*“สุเทพ”ชี้ รธน.ระบุนายกฯต้องมาจากเสียงสมาชิกรัฐสภาเกินครึ่ง 376 เสียง “บิ๊กตู่” มี 250 ส.ว.แล้ว ต้องการเสียงจากสภาฯอีก 126 คนเป็นนายกฯได้ ไม่ต้องไปหาจากที่ไหนหาจาก รปช. จวกพรรคอ้าง ส.ส. 500 คน เห็นชอบให้ใครเป็นนายกฯ ก็ควรจะเป็นคนนั้นไม่เคารพรัฐธรรมนูญ บอกต่อไปไม่พูดถึง ปชป.แต่จะ วิจารณ์ “อภิสิทธิ์” แทน *
เมื่อวันที่ 19 มี.ค. นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคร่วมพลังประชาชาติไทย (รปช.)พร้อมด้วยแกนนำพรรค ลงพื้นที่ตลาดตรอกหม้อ ชุมชนราชบพิตร ถนนดินสอ ถนนตะนาว เขตเลือกตั้งที่ 1 (เขตพระนคร ,ป้อมปราบศัตรูพ่าย ,สัมพันธวงศ์ และเขตดุสิต ) เพื่อช่วยหาเสียงให้กับนายเตช เตชะพัฒน์สิริ ผู้สมัคร ส.ส.กทม. หมายเลข 7
นายสุเทพ ให้สัมภาษณ์ ถึงกรณีที่ป้ายหาเสียงที่ จ.สุราษฏร์ธานี ถูกทำลายไปบางส่วนว่า เป็นเขตพื้นที่ที่เราพอคาดการณ์ได้อยู่แล้ว ผู้สมัครที่เป็นคู่แข่ง ก็มีลูกน้องบริวาร เพราะฉะนั้นพอเห็นเรามีคะแนนเสียงดีขึ้น เขาก็ลงมือทำ แต่ไม่เป็นไร พวกเราอดทน ไม่เป็นปัญหา มันเกิดขึ้นได้ แม้แต่ใน กทม.ก็มีการเอาสีสเปรย์มาพ่น ตัดรูปหน้าผู้สมัครเราออกบ้าง เป็นธรรมดาพี่น้องประชาชนจะเห็นเอง ว่า ยังมีคนบางพวก ที่ยังไม่เปลี่ยนวิธีปฏิบัติในการเลือกตั้ง ยังไม่เป็นปัญหากับเรา
เมื่อถามโค้งสุดท้าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะกลับมาเป็นนายกฯอีกนั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนพูดตามข้อเท็จจริง จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ เขาได้กำหนดไว้ชัดเจนว่าผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีได้ จะต้องได้คะแนนเสียงสมาชิกรัฐสภาเกินครึ่ง สมาชิกรัฐสภาคือสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประชุมร่วมกับวุฒิสภา อย่างนี้เรียกว่าประชุมรัฐสภา ผู้แทนราษฏร มี 500 คน วุฒิสภามี 250คน คนที่จะเป็นนายกฯได้ต้องมี 376 เสียง พล.อ.ประยุทธ์ อย่างน้อยก็มีคะแนนของวุฒิสมาชิกที่แต่งตั้งแล้ว 250 เสียง ต้องการเสียงจากสภาฯอีก 126 คนก็เป็นนายกฯได้ ไม่ต้องไปหาจากที่ไหน ก็หาจาก รปช. เพราะฉะนั้นมั่นใจว่า พล.อ.ประยุทธ์ สามารถเป็นนายกรัฐมนตรีได้ ประเด็นก็คือว่า มีพรรคการเมือง 2-3 พรรค ที่พยายามรวมกลุ่ม จับมืออ้างว่าเป็นฝ่ายประชาธิปไตย พูดอ้างประเพณีปกครองถ้า ส.ส.ใน 500 คน เห็นชอบให้ใครเป็นนายกฯ ก็ควรจะเป็นคนนั้น ตนคิดว่าพูดจาอย่างนี้ ไม่เคารพรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติให้เป็นการประชุมของรัฐสภาไม่ใช่ประชุมสภาฯ
