“วิษณุ”เผยใกล้ปลดล็อกคำสั่งคสช.คืนตำแหน่งคนถูกพักงานส่วน“บิ๊กโจ๊ก”หากย้ายคืนสตช.ใช้คำสั่งปกติ

วิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เผย ใกล้ปลดล็อกคำสั่งคสช.ตามอำนาจ ม.44 คืนตำแหน่งคนถูกพักงาน ราวๆครึ่งต่อครึ่ง ส่วน “บิ๊กโจ๊ก”หากย้ายกลับคืน คืนสตช. สามารถใช้คำสั่งปกติได้เลย เพราะไม่ได้ถูกพักงาน
ช่วงเที่ยงเศษๆวันนี้ที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้ความเห็นถึงกรณีหากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)พ้นไปแล้ว คำสั่งคสช.ตามอำนาจมาตรา 44 กรณีพักงานข้าราชการและเจ้าหน้าที่ของรัฐที่ถูกตรวจสอบจะทำอย่างไรว่า คดีต่างๆสามารถอยู่ต่อไปได้อย่างเดิมทั้งหมด เคลียร์จบเมื่อไหร่ บุคคลผู้นั้นถ้าไม่ผิดก็สามารถคืนสู่ตำแหน่งเดิมได้
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนได้ไล่ดูทีละคนพบว่า มีหลายคนที่สามารถปลดออกจากคำสั่งคสช.ได้ แต่อีกส่วนหนึ่งยังไม่ได้ เพราะติดอยู่ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ถ้าป.ป.ช. บอกว่าถึงที่สุดแล้วพบว่าผิด ก็ต้องออกจากราชการ แต่ถ้าไม่ผิด ก็กลับเข้าสู่ตำแหน่ง ซึ่งทุกคนก็จะเป็นแบบเดียวกันหมด
เมื่อถามว่า มีจำนวนเยอะหรือไม่ที่พบว่าไม่ผิดและจะคืนตำแหน่งให้ นายวิษณุ กล่าวว่า มีเยอะเหมือนกัน ครึ่งต่อครึ่ง เมื่อถามว่า กรณีพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ที่ถูกคำสั่งลักษณะเดียวกันจะเป็นอย่างไร นายวิษณุกล่าวว่า ไม่ได้มีผลอะไร เพราะพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ไม่ได้โดนคำสั่งมาเพื่อการลงโทษ แต่เป็นการย้ายออกจากข้าราชการตำรวจมาเป็นข้าราชการพลเรือน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น ถ้าจะย้ายกลับไปก็สามารถใช้คำสั่งปกติได้
เมื่อถามว่า สังคมจะสงสัยหรือไม่ ว่าย้ายพล.ต.ท.สุรเชษฐ์ เข้าออกจากราชการตำรวจ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทันย้ายเลย พวกคุณมาสมมติเองว่าจะย้าย และสมมติต่อไปด้วยว่าสังคมจะสงสัย เมื่อถามว่า กรณีที่พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ถูกย้ายออกจากการเป็นตำรวจก่อนหน้านี้ ไม่ได้มีความผิดใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ทราบ
เมื่อถามว่า คำสั่งคสช. จะยังคงอยู่แม้คสช.จะพ้นไปใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า หลังจากคสช.สิ้นสุด คำสั่งคสช.ใหม่จะออกไม่ได้ แต่คำสั่งคสช.ที่ออกไปแล้วยังมีผลอยู่ เว้นแต่จะมีการยกเลิกเพิกถอนกันไปเองโดยคสช.ก่อน หรือจนกว่าจะมีการออกกฎหมายยกเลิกโดยระบบสภา ซึ่งคสช.ได้วางกลไกเตรียมไว้เรียบร้อยแล้วว่า เมื่อจะพ้นจากตำแหน่งไปจะต้องมีการยกเลิกคำสั่งบางฉบับ
ที่ต้องใช้บางฉบับเพราะว่าประเภทที่ 1 คำสั่งคสช.จำนวนมากที่ออกมาแล้วมีผลแล้ว และสิ้นผลไปโดยทันที เช่น การแต่งตั้งโยกย้ายต่างๆ ก็ถือว่าจบไปแล้ว ตรงนี้ไม่ต้องไปแตะต้องอะไร ประเภทที่ 2 คือ คำสั่งที่กำหนดเวลาสิ้นสุดในตัวของมันเอง เช่น ทำอย่างนั้นจนถึงเมื่อนั้น เมื่อถึงเวลาก็สิ้นสุดไป ถึงแม้วันนี้ยังไม่ถึงเวลา แต่วันข้างหน้าก็ถึงอยู่ดี ตรงนี้ก็ไม่ต้องไปแตะต้องอะไร
และประเภทที่ 3 ถูกยกเลิกเพิกถอนไปโดยคำสั่งใหม่ที่ใหม่กว่านั้น ซึ่งมีอยู่หลายฉบับ เช่น เรื่องไอยูยู ไอเคโอ เมื่อมีคำสั่งหรือพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ใหม่ออกมา ก็ไปยกเลิกคำสั่งเก่านั้น ซึ่งจะเหลืออยู่ส่วนหนึ่งที่จะยกเลิกล้างสต็อก และอีกประเภทก็คือหลังจากดูแล้วยังไม่สามารถจะเลิกได้ ก็ปล่อยทิ้งไว้เป็นกลไกของรัฐบาลหน้าต่อไป เขาจะได้มีกลไกเอาไว้ทำงาน ซึ่งมีจำนวนน้อย โดยเราได้กำหนดเอาไว้แล้วว่า จะทำอย่างไรกับคำสั่งเหล่านั้น อีกไม่กี่วันจะมีประกาศออกมา