“มิน-พีชญา” มีอะไรดีถึงอยู่รอดในวงการ?
เกือบสิบปีที่เป็นนางเอกประดับวงการบันเทิงไทยตั้งแค่เรื่อง “ปลาบู่ทองในปี” พ.ศ. 2552 มาจนถึงการวางบทนางเอกเพื่อมาเป็นนางร้ายใน “นางทิพย์” อะไรที่ทำให้เธออยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้โดยไม่ถูกกลืนหายไปในคลื่นลมของวงการบันเทิงไทย
เป็นตัวเองนั้น สำคัญเสมอ
“เราพยายามเป็นตัวเองให้เยอะที่สุดเท่าที่จะเป็นได้ แล้วเวลาคนรักเราในแบบที่เราเป็นเราจะอยู่ได้นาน” มินเริ่มต้นการสัมภาษณ์อย่างสวยงามด้วยประโยคที่ลำนำถึงตัวตนของเธอออกมาได้อย่างชัดเจน เธอยืนยันกับเราว่าสิ่งที่ทำให้เธออยู่มาได้ถึงวันนี้คือการแสดงตัวตนออกมาให้ได้มากที่สุด “เพราะถ้าเราไม่รู้ว่าเราเป็นใครเราจะเหนื่อย การรู้ว่าตัวเองเป็นใคร รู้หน้าที่ของตัวเองและมีความสุขในแบบของเรา นั่นคือสิ่งสำคัญในการเป็นนางเอกของมิน”
ยิ่งดัง ยิ่งสำคัญ
การเป็นคนดังโดยเฉพาะ “นางเอก” นำพามาซึ่งการใส่ใจในสิ่งที่พูดมากกว่าคนปกติ “เราอยากจะโพสต์อะไรก็โพสต์ อยากจะทำอะไรก็ทำ แต่เราลืมไม่ได้ว่าเด็กๆ ดูเราอยู่และเราเป็นต้นแบบและทำตามสิ่งที่เราทำ”
“แม้แต่คำพูดคำจาก็เหมือนกัน มันมีผลนะ คำพูดที่มันเป็นตัวเราที่คิดว่าเฉยๆ มันมีอิทธิพลทั้งนั้น” มินอธิบายถึงความรับผิดชอบต่อการเป็นนางเอกเมื่ออยู่นอกจอทีวี “ครั้งหนึ่งเราบอกเด็กคนหนึ่งว่าตั้งใจเรียนนะ แล้วเขากลับไปขยัน ตั้งใจเรียนจริงๆ เป็นอีกคนจนแม่เขาเขียนจดหมายมาขอบคุณ”
ต้องรู้ว่าตัวเองเป็นใคร
ท่ามกลางดาราหน้าใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมา อะไรกันเล่าที่ทำให้เธอยังมีพื้นที่ของตัวเองมาจนถึงวันนี้ “เราพยายามจะเป็นตัวเองให้ได้เยอะที่สุดนี่แหละ ทำให้คนที่เรามีโอากาสได้พบเจอเขารู้ว่าเราเป็นแบบไหน”
“การที่เรารู้ว่าตัวเองเป็นใครและทำอะไร ทำให้เราไม่เป็น ‘Pleaser’ ที่เอาใจชาวบ้านไปทั่ว จนคุณไม่เหลือความเป็นตัวเอง และมินว่าสิ่งนี้สำคัญต่อการเป็นคนมีชื่อเสียง ไม่งั้นเราจะไม่มีความสุขกับการทำให้คนรัก”
“เราโชคดีที่เกิดมาในยุคที่คนแข่งขันไม่เยอะ สิบปีที่แล้วไม่เยอะขนาดนี้ ถ้าเป็นรุ่นใหม่ก็อาจจะต้องมีความแตกต่างขั้นสุด แต่ของเรามันมาดีของมันอยู่แล้ว มินว่ามินโชคดี คิดว่าเป็นตัวเองของเราให้ได้มากที่สุดพอแล้ว”
ยิ่งแข่งขัน ยิ่งมาตรฐานสูง
“เป็นเรื่องปกติของการแข่งขัน” มินตอบเมื่อเราถามเธอว่าคิดอย่างไรที่วงการบันเทิงบ้านเราตอนนี้ต้องฟาดฟันกันมากกว่าแต่ก่อน “อุตสาหกรรมบันเทิงคือการแข่งขันชนิดหนึ่งเหมือนการขายขนม ดาราก็คือสินค้าแต่เป็นสินค้าที่มีชีวิต…”
“ความชอบของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน” เธอเล่าต่อ “คำว่า ‘สวย’ ของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน มันอยู่ที่คนชอบแบบไหนเลย ทุกวันนี้มันหลากหลายมาก แล้วมันทำให้อุตสาหกรรมบันเทิงของไทยเกิดการแข่งขันที่จะทำให้ดีกว่าเดิม แล้วทำให้มาตรฐานมันสูงขึ้น”
จากนางเอก สู่นางร้าย
จากนางเอกสู่บทบาทนางร้ายที่ท้าทายกว่าเดิม “ละครเรื่องใหม่ไม่เป็นนางเอกแล้ว เป็นตัวร้าย ให้เพื่อนเรา (ปุ๊กลุ๊ก) ไปเป็นนางเอกแทน เรื่องนี้ขอเล่นร้าย ขอกรี๊ด มันสนุกกกกก มันเป็นอะรที่ตื่นเต้น เรื่องนี้ร้ายแบบหนึ่งเรื่องหน้าก็ร้ายแรงไปเลย”
“มันมีช่วงหนึ่งที่รู้สึกว่าเราไม่สนุกกับการทำงาน ช่วงสองปีที่ผ่านมาไม่เล่นละครเลยถ้าไม่ได้บทที่อยากเล่น เพราะเราเล่นนางเอกมาทุกแบบแล้ว เราแฮปปี้ที่ผู้ใหญ่เข้าใจด้วย” มินเล่าอย่างตรงไปตรงมา
“มินรู้สึกว่าการทำอะไรเดิมๆ มันไม่มีความสุข แล้วคนดูจะสัมผัสได้ถึงความทุกข์นั้น แล้วเป้าหมายของมินคือการส่งต่อความสุข คนดูเดี๋ยวนี้ฉลาด เขารู้นะว่าเราเหนื่อยหรือไม่เหนื่อย สุขหรือไม่สุข และมินอยากส่งความสุขให้คนดูค่ะ”
ขอบคุณสถานที่ HARRODS CAFE (EMQUARTIER)