ไทยพีบีเอสออนไลน์ รวบรวมข้อมูลจากมติ ครม. ที่มีการอนุมัติงบฯ เพื่อใช้ผลิตและแจกจ่ายหน้ากากอนามัยในการรับมือกับโควิด-19 ซึ่งรวมใช้งบฯ กว่า 1,000 ล้านบาท โดยมีรายละเอียดดังนี้
วันที่ 3 มีนาคม 2563
ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย ใช้งบประมาณกลาง 225 ล้านบาท เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 7,774 แห่งทั่วประเทศ รวมถึงกรุงเทพมหานคร เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ทุกจังหวัด ผลิตหน้ากากผ้า เพื่อทดแทนการขาดแคลนหน้ากากอนามัย โดยมีเป้าหมาย 50 ล้านชิ้น
วันที่ 17 มีนาคม 2563
ครม.มีมติเห็นชอบให้จัดสรรงบประมาณรายจ่าย งบกลาง 65 ล้านบาท ให้กระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อผลิตหน้ากากผ้าและแจกจ่ายให้ประชาชนในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมถึงพื้นที่เสี่ยงอื่น 10 ล้านชิ้น ส่งไปยังบ้านเรือนประชาชน 5.6 ล้านชิ้น จำนวน 3,050,000 ครัวเรือน และอีก 4.4 ล้านชิ้น ส่งตามหน่วยงาน
วันที่ 7 เมษายน 2563
คณะรัฐมนตรี(ครม.) เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น กรอบวงเงิน 801,066,000 บาท เพื่อดำเนินโครงการบริหารจัดการหน้ากากอนามัยในสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ประกอบด้วย
1.ค่าจัดซื้อหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ สำหรับกระจายให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยง จำนวน 770,400,000 บาท
2.ค่าบริหารจัดการและกระจายสินค้า จำนวน 30,666,000 บาท และทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณตามขั้นตอนต่อไป และให้ประสานงานร่วมกับกระทรวงมหาดไทย เพื่อดำเนินการจัดสรรและกระจายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชนกลุ่มเสี่ยงตามลำดับความสำคัญอย่างเหมาะสม ทั่วถึง และเป็นธรรม
3.การจัดซื้อหน้ากากอนามัย กระทรวงพาณิชย์จัดซื้อโดยตรงจากโรงงานผู้ผลิตตามกำลังผลิตที่มีอย่างเหมาะสม
4.ให้บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เป็นผู้จัดส่งหน้ากากอนามัยจากโรงงานผู้ผลิตไปให้กระทรวงมหาดไทย เพื่อกระจายต่อไปยังประชาชนกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ตามความเหมาะสม ในเดือนเมษายน-ตุลาคม 2563
รวมงบประมาณทั้งหมด 1,091 ล้านบาท