นายกสมาคมผู้ประกอบการรถมือ 2 ห่วงรถยนล้นตลาดและถนน ย้ำรถใช้แล้วไทยส่งออกนอกสู้ตลาดโลกไม่ได้ เพราะไม่คุ้มทุนและมีการดัดแปลง
นายวิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ นายกสมาคมผู้ประกอบ การรถยนต์ใช้แล้ว ระบุว่า เรื่องที่ยังคงน่าเป็นห่วงอยู่ตอนนี้ คือ ด้านการผลิต ที่ในแต่ละปีมีการผลิตรถยนต์ออกมาเป็นจำนวนมาก และมีกลไกการระบายรถเก่าออกจากระบบที่ค่อนข้างมีกฏเกณฑ์ที่ยุ่งยาก รวมถึงศักยภาพรถยนต์ใช้แล้วของไทยที่สู้กับต่างประเทศได้ยาก
ปัจจุบัน ไทยส่งออกรถยนต์ใช้แล้วไปต่างประเทศน้อยมาก เนื่องจากกลไกเรื่องภาษีกรมสรรพสามิตรที่มีราคาที่สูง สาเหตุหนึ่งที่รถยนต์ใข้แล้วของไทยสู้กับตลาดต่างประเทศไม่ได้ เนื่องจากการใช้งานรถยนต์ของผู้ใช้ที่ไม่คุ้มราคาการส่งออกเมื่อเที่ยบกับศักยภาพที่ผู้ซื้อจะได้รับ และอีกสาเหตุสำคัญ คือ การดัดแปลงรถ ไม่ว่าจะเป็นการนำไปติดระบบ NGV , LPG ซึ่งเมื่อส่งไปขายยังตลาดโลก จึงทำให้รถยนต์ใช้แล้วของไทยสู้กับรถยนต์ใช้แล้วจากต่างประเทศไม่ได้
นายวิสุทธิ์ มองว่า "รัฐต้องออกกฏเกณฑ์ที่ชัดเจน เรื่องการดัดแปลงรถอย่างจริงจัง มาจัดการรถในปัจจุบันก่อน"
ในต่างประเทศจะมีวิธีจัดการรถยนต์ใช้แล้ว เช่น การจำกัดอายุการใข้งาน หรือในสิงคโปร์เอง มีการกำหนดอายุรถด้วยใบประจำตัวรถ และเมื่อรถมีอายุมากขึ้น ใบประจำตัวรถก็จะมีราคาลดลง แต่ก็สามารถนำใบดังกล่าวมาแลกส่วนลดในการซื้อรถในราคาที่ถูกลงได้
ดังนั้นรัฐบาลไทยเอง ก็ต้องหาวิธีจัดการรถใช้แล้วอายุมากด้วย เช่น เอารถเก่าไปแลกซื้อรถใหม่ หรือ ส่งขายในราคาถูกไปยังตะวันออกกลาง และ แอฟริกา เพราะไทยเป็นพวงมาลัยขวา
ในอดีตเคยมีการพูดคุยกับหลายรัฐบาลแต่ขาดความต่อเนื่อง แต่อย่างไรก็ตาม รถยนต์ใช้แล้วของไทยก็ยังสู้ตลาดต่างประเทศไม่ได้อยู่ดี ดังนั้นหนึ่งสิ่งที่ทำได้อาจเป็นการสร้างโรงงานรีไซเคิ้ลรถยนต์ ในการแยกส่วนประกอบต่างๆมาใช้ใหม่ เช่น โลหะ และ พลาสติกต่างๆที่ประกอบรถยนต์
ปัจจุบันในเอเซียมีโรงงานรีไซเคิ้ลรายใหญ่ที่จีนเพียงที่เดียว ซึ่งหากเปิดโอกาสให้เอกชนเข้ามาลงทุกก็จะเป็นโอกาสที่ดี และทางเดียวที่จะแก้ไขปัญหารถยนต์ล้นถนนได้ คือภาครัฐต้องเป็นเจ้าภาพในการแก้ไขปัญหาอย่างเข้าใจ
นายวิสุทธิ์ คาดว่า ปีนี้ตลาดสินเชื่อรถยนต์ใช้แล้วจะเติบโตที่ร้อยละ 5 จาก 1.45 แสนล้านบาทในปี 2561 ปัจจุบันไทยมีรถยนต์บนถนนถึง 18 ล้านคันในถนน และจะเพิ่มอีกกว่าปีละ 1 ล้านคัน และอุตสาหกรรมยานยนต์ที่จะได้รับผลกระทบก่อนในระยะยาวคือ กลุ่มรถกระบะ และรถ Eco Car ซึ่งหากมองดูตัวเลขการเติบโตของอุสาหกรรมยานยนต์ พบว่า เติบโตสม่ำเสมอจนน่าประหลาดใจ ซึ่งอาจจะมีปัจจัยจากสินเชื่อรถยนต์ ซึ่งธนาคารแห่งประเทศไทย(แบงค์ชาติ)ก็ต้องเฝ้าจับตาด้วย
"แต่เท่าที่พูดคุยกับธนาคารต่างๆระบุว่ายังคงอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ แต่ถ้าปล่อยไว้ในระยะยาวจะมีปัญหารถยนต์ล้นตลาดได้"