โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

เอาอีกแล้ว! GPSC ทุ่มงบ 500 ล้านดอลลาร์ ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าไต้หวัน 595 เมกะวัตต์

Wealthy Thai

อัพเดต 08 ส.ค. 2566 เวลา 07.23 น. • เผยแพร่ 15 ก.ค. 2564 เวลา 09.28 น. • Maratronman

GPSCซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง ขนาดกำลังการผลิตรวม 595 เมกะวัตต์ ด้วยสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี กับ บริษัท Taiwan Power Companyเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนให้กับ GPSC อีก 149 เมกะวัตต์ เท่ากับว่าใน 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา GPSC ใช้เงินในการซื้อธุรกิจไปแล้วมากกว่า 3 หมื่นล้านบาท
นายวรวัฒน์ พิทยศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 14กรกฎาคม 2564 บริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (GRSC) ซึ่งถือหุ้น 100% โดย GPSCได้ลงนามกับ CIP เพื่อเข้าลงทุนในสัดส่วน 25 % คิดเป็นมูลค่าการลงทุนรวมจนโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยเป็นการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลมนอกชายฝั่ง Changfang and Xidao (CFXD) ในไต้หวัน จากกองทุน CI-II และ CI-III ซึ่งเป็นกองทุนภายใต้การบริหารของ CIP โดยโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งขนาดกำลังการผลิต 595 เมกะวัตต์ดังกล่าว ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตก ห่างจากชายฝั่งมณฑลชางฮัว 13-15 กิโลเมตร ทั้งนี้ โครงการได้มีการระดมทุนแล้วเสร็จในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2563 โดย CI-II and CI-III ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ในโครงการหลังจากการซื้อขายหุ้น
สำหรับแผนพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งดังกล่าว กำหนดแผนการติดตั้งแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ ระยะที่ 1 คาดว่าจะสามารถจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2565 จำนวน 96 เมกะวัตต์ และระยะที่ 2 คาดจะจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ในปี 2566 จำนวน 499 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการที่มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า PPA กับบริษัท Taiwan Power Companyเป็นระยะเวลา 20 ปี นับเป็นโครงการขนาดใหญ่สามารถจ่ายไฟฟ้าครอบคลุมได้มากกว่า 600,000 ครัวเรือน โดยทั้งโครงการจะดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2567
การเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ GPSCจะมีกำลังการผลิตคิดเป็น 149 เมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 25% ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2,294 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 34% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 6,761 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ และกระจายแหล่งผลิตพลังงานทางเลือกให้มีความหลากหลาย พร้อมกันนี้ ยังเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์การพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในต่างประเทศ ที่จะสามารถสร้างโอกาสและขยายการลงทุนตามกลยุทธ์ของธุรกิจในการเติบโตด้านพลังงานทดแทนในกลุ่มตลาดเป้าหมายต่อไป
ทั้งนี้ไต้หวัน ถือเป็นหนึ่งพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดชั้นนำของโลก รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนพลังงานสะอาดในทุกประเภท จะเห็นจากอัตราการใช้พลังงานทางเลือกที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ดังนั้นจึงทำให้กลุ่ม GPSC ตัดสินใจเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว และพร้อมที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่อง พร้อมทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้าไปลงทุนด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อีกทางหนึ่ง การเข้าร่วมทุนครั้งนี้ ถือเป็นโครงการแรกที่บริษัท ร่วมลงทุนในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งกับ CIP ซึ่งมีประสบการณ์สูงในด้านการพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่ง เปิดโอกาสให้บริษัทได้ขยายความเชี่ยวชาญในด้านองค์ความรู้การพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่ง เนื่องจากต้องอาศัยเทคโนโลยีในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงนวัตกรรมกังหันลมที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโครงการ โดยยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้า และป้อนเข้าสู่ระบบจ่ายไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
การลงทุนดังกล่าว จะต้องดำเนินการยื่นขออนุมัติการลงทุนจากต่างประเทศ (Foreign Investment Approval) และขออนุมัติจาก Ministry of Economic Affairs ของไต้หวันต่อไป โดยหลังจากการซื้อขายหุ้น CI-II และ C-III ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเป็นผู้ดำเนินการหลักของโครงการ CFXD อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ ประกาศการลงทุน ด้วยการใช้เงิน 14,825 ล้านบาท เข้าลงทุนถือหุ้นโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในอินเดียขนาดกำลังการผลิต 3,744 MW ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ และในอนาคตมีแผนจะขยายกำลังการผลิตเพิ่มเติมรองรับความต้องการใช้ไฟฟ้าในประเทศอินเดีย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0