ปัญหา "ค้ามนุษย์" นับว่าเป็นปัญหาที่สำคัญสำหรับสังคมไทยและสังคมโลก นอกจากนี้การค้ามนุษย์ยังถือเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ซึ่งในปัจจุบัน ปัญหาดังกล่าวยิ่งทวีความรุนแรงและมีความสลับซับซ้อนมากขึ้น แม้ว่าจะมีหน่วยงานที่เข้ามาให้ความช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์แต่ปัญหาเหล่านี้ก็ยังไม่หมดไปจากสังคมไทยเสียที
จันได้พูดคุยกับ "รณสิทธิ์ พฤกษยาชีวะ" หรือ พี่บอม ประธานมูลนิธิรณสิทธิ์ เพื่อช่วยเหลือเหยื่อค้ามนุษย์เด็กและสตรี หนุ่มไฟแรงดีกรีปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ ที่มุ่งมั่นช่วยเหลือเหยื่อจากการค้ามนุษย์อย่างทุ่มเทมากว่า 20 ปี โดยเน้นสิ่งสำคัญคือต้องช่วยเหยื่อที่ต้องทนทุกข์ทรมานเหมือนตกนรกทั้ง
เป็นให้ได้เท่านั้น
พี่บอม รณสิทธิ์ บอกว่า มูลนิธิรณสิทธิ์ เกิดจากประสบการณ์การทำงานปราบค้ามนุษย์ที่มากกว่า 20 ปี ที่มุ่งเน้นช่วยเหลือผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ และมีการเรียนรู้ปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น ในประเทศไทยว่าปัญหาการค้ามนุษย์เกิดขึ้นจากอะไร และอยากที่จะแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์ให้หมดไป จึงริเริ่มก่อตั้งองค์กร
ของตัวเองขึ้นมา เพื่อที่จะแก้ไขปัญหาให้ตรงจุด ความเชื่อของเรา เราคิดว่ายังไงปัญหาการค้ามนุษย์ในประเทศไทยภายภาคหน้าถึงจะไม่หมดไปก็ต้องลดลงอย่างแน่นอน เราก็เลยมาก่อตั้งมูลนิธิรณสิทธิ์ขึ้นมา ซึ่งเราก็จะพยายามในการแก้ไขปัญหามนุษย์ให้ตรงจุด ในขณะเดียวกันเราก็ยังช่วยเหลือผู้เสียหายจาก
การค้ามนุษย์ด้วย
หนุ่มไฟแรงดีกรีปริญญาโทจากประเทศอังกฤษ ทำไมถึงเลือกทำงานช่วยเหลือสังคม?
หลังจากที่เรียนจบหรือระหว่างเรียนเราก็มีความรู้สึกอยู่เสมอว่า เราควรที่จะทำงานอะไรสักอย่างหนึ่งที่มันมีผลประโยชน์ให้ประเทศชาติ ซึ่งช่วงแรกที่ผมทำงาน ก็ทำในสายปราบปรามยาเสพติด จากนั้นก็มีการโยกย้ายไปทำงานที่ UN ซึ่งขณะนั้นเราก็ได้มีส่วนเข้าไปเกี่ยวข้องในการวางนโยบายในการแก้ไข
ปัญหาการค้ามนุษย์ระหว่างประเทศ ซึ่งพอถึงตอนนั้นเรามีความรู้สึกว่าปัญหาการค้ามนุษย์มันไม่ใช่ปัญหาที่มันเกิดขึ้นและมีผลกระทบต่อประเทศชาติอย่างเดียว แต่มันคือปัญหาที่เกิดขึ้นกับชีวิตคนคนหนึ่งหรือชีวิตเด็กหลายๆ คน หรือคนอีกหลายๆ คน ที่เขาถูกนำตัวลงมาเป็นทาสในการแสวงหาผลประโยชน์ทาง
เพศ ก็เลยเกิดความรู้สึกว่า ถ้าเราได้ทำงานตรงนี้อย่างเต็มตัว เราก็จะได้ช่วยประเทศชาติ ได้ตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน รวมถึงได้ช่วยชีวิตคนด้วย
