วันที่ 10 กรกฎาคม 2563 เวลา 10.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนร่วมประชุมหารือแนวทางการช่วยเหลือและฟื้นฟูเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) บนตึกไทยคู่ฟ้า ถึงการลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ของแกนนำ “กลุ่ม 4 กุมาร”
นายสมคิด กล่าวถึงการลาออกของ นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.อุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมือง ว่า ไม่มีการหารือกัน เป็นเรื่องภายใน เป็นเรืองปกติ ฟังจากคำแถลงการณ์ลาออก เป็นคำแถลงที่ดี เป็นมิตรต่อกัน เป็นการจากกันด้วยดี ก็เท่านั้น
- รัฐมนตรี 4 กุมาร ลาออกจากสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ
- ปิดฉาก “4 กุมาร” ไม่ลาออกจากรัฐมนตรี เปิดใจ หมดภารกิจพลังประชารัฐ
ผู้สื่อข่าวถามว่า หลังจากนี้มีการมองถึงการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) นายสมคิดกล่าวว่า เรื่องตำแหน่งรัฐมนตรี เป็นเรื่องของท่านนายก ฯ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม) ผมคิดว่า ท่านคงพิจารณาตามความเหมาะสม
เมื่อถามว่า กรณีท่านนายกฯ ยกเลิกการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) แต่เรียกประชุมทีมที่ปรึกษาเศรษฐกิจแทน จะทำงานระหว่างกันได้หรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่น่ามีปัญหาอยู่แล้ว เพราะว่ารู้จักกันทุกคน และถูกต้องแล้วที่ท่านนายกฯ ควรจะได้ข้อมูลจากภายนอกให้เพียงพอ ก่อนจะพิจารณามาตรการต่าง ๆ ออกมา เป็นสิ่งที่ดี และวันนี้ก็กันครบ ก็มานั่งคุยกัน
เมื่อถามว่า เดิมจะมีการประชุมครม.เศรษฐกิจเพื่อแก้ปัญหาเอสเอ็มอี และรายงานสภาวะเศรษฐกิจเป็นหลัก นายสมคิดกล่าวว่า ผมคิดว่า ผู้เข้าร่วมประชุมมีทั้งภาคเอกชนและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ข้อมูลก็เตรียมไว้หมดแล้ว เป็นสิ่งที่ดีที่ท่านนายกฯ จะเห็นภาพรวมทั้งหมด เพราะเรื่องที่ท่านนายกฯ สนใจที่สุด คือ เรื่องของการช่วยเหลือเอสเอ็มอี และมาตรการกระทรวงการคลังก็เตรียมไว้แล้ว พอเข้าใจถ่องแท้แล้วก็นำเข้าครม.ได้ เพื่อช่วยเหลือเอสเอ็มอีได้ทันท่วงที
เมื่อถามว่า นอกจากมาตรการช่วยเหลือเอสเอ็มอีแล้วจะเพิ่มเติมโครงการอื่น ๆ ลงไปเพื่อช่วยเหลือประชาชนอะไรหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ผมก็จะดูเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับกระทรวงการคลังเป็นหลัก ซึ่งกระทรวงการคลังก็ไม่ได้ทำทุกอย่าง ทุกกระทรวงเศรษฐกิจมีส่วนเกี่ยวข้องทั้งสิ้น กระทรวงเกษตร ฯ ก็ต้องดูเรื่องสินค้าเกษตร และภาวการณ์ว่างงานของแรงงานเกษตร กระทรวงแรงงานก็ต้องดูการว่างงานของแรงงาน กระทรวงพาณิชย์ก็ต้องดูเรื่องการค้าการขาย ทุกกระทรวงเกี่ยวข้องทั้งนั้น
“ถูกต้องแล้วที่ท่านนายกฯ บอกว่า เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ เพราะว่าในรัฐบาลผสมทุกกรระทรวงต้องเดินไปข้างหน้าพร้อม ๆ กัน เป็นสิ่งที่ดี”
เมื่อถามว่า เมื่อวาน (9 กรกฎาคม 2563) นายกรัฐมนตรีพูดว่าจะปรับทีมครม.เศรษฐกิจ นายสมคิดกล่าวว่า “ก็แล้วแต่ท่านนายกฯ เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา” เมื่อถามย้ำว่า ท่านรองนายกฯ (นายสมคิด) ก็พร้อมที่จะ…นายสมคิดสวนทันทีว่า “โอ้ย ก็แล้วแต่ท่านนายกฯ ไม่ใช่เรื่องของพวกผม”
เมื่อถามว่า เรื่องการเมืองจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า การเมืองดี เศรษฐกิจก็จะดี สังคมก็จะดี เป็นเรื่องปกติ ฉะนั้นก็ต้องพยายามดูแลการเมืองให้ดี
เมื่อถามว่า ช่วงนี้การเมืองยังไหวหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ถนัดการเมือง
เมื่อถามว่า เมื่อวานนายกฯ บอกว่า ท่านรองนายกฯ พร้อมทุกอย่าง นายสมคิดกล่าวว่า “ผมพร้อมตั้งแต่ปีที่แล้วแล้ว”
“อายุมากแล้ว อยู่ที่นายกฯนะ”
เมื่อถามว่า ถอดใจแล้ว นายสมคิดกล่าวว่า “ใจผมถอดไปตั้งหลายปีแล้ว”
เมื่อถามว่า ถ้าปรับครม.แล้วไม่มีรัฐมนตรีน้อง ๆ ที่ท่านรองนายกฯ ดูแลอยู่ ท่านรองนายกฯ จะอยู่ต่อหรือไม่ นายสมคิดกล่าวว่า “เป็นไปไม่ได้เลยนะ การจะตั้งรัฐมนตรี ท่านนายกฯ ก็ต้องดูให้ถ่องแท้ว่า ใครจะทำอะไร เอาบ้านเมืองเป็นหลักสำคัญที่สุด ใครจะมาใครจะไปเป็นเรื่องปกติ เอาล่ะนะ บ๊ายบายแล้ว”
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาท่านรองนายกฯ เป็นผู้ก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐ รู้สึกอย่างไร นายสมคิดกล่าวว่า ไม่ ๆ ๆ
เมื่อถามว่า เป็นการเสร็จนาฆ่าโคถึก นายสมคิดกล่าวว่า ไม่หรอก
“เมื่อวานนี้เขา (รัฐมนตรี 4 กุมาร) แถลงชัดเจน พวกเขาก่อตั้งพรรคขึ้นมาเพื่อวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน วันนี้เรื่องเหล่านั้นได้บรรลุแล้ว เขาจึงพร้อมที่จะทำหน้าที่อื่นเท่านั้นเอง”
เมื่อถามว่า แล้วภารกิจของท่านรองนายกฯ บรรลุหรือยัง นายสมคิดกล่าวว่า ภารกิจผมนั่นเหรอ ดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีตอนนี้
