เมื่อวันที่ (23 เม.ย. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายปริญญา เทวานฤมิตรกุล รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ถึงการเจรจาระหว่างผู้ประกอบการรถตู้และตัวแทนนักศึกษาหลังจากที่รถตู้ประกาศขึ้นราคา จาก 37 เป็น 48 บาท โดยระบุว่า
ตามที่รถตู้โดยสารสาย มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ได้มีการประกาศขึ้นราคาจาก 37 บาทเป็น 48 บาท ผมจึงได้เชิญฝ่ายผู้ประกอบการรถตู้ กับตัวแทนนักศึกษาคือสภานักศึกษามาหารือกันในตอนเช้าวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งได้ข้อสรุปดังนี้ครับ
1.ที่มาของการขึ้นราคาคือ #กรมขนส่งทางบกได้ประกาศให้ขึ้นราคาค่าโดยสาร สาย มธ.รังสิต-อนุสาวรีย์ชัย เป็น 38 บาท บวกค่าทางด่วนด่านละ 5 บาท ถ้ามีทางด่วน 2 ด่านขึ้นไปให้เก็บ 10 บาท ทำให้กลายเป็นราคาใหม่คือ 48 บาท
2.การขึ้นราคาทีเดียว 11 บาทกระทบกับนักศึกษาที่ใช้บริการมาก ผมและตัวแทนนักศึกษาจึงได้เจรจาต่อรองให้ลดราคาลงมา ผู้ประกอบการขอความเห็นใจว่าเพิ่งถูกกรมขนส่งทางบกบังคับให้เปลี่ยนรถใหม่ในปีที่แล้ว และการขึ้นราคาในครั้งนี้ก็เป็นไปตามประกาศของกรม ไม่ได้ขึ้นเอง
3.แต่ตามประกาศของกรมขนส่งทางบกนั้น ให้เก็บค่าทางด่วนได้แค่ด่านละ 5 บาท ถ้ามี 2 ด่านขึ้นไปเก็บได้ไม่เกิน 10 บาท ขาไปจาก มธ.ศูนย์รังสิตนั้น มีทางด่วนเพียงด่านเดียว ส่วนขากลับมีสองด่าน แม้ว่าจะค่าทางด่วนรวมจะเท่ากันคือ 100 บาท แต่ในเมื่อกรมขนส่งทางบกให้เก็บค่าทางด่วนได้แค่ด่านละ 5 บาท ขาไปมีด่านเดียวจึงเก็บได้มากสุดแค่ 43 บาท (ค่าโดยสารอัตราใหม่ 38 บาท + ค่าทางด่วนหนึ่งด่าน 5 บาท) ผมและตัวแทนนักศึกษาเห็นว่า ขามาจากอนุสาวรีย์ชัย นักศึกษาอาจจะมีทางเลือกอื่นได้บ้าง แต่ขาไปซึ่งนักศึกษาแทบไม่มีทางเลือกอื่น อีกทั้งคิวรถก็จอดอยู่ในมหาวิทยาลัย ควรให้ขึ้นราคาน้อยที่สุด สุดท้ายก็เจรจาได้ข้อสรุปที่ 42 บาทในส่วนของขาไป ส่วนขากลับเป็น 48 บาทตามประกาศของกรมขนส่ง
4.ทั้งนี้ควรต้องมีการให้นักศึกษาทราบล่วงหน้าบ้างตามสมควร ผู้ประกอบการแจ้งว่า ตามประกาศของกรมขนส่งคือขึ้นราคาได้ตั้งแต่วันที่ 22 เมษายน 2562 จึงขอขึ้นราคาเลย สุดท้ายก็ต่อรองได้ 3 วัน พอให้รู้ตัวล่วงหน้ากันบ้าง สรุปว่าอัตราใหม่ ขาไปจากธรรมศาสตร์รังสิต #ไปอนุสาวรีย์ชัย 42 บาท ส่วนขามาจากอนุสาวรีย์ชัย #มาธรรมศาสตร์รังสิต48 บาท โดยจะเริ่มเก็บวันพฤหัสที่ 25 เมษายน 2562 ครับ (ส่วนที่เก็บไปแล้วในตอนเช้าวันที่ 22 เมษายน ก็ต้องให้แล้วกันไป)
ขออภัยนักศึกษาที่ต่อรองได้เพียงเท่านี้ครับ เพราะเป็นเรื่องที่กำหนดมาโดยกรมขนส่งทางบก อีกทั้งมหาวิทยาลัยก็ไม่ทราบเรื่องมาก่อนเลย เพราะกรมขนส่งทางบกเค้าไม่แจ้งมหาวิทยาลัย เค้าแจ้งแต่รถตู้โดยสารครับ