“ตอนนั้นเข้าช่วยเด็กคนหนึ่งอายุ 13-14 ปี เราได้พาเขากลับบ้าน เราได้เห็นสีหน้าแห่งความสุขของเขาที่เขาดีใจที่ได้กลับไปเจอพ่อเจอแม่ เจอคนที่เขารัก เหมือนกับเราให้ชีวิตใหม่กับคนคนหนึ่ง นั่นคือแรงผลักดันที่ทำให้ผมทำงานด้านนี้ต่อ ผมก็ทำงานด้านที่มาเรื่อยๆ ต่อจนถึงปัจจุบัน"
ค้ามนุษย์ แก้ไม่ยากแค่เจ้าหน้าที่รัฐต้องจริงจัง ที่สำคัญคือต้องจริงใจ
องค์กรภาคเอกชนหรือว่าภาครัฐบาล ทุกองค์กร ให้ความสนใจและจริงจังจริงใจในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ นโยบายมีชัดเจน แต่ว่าจะต้องดูลึกไปกว่านั้นว่า เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานมีความพร้อม มีความจริงใจ มีความพยายามในการแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์หรือเปล่า
นี่คือปัจจัยหลักที่ทำให้การทำงานของเราประสบผลสำเร็จ อย่างน้อยที่สุดเจ้าหน้าที่ที่จะมาร่วมกันช่วยเหลือผู้เสียหาย ปราบปรามจับกุมผู้กระทำผิดให้สุดขบวนการ จะต้องมีความจริงใจ ต้องมีความบริสุทธิ์ใจ ถ้ามีสิ่งเหล่านี้ผมเชื่อว่าการทำงานจะมีประสิทธิภาพ
ข้อครหาล้อเล่นกับความรู้สึกของหญิงขายบริการ…ทำให้มีความหวังจนคายความลับ แล้วจับกุม
ต้องเรียนให้เข้าใจก่อนว่าในขณะที่เขาเข้ามาทำงานเขาก็ถูกหลอกมาเหมือนกัน ทางผู้ประกอบการมีการให้ข้อมูลกับเด็ก ในทางที่ผิดเช่น ถ้าหนีโดนจับนะ ฟ้องตำรวจคุณก็โดนจับเพราะเข้าเมืองมาผิดกฎหมาย เด็กเหล่านี้ก็จะกลัว แล้วมาดูทางฝั่งเรา พยายามที่จะเข้าไปช่วยเหลือเขา การที่เราจะหาข้อมูลเพื่อ
ติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่รัฐ เพื่อให้มาช่วยเขาออกไปมันมีความยากลำบาก เราจึงมีความจำเป็นที่จะใช้วิธีการอย่างไรก็ตามทำให้น้องเขามีความเชื่อใจสายลับ เมื่อเขามีความเชื่อใจเขาจะพูดความจริง
ความสุขที่แม้แต่เงินก็ซื้อไม่ได้
ความสุขมันเกิดขึ้น ณ เวลาที่เราได้เห็นเขาเดินออกมาจากสถานบริการได้รับความคุ้มครองจากสังคม และได้กลับไปหาพ่อแม่ เห็นรอยยิ้มของพ่อแม่ ญาติพี่น้องเขา เห็นรอยยิ้มของตัวเขา นั่นคือความสุขที่เราได้รับ ถามว่าเงินซื้อได้ไหม คนทำงานบางคนเงินเดือนเป็่นแสน บางทีเป็นล้าน ความสุขเหล่านี้คุณยัง
ไม่เคยเห็นเลย นี่คือความสุขที่มันไม่สามารถแสวงหาตรงไหนได้ นอกจากที่คุณลงมือทำ นอกจากที่คุณลงมือทำดีให้กับสังคม
จากใจชายผู้อุทิศตนช่วยเหยื่อค้ามนุษย์
เราเกิดมาเราไม่ได้ทำเพื่อตัวเองแต่ชีวิตที่เราเกิดมาเราทำเพื่อคนอื่น
