสียได้ เพราะมีสารออกซาเลต (Oxalate)ที่หากสะสมในร่างกายมากๆอาจก่อให้เกิดนิ่วในไต
มะแว้ง
มีฤทธิ์บรรเทาอาการไอ ป้องกันอาหารเป็นพิษ รักษาแผลในกระเพาะอาหาร และรักษาโรคเบาหวานได้
ถั่วพู
มีสรรพคุณในการบำรุงกำลัง แก้อาการร้อนใน หอบหืด
ดอกโสน
บำรุงกระดูก บำรุงสมอง บำรุงเลือด แก้ปวดมวนท้องได้ เป็นยาเย็นแก้พิษร้อน ถอนพิษแมลงสัตว์กัดต่อย อุดมไปด้วยแคลเซียม ฟอสฟอรัส เหล็ก วิตามินเอ วิตามินบี วิตามินบี1
มะอึก
กัดฟอกเสมหะ แก้ไอ แก้น้ำลายเหนียว แก้ไข้สันนิบาต กระทุ้งพิษ ดับพิษร้อน
ไหลบัว
แก้อ่อนเพลีย บำรุงหัวใจ มีเส้นใยอาหารมากจึงช่วยแก้ท้องผูกได้อีกด้วย
ผักกูด
แก้ไข้ตัวร้อน แก้พิษอักเสบ บำรุงสายตา บำรุงโลหิต แก้โลหิตจาง ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน ขับปัสสาวะ
ใบบัวบก
ช่วยขบวนการสมานแผลให้หายเร็วขึ้น ช่วยให้มีสมาธิและความจำดีขึ้น ลดความดันโลหิตโดยการเพิ่มความยืดหยุ่นของเส้นเลือด ใบบัวบกยังมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยเบาหวานเพราะช่วยเพิ่มการไหลเวียนผ่านเส้นเลือดฝอย
ตะลิงปลิง
ช่วยในการย่อยอาหาร เพิ่มกรดในกระเพาะอาหาร กระตุ้นภูมิคุ้มกัน แก้อาการคันคอ แก้อาการไอ ลดอาการอักเสบบริเวณคอ ละลายเสมหะ ช่วยดันเสมหะให้ออกง่าย
ยังมีอีกมากมายที่เหลือให้เราไปค้นคว้าเพิ่ม เพราะความรู้ในเรื่องผักสมุนไพรไทยเป็นประโยชน์กับชีวิตของคนไทยมากมาย กินอยู่อย่างไรให้ห่างไกลโรค ลองมองกลับไปดูว่าคนไทยโบราณเขาเห็นจะไม่มีโรคอ้วน ความดันโลหิตสูง เบาหวาน ไขมันในเลือดกันมากมายเหมือนคนสมัยนี้เลย
ภาพประกอบ
http://www.laddagardenshop.com
http://www.monmai.com