เมื่อถามต่อว่าอย่างไรก็สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ นายสุเทพ กล่าวว่า เราสนับสนุนนายกฯประยุทธ์ เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ ทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย 5 ปีที่ผ่านมา บ้านเมืองสงบ ประชาชนทำมาหากินได้ เราต้องการเวลาที่ประเทศเราเรียบร้อยไม่วุ่นวาย การเมืองนิ่ง เราจะได้มีเวลาในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศ พัฒนาประเทศ เมื่อถามว่า การที่เราปลุกคนที่มาฟังปราศรัยให้มีการเป่านกหวีด นายสุเทพ กล่าวว่าจริงไม่ได้บอกให้เขาเป่านกหวีดเพียงแต่ว่า เมื่อคืนที่ตอนปราศรัย ก็มีคนเป่านกหวีด ยังมันในอารมณ์ ไม่ได้ปลุกสักคน แต่เชิญชวนพี่น้องประชาชน ที่มีความรักความเป็นห่วงในประเทศไทย เลือกตั้งแล้ว ก็ต้องให้การเลือกตั้ง ทำให้ประเทศชาติสงบเรียบร้อย พัฒนาได้และการเลือกตั้งมี 2เรื่องคือ ทำให้เป็นผลดีกับประเทศ และเป็นผลดีต่อประชาชน ซึ่งเราคิดว่า ทั้ง 2อย่างที่กล่าวมาทางที่ดีคือเลือก รปช.
เมื่อถามต่อว่า จากการที่นายชวน หลีกภัย อออกมากล่าวว่าไปด่าว่าพรรคประชาธิปัตย์ นายสุเทพ กล่าวว่า ท่านชวน คงได้ฟังคำบอกเล่าจากคนอื่น ตนไม่ได้ไปด่าว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ดีอย่างนั้นอย่างนี้ แต่บอกว่าการตัดสินใจของที่นายอภิสิทธิ์เวชชาชีวะ ประกาศว่าจะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ แล้วเพราะอ้างว่า พล.อ.ประยุทธ์ทำความเสียหายให้กับประเทศชาติ และทำให้เศรษฐกิจเสียหายและถ้าสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นการสืบทอดอำนาจ เมื่อเป็นอย่างนี้เพราะตนสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ ตนก็ต้องแก้ข้อกล่าวหา แต่การพูดจาบนเวทีปราศรัยในพื้นที่ภาคใต้ เนื้อหาสาระอาจจะดูแรง
“ผมเป็นคนกตัญญูนะ และผมเข้าพรรคประชาธิปัตย์มาตั้งแต่ปี 2522อยู่กับหัวหน้าพรรคมาทุกคนยกเว้น นายควง อภัยวงศ์ แม้จะเห็นว่า พรรคประชาธิปัตย์เปลี่ยนแปลงไปมาก คุณอภิสิทธิ์ ไม่ได้มีความประพฤติแบบเดียวกับ ม.ร.ว.เสนีย์ปราโมช แต่ว่าผมก็ไม่เคยเอามาวิพากษ์วิจารณ์ แต่เรื่องที่เป็นเรื่องปัจจุบัน เป็นเรื่องที่ต้องพูดจาอธิบายเนื่องจากว่ามีส่วนได้ส่วนเสียต่อผลการเลือกตั้ง เป็นเรื่องจำเป็นที่ต้องพูดจากัน ต่อไปผมคงจะไม่วิพากษ์วิจารณ์ พรรคประชาธิปัตย์ จะวิจารณ์คุณอภิสิทธิ์แทน”นายสุเทพ กล่าว
ทางด้าน ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล หัวหน้า รปช.พร้อมด้วยนางสาวอนุสรี ทับสุวรรณ ผอ.พรรคและผู้สมัครส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อ ก็ได้ลงพื้นที่ จ.สมุทรสาคร เขต 1 เพื่อช่วยหาเสียงให้กับ นายสนธิญา สวัสดี ผู้สมัครหมายเลข 5 ด้วย
