“หนุ่ม-อนุวัต” ชีวิตนี้ทำได้อย่างเดียวคือ พูดเก่ง!
เริ่มต้นการสนทนาแบบสบายๆ กับหนุ่มนักข่าวสุดฮอต เราก็เจอกับคำพูดที่ว่า “ชีวิตนี้ทำได้อย่างเดียวคือพูดเก่ง ที่เหลือตกหมด” นี่คือคำพูดที่เราสัมผัสได้ถึงความถ่อมตัวของ “หนุ่ม-อนุวัต เฟื่องทองแดง” นักข่าวพลังล้นเหลือจากช่องมากสี วันนี้เรามีโอกาสได้คุยกับตัวเป็นๆ ของเขาถึงตัวตนว่าเป็นอย่างที่เราเห็นในจอทีวีหรือไม่
“นี่คือการแสดงหรือเปล่า”
ด้วยลีลาการรายงานอันเป็นเอกลักษณ์ของ หนุ่ม-อนุวัต จึงกลายเป็นคำถามแรกที่ว่า “นี่คือการแสดงหรือเปล่า”
“จริงๆ เราเป็นคนแบบนี้” คุณหนุ่มอธิบาย “บุคลิกเราเป็นแบบนี้แล้วเราก็อยากจะทำรายการแบบนี้ ก็มีคนบอกว่าไปรายงานข่าวทำไมไม่ใส่แจ๊คเก็ต เราก็เอ๊ะ…ไปรายงานข่าวน้ำท่วมต้องใส่แจ๊คเก็ตหรอ”
“เรานำเสนอตามข้อเท็จจริง ไม่ได้เวอร์กว่าความเป็นจริงเลย เช่นเวลาเจออะไรสวย ก็ไม่จำเป็นต้องโหหหห!!!!! สวยจังเลย เราก็จะรายงานตามจริงของมัน”
“นี่คือตัวเราเป็นคนบ้าๆ บอๆ เป็นผู้ประกาศที่ไม่มีอิมเมจเลย ชีวิตในจอกับนอกจอเป็นเหมือนกัน เราอยากทำแล้วมีความสุข ในขอบเขตของความถูกต้องและกฎระเบียบของช่องนะไม่ใช่ว่าจะทำเล่นกับทุกข่าวไปหมด ข่าวฆ่ากันเราก็เป็นไปตามบุคลิกของข่าว จะให้ยิ้มรายงานก็คงไม่ได้”
“ถ้าจะมองท้องฟ้าให้สวย มันต้องมองดาวเล็กใหญ่ประกอบเข้าด้วยกัน”
“เราอาจจะสวนทางคนอื่น เพราะคนอื่นเขาจะดูดีทุกอย่าง ฟังแล้วดูน่าเชื่อถือ แต่เรากลับสวนทางหมดเลย” คุณหนุ่มหัวเราะ เมื่อเล่าถึงตัวเอง
“พี่ก็จะให้กำลังใจกับตัวเองและน้องๆ ทุกคน ที่อาจจะเกิดมาไม่สวย ไม่หล่อ เกิดมาดำ เกิดมาอ้วน พี่อยากให้คิดว่าตัวเองเหมือนอยู่บนท้องฟ้า ท้องฟ้าเนี่ยมันไม่มีดาวทุกดวงที่เจิดจรัสสวยหมด”
“ท้องฟ้ามันมีดาวลูกไก่ ดาวหมีใหญ่ ดาวหางอะไรมากมาย ถ้าเราจะมองท้องฟ้าให้สวยมันต้องมองดาวเล็กดาวใหญ่ประกอบเข้าด้วยกัน มันไม่มีทางที่ดาวทุกดวงจะส่องสว่างเท่ากันให้กลายเป็นท้องฟ้า”
“ให้นึกว่าเราไม่ใช่ดาวที่ส่องสว่าง แต่เราเป็นดาวที่เอกลักษณ์เฉพาะตัว เราอาจจะเป็นดาวหางฮัลเลย์ อาจจะเป็นดาวพลูโต เป็นดาวอะไรก็แล้วแต่ที่ประกอบแล้วสวย พี่ว่าคนในวงการข่าวต้องการแบบนั้น แล้วพี่ก็จะบอกผู้ใหญ่ทุกคนว่าผมบุคลิกแบบนี้ครับ ผมเป็นคนแบบนี้ครับ”
