โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“สุเทพ”ไม่รอด! ป.ป.ช.ชี้มูลผิดฮั้วประมูลสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง

TNN ช่อง16

อัพเดต 23 ก.ค. 2562 เวลา 03.41 น. • เผยแพร่ 23 ก.ค. 2562 เวลา 03.41 น. • TNN Thailand
“สุเทพ”ไม่รอด! ป.ป.ช.ชี้มูลผิดฮั้วประมูลสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง
ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ และ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ กรณีสัญญาก่อสร้างโรงพักทดแทน 396 แห่ง มูลค่ากว่า 5 พัน 800 ล้านบาท เข้าข่ายฮั้วประมูล

วันที่ 23 ก.ค.62 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิด นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ อดีตรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติกับพวก กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือ พ.ร.บ.ฮั้วประมูล ในการก่อสร้างสถานีตำรวจ หรือโรงพักทดแทนจำนวน  396 แห่งของตำรวจภูธรภาค 1-9 และศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนใต้ วงเงินกว่า 5 พัน 800 ล้านบาท เนื่องจากได้ยกเลิกแนวทางการจัดจ้างแบบแยกเสนอราคาเป็นรายภาคและอนุมัติให้รวมสัญญาก่อสร้างเป็นสัญญาเดียวให้กับเอกชนรายหนึ่งในปี 2554  อันเป็นการกีดกัน และเอื้อประโยชน์ให้กับผู้เสนอราคารายใดรายหนึ่ง

คดีนี้คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งองค์คณะไต่สวน ประกอบด้วยกรรมการ ป.ป.ช. 9 รายเป็นองค์คณะ หลังจากนั้นองค์คณะฯได้มีความเห็นในคดี ก่อนส่งเรื่องให้ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช.พิจารณา และมีมติชี้มูล ดังกล่าว
       

ก่อนหน้านี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณ เคยเข้าชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากับองค์คณะไต่สวน ป.ป.ช. อย่างน้อย 3 ครั้ง โดยยืนยันในความบริสุทธิ์ ทั้งนี้ในการชี้แจงครั้งที่ 3 ระบุว่า กรณีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงสัญญา และบริษัทที่ชนะการประมูลไม่สามารถสร้างสถานีตำรวจทั้ง 396 แห่งได้ทันตามกำหนดเวลานั้น ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทำสัญญา หรือการอนุมัติเปลี่ยนแปลงวิธีการประมูล เพราะการทำสัญญาว่าจ้างดำเนินการอย่างถูกต้องตามระเบียบงบประมาณแผ่นดินของสำนักนายกรัฐมนตรีทุกขั้นตอน แต่เรื่องการก่อสร้างล่าช้าเสร็จไม่ทันกำหนด เป็นเรื่องของผู้ควบคุมงานก่อสร้าง 
ส่วนกรณีการเปลี่ยนวิธีประมูลแบบรายภาคมาเป็นแบบรวมศูนย์ นายสุเทพ ชี้แจงว่า ตอนอนุมัติโครงการครั้งแรก พิจารณาตามที่ พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในขณะนั้น เสนอมา เห็นว่ามีเหตุผลเรื่องการแยกสัญญาออกเป็น 9 ภาค จึงอนุมัติให้ดำเนินการ แต่ต่อมาสมัย พล.ต.อ.ปทีป ตันประเสริฐ เป็นรักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้เสนอแก้ไขสัญญาว่าจ้างใหม่เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายงบประมาณปี 2553 ที่ออกมาจากหลังการอนุมัติโครงการครั้งแรกแล้ว โดยระบุว่า หากเป็นโครงการเดียวกันไม่สามารถแยกเป็นหลายสัญญาได้ จึงเป็นที่มาของการแก้ไขสัญญาใหม่ให้ถูกต้องตามระเบียบงบประมาณปี 2553 ทุกโครงการก็ทำตามระเบียบดังกล่าว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0