จากกรณี นายภาคภูมิ เดชหัสดิน นักเทคนิคการแพทย์ หรือ หมอแล็บแพนด้า ได้โพสข้อความเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ หมอดึงมะเร็ง หรือหมอสะกินมะเร็ง โดยระบุว่า วิธีการก็คือ เขาจะทายาที่ทำขึ้นมาเอง ทาทั้งลำตัวและด้านหลังของเรา จากนั้นก็จะใช้เข็มเย็บผ้าประมาณเบอร์ 10 สะกิดตามตุ่ม ตามไฝ หรือหรือจุดต่าง ๆ บนผิวหนัง บางทีก็จะใช้แหนบ ใช้ดึงตามที่เห็นในภาพ แล้วก็บอกว่านี่ไง ๆ ดึงเส้นมะเร็งออกแล้ว คนนะไม่ใช่คางคก
จะได้ดึงเส้นเมาออก เราก็สบายใจสิ ดึงมะเร็งออกไปแล้ว บางคนมีจุดแดง ๆ ตามตัว เขาก็บอกว่า นี่คือจุดที่ติดเชื้อไวรัส ต้องดึงออก ต้องสะกิดออก ไม่มีการฆ่าเชื้อที่เข็มใด ๆ ทั้งสิ้น โอ้ย ปี 2020 แล้วพี่น้อง อย่าไปหลงเชื่อนะครับ
วันที่ 18 ม.ค. 63 ทีมข่าวอมรินทร์ ทีวี พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่สาธารณสุข และผู้ใหญ่บ้าน เดินทางไปบ้านหมอจวบ ในพื้นที่หมู่ 3 บ้านท่าแดง ต.เกาะหวาย อ.ปากพลี จ.นครนายก เพื่อจะเข้าพบกับหมอจวบ หลังหมอแล็บแพนด้าได้โพสข้อความ และภาพการรักษา เพื่อทำการตรวจสอบข้อเท็จจริง แต่เมื่อมาถึงที่บ้านหลังดังกล่าว กลับไม่พบตัวหมอจวบ โดยประตูบ้านได้ถูกปิดไว้ ทางผู้ใหญ่บ้านและเจ้าหน้าที่สาธารณะสุขได้ตะโกนเรียกแต่ไม่มีเสียงตอบรับ
นายวัลลภ ธัญญะวุฒิศิริ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ตำบลเกาะหวาย เปิดเผยว่า ตนทราบข่าวเกี่ยวกับหมอจวบเรื่องรักษาโรคมะเร็งมาพอสมควร โดยหมอจวบได้ทำการรักษาคนป่วยโรคมะเร็งมาประมาณ 10 ปี ซึ่งหมอจวบไม่ใช่คนในพื้นที่ เป็นคนบ้านโคกสว่าง ตำบลปากพลี ที่ผ่านมาตนทราบเพียงว่ามีคนเข้ามารักษากับหมอจวบ แต่ไม่ทราบว่าหายจากอาการป่วยหรือไม่อย่างไร ซึ่งการรักษาของหมอจวบมีการนวด จับเส้น และการสะกิดเข็ม ทั้งนี้ชาวบ้านในพื้นที่จะไม่เข้ามาทำการรักษากับหมอจวบแต่จะเป็นคนนอกพื้นที่
ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวได้พบกับผู้ที่เคยเข้าทำการรักษากับหมอจวบ คือนายสมทรง บุญมา อายุ 70 ปี เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาหมอจวบ รักษาโรคเอดส์ และตอนนี้ก็รักษาโรคมะเร็ง ที่ผ่านมาตนเคยไปรักษากับหมอจวบ 1 ครั้ง เมื่อสิบกว่าปีก่อน ซึ่งตอนนั้นตนเมาและมีอาการปวดท้อง
โดยหมอจวบใช้วิธีใช้ยาทาตามร่างกายและใช้เข็มขิตและบ่งตามจุดต่าง ๆ ตามท้องและร่างกาย ซึ่งก็ไม่ได้คิดค่ารักษาแต่อย่างใด ส่วนผู้ที่มารักษาไม่ใช่คนในพื้นที่ ส่วนมากจะเป็นคนอิสลาม เท่าที่ตนเห็นหมอจวบก็ทำการรักษามานานกว่า 20 ปี นอกจากนี้หมอจวบก็มีอาชีพทำนาควบคู่กับการรักษา
ขณะที่ นายปพนศักดิ์ ขันติชัยมงคล ปลัดอาวุโส เปิดเผยว่า การดึงเส้นมะเร็งออกจากท้อง เป็นความเชื่อส่วนบุคคล ส่วนวิธีดังกล่าวจะรักษาให้หายจากโรคมะเร็งนั้น เป็นไปไม่ได้ โดยหลังจากนี้ต้องรอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบ และเข้ามาพูดคุยสอบถามข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น แต่ในขณะนี้หมอจวบไม่อยู่ ซึ่งต้องรอหมอจวบกลับมาเสียก่อน
https://youtu.be/O_aoDAviUdE