“ชอบหมดทั้งอยู่หน้าจอและภาคสนาม”
ในเมื่อเป็นคนที่มีความสามารถมากมายขนาดนี้ คุณหนุ่มจะชอบอะไรมากกว่ากันระหว่างการรายงานในห้องส่งกับออกภาคสนาม “ชอบหมดทั้งอยู่หน้าจอและภาคสนาม” คุณหนุ่มกล่าว “อยู่หน้าจอก็ได้เงินเยอะดี” คุณหนุ่มหัวเราะ
แต่เงินก็ไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตเรา สิ่งที่ได้คือประสบการณ์ที่อาชีพอื่นก็หาไม่ได้ เขาทุกเขาในประเทศไทยเราได้ขึ้นไปแตะ บรรยากาศทุกบรรยากาศเราได้ไปซึมซับ เรากลายเป็นคนซึบซับคนได้ทุกภาค ถ้าเราไปทำอาชีพอื่น…ที่อาจจะรวยกว่านี้นะ เราก็ไม่มีโอกาสได้ไปสัมผัสสิ่งเหล่านี้”
แต่ถ้าเราไม่พูดเรื่องเงินล่ะ? คุณหนุ่มเล่าเปรียบเทียบให้ฟังว่า “อยู่ภาคสนามก็ได้เจอผู้คนมากมายหลายสถานที่ ได้ประสบการณ์ชีวิต แต่ถ้าหน้าจอจะได้เห็นข่าวหลากหลายมากขึ้น ก็จะได้พัฒนาตัวเองไปอีกแบบหนึ่ง”
“ขอโทษนะครับ เราจะไม่พาดพิงถึงบุคคลที่สาม”
นอกเหนือจากบทบาทการเป็นนักข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว คุณหนุ่มยังอาศัยโซเชียลมีเดียเป็นช่องทางในการช่วยเหลือคนอื่นอีกด้วย ทั้งการตามหาเจ้าของเมื่อมีของหาย หรือแม้แต่เจออะไรสวยๆ งามๆ แล้วอยากโปรโมท “สำเร็จบ้างไม่สำเร็จบ้าง แต่อย่างน้อยเราก็ใช้สื่อในมือของเราทำในสิ่งที่เราคิดได้”
คำถามต่อมาคือคุณหนุ่มจัดการยังไงไม่ให้ข้ามเส้นของการทำหน้าที่รายการข่าวกับการประจานคนอื่น? คุณหนุ่ม-อนุวัต ทิ้งท้ายไว้ว่า
“มีหลายคนที่แท็กเข้ามาในเพจเหมือนกัน เช่น ‘จัดการเลยค่ะ เพจนี้หลอกลวงคน ซื้อของออนไลน์แล้วไม่ได้’ หรือ ‘เขาหลอกเอาบัตรประชาชนหนูไปแล้วเอาหนูไปเป็นผู้เสียหาย’ เราก็จะขอโทษนะครับ เราจะไม่พาดพิงถึงบุคคลที่สาม”
“เราก็ถามต่อว่าเรารู้จักกันไหม” คุณหนุ่มอธิบายต่อถึงเหตุผลที่ตอบแบบนั้น “เราสื่อสารกันด้วยโลกออนไลน์ ใจเขาใจเรา เราไม่รู้ว่าคุณคือใคร แล้ววันหนึ่งคุณอยากกลั่นแกล้งใครด้วยการเอาคนอื่นมาอุปโลกน์ไว้สักคนหนึ่ง แล้วเอามาให้ผมโพสต์ จริงไม่จริงไม่รู้ แต่เราโพสต์ทำลายเขาแล้ว เราจะเอาสิ่งที่แชร์แล้วช่วยเหลือคนอื่นดีกว่าครับ”