โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“หญิงหน่อย”สวนกลับ “บิ๊กตู่-สมคิด”ปมบัตรคนจน

new18

อัพเดต 18 ต.ค. 2561 เวลา 10.08 น. • เผยแพร่ 18 ต.ค. 2561 เวลา 10.05 น. • new18
“หญิงหน่อย”สวนกลับ “บิ๊กตู่-สมคิด”ปมบัตรคนจน
“คุณหญิงสุดารัตน์” สวนกลับ “บิ๊กตู่-สมคิด” กรณีพูดถึงบัตรคนจน บอกหากเปิดใจรับฟังความห่วงใยต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลของประชาชน ศึกษาข้อมูลให้ดีจะเห็นปัญหาที่ต้องแก้ไข มิใช่แก้แค่การสั่งเปลี่ยนชื่อบัตร

“คุณหญิงสุดารัตน์” สวนกลับ “บิ๊กตู่-สมคิด” กรณีพูดถึงบัตรคนจน บอกหากเปิดใจรับฟังความห่วงใยต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลของประชาชน ศึกษาข้อมูลให้ดีจะเห็นปัญหาที่ต้องแก้ไข มิใช่แก้แค่การสั่งเปลี่ยนชื่อบัตร

เมื่อวันที่ 18 ต.ค.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แกนนำพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กระบุว่า คงต้องขออนุญาตกลับมาพูดเรื่อง"โครงการหลักประกันสุขภาพ" อีกครั้งหนึ่งนะคะ หลังจากที่ได้เขียนลงเฟซบุ๊ก สะท้อนปัญหาและความห่วงใยไปเมื่อวานก่อน ทั้งที่ไม่อยากให้เป็นการตอบโต้กันไปมา แต่เมื่อได้ฟังผู้มีอำนาจทั้งสองท่านคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และดร.สมคิด จาตุศรีพิพทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดเรื่องนี้อย่างไม่เข้าใจ และไม่ฟัง เลยต้องมาโพสต์อีกครั้ง ประเด็นที่ได้แสดงความห่วงใยและท้วงติง คือ ที่ ครม.มีมติให้ “บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ซึ่งถูกเรียกกันอย่างแพร่หลายว่า “บัตรคนจน” รักษาฟรีทั้งที่ประชาชนได้รับสิทธิ์การรักษาฟรีอยู่แล้ว ตามโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า หรือโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่ให้สิทธิคนไทยทุกคน ได้เข้าถึงการรักษาที่มีคุณภาพดีทัดเทียมกัน โดยไม่แบ่งแยกว่าคนผู้นั้นจะมีฐานะยากจนแค่ไหน ก็ต้องมีสิทธิ์ได้รับการรักษาพยาบาลในมาตรฐานเดียวกันกับคนอื่น
คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าวต่อว่า แต่จากมติ ครม.นี้ ดิฉันเกรงว่าจะทำให้เกิดผลเสีย เพราะเป็นการแยกคนที่ขึ้นทะเบียนคนจนจำนวน 11.4 ล้าน ที่ใช้บัตรสวัสดิการแห่งรัฐในการรักษาฟรีออกมาซึ่งอาจจะทำให้เกิดปัญหาเหมือนอย่างที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 2519 ที่คน “ยากจน”ต้องใช้ “บัตรอนาถา”ในการรักษาฟรี ทำให้ได้คุณภาพการรักษาที่ไม่ทัดเทียกัน ซึ่งปัญหานี้ได้ถูกแก้ไข เมื่อมีโครงการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทำให้คนไทยทุกคนมีโอกาสเข้ารับการรักษาพยาบาลที่มีคุณภาพทัดเทียมกัน จึงได้เรียกว่า “บัตรทอง” แล้วทำไมเราต้องทำย้อนยุค วนกลับไปเจอปัญหาเดิมอีก ทั้งที่การทำงานน่าจะมีแต่ต้องพัฒนาไปข้างหน้าให้ดีขึ้น
เลยทำให้ไม่เข้าใจว่า มตินี้ออกมาเพื่ออะไร หรือต้องการเพิ่มสิทธิของบัตรคนจน เพื่อหวังในคะแนนนิยมเท่านั้น โดยไม่เข้าใจว่าจะเกิดผลกระทบอย่างไร เห็นด้วยอย่างยิ่งค่ะ ว่าเราไม่ควรจะทำการเมืองแบบเก่าๆกันอีกแล้ว ดังนั้นจึงหวังว่า ท่านผู้มีอำนาจทั้งสองจะเปิดใจรับฟังความห่วงใยต่อคุณภาพการรักษาพยาบาลของประชาชนบ้าง ถ้ารับฟังและศึกษาข้อมูลให้ดีท่านจะเห็นปัญหาที่จะต้องแก้ไข ที่มิใช่แก้แค่การสั่งเปลี่ยนชื่อบัตรเท่านั้น
ส่วนเรื่องชื่อบัตรคนจนดิฉันมั่นใจว่าไม่ได้ เรียกอยู่คนเดียว ถ้ารองนายกฯสมคิด ให้ทีมงานทำการบ้านเปิดข่าวออนไลน์หรือตามสื่อต่างๆให้ท่านดู ท่านก็จะทราบความจริงว่าใครๆเขาก็เรียกบัตรของท่านว่าบัตรคนจนมานานแล้ว สำหรับประเด็นที่รองนายกฯสมคิด พูดว่าถ้าทำ ต้องทำให้ได้ดีกว่าบัตรประชารัฐนั้น ขอเรียนว่าพวกเรามีวิธีคิด วิธีทำงานที่ต่างจากที่รัฐบาลนี้ ทำมากว่า 4 ปี เราให้ความสำคัญกับการสนับสนุน และกระจายรายได้ให้ธุรกิจขนาดกลาง ขนาดเล็ก สตาร์ทอัพ ตลอดจนเกษตรกรซึ่งเป็นคนตัวเล็ก แต่เป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ เพราะการเพิ่มเงินในกระเป๋าของคนส่วนใหญ่เหล่านี้ จะสร้างกำลังซื้อภายในประเทศที่จะทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนเติบโตได้ต่อเนื่อง เรามั่นใจว่าเรามีวิธีที่จะสร้างโอกาส สร้างงาน สร้างรายได้ เพื่อเพิ่มเงินในกระเป๋าให้ประชาชนโดยตรง แบบ ไม่ใช่ให้แค่ผ่านมือคนจนไปสู่ ธุรกิจขนาดใหญ่เท่านั้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0