ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 – เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม ที่ผ่านมา ศึกมวยสากลอาชีพที่ แฟนตาซี สปริงส์ คาซิโน สหรัฐอเมริกา มีคู่ที่น่าสนใจระหว่าง พาทริซิโอ มานูเอล นักชกเจ้าถิ่น กับ ฮูโก้ อากีญ่า จากเม็กซิโก โดยผลปรากฏว่า มานูเอล ชนะประเดิมไฟต์แรกในชีวิตทว่าคนดูในสนามกลับไม่แสดงอาการดีใจแถมส่งเสียงโห่เมื่อรู้ความจริงว่าเขาคือนักมวยที่แปลงเพศจากผู้หญิงเป็นผู้ชาย
ในโลกหมัดมวยตั้งแต่อดีตกาล การจัดไฟต์ระดับอาชีพจะมีแค่ดวลกันระหว่าง ชาย-ชาย หรือ หญิง-หญิง เท่านั้น หรือไม่ก็จัดไฟต์ข้ามวงการแบบฮือฮาอย่าง มวย ปะทะ มวยปล้ำ หรือยุคปัจจุบันคือ มวย ประลอง มิกซ์ มาร์เชียล อาร์ต ทว่าการอนุญาตให้นักชกข้ามเพศขึ้นสังเวียนอาชีพยังไม่เคยมีมาก่อน และ พาทริซิโอ มานูเอล ก็คือคนแรกที่ได้รับการยอมรับเขาคือนักชกข้ามเพศคนแรกที่ได้ต่อยกับคู่ต่อสู้เพศตรงข้ามแบบจริงจัง
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1985 มานูเอล ลืมตาดูโลกในฐานะผู้หญิงที่ชื่อ “แพทริเซีย” ก่อนเติบโตขึ้นเป็นนักชกสมัครเล่นที่มีดีกรีความสำเร็จไม่ธรรมดาเมื่อคว้าแชมป์ระดับประเทศถึง 5 สมัย และยังได้รับโอกาสเข้าร่วมการคัดเลือกเป็น 1 ในนักมวยที่จะเดินทางไปแข่งขัน โอลิมปิก เกมส์ 2012 ที่ลอนดอน ทว่าน่าเสียดายที่ไม่ได้แม้กระทั่งตั๋วเครื่องบินเพราะเกิดปัญหาบาดเจ็บที่หัวไหล่ ยุติความฝันหยิบเหรียญรางวัลเกียรติยศเพียงเท่านั้น
แต่นั่นไม่ได้ทำให้นักชกสาวจากแคลิฟอร์เนีย หยุดอาชีพตัวเองเพราะที่สุดแล้วหลังรักษาอาการบาดเจ็บที่หัวไหล่และฟิตซ้อมกลับมาเรียบร้อย มานูเอล ก็มองถึงโอกาสครั้งใหม่นั่นคือการผ่าตัดแปลงเพศเป็นผู้ชายเพื่อทำลายข้อจำกัดจุกจิกแบบเพศหญิงทั้งเรื่องร่างกายหรือฮอร์โมน ผ่าตัดหน้าอกเสียเงินไป 6,000 ปอนด์ (ประมาณ 250,000 บาท - และคนที่ออกค่าใช้จ่ายให้คือคุณย่า) ซึ่งทุกอย่างสำเร็จเรียบร้อยในปี 2013 ก่อนเดินหน้าสู่เส้นทางนักชกอาชีพเต็มตัวกับชื่อใหม่ พาทริซิโอ
ลอเร็ตต้า บัตเลอร์ คุณแม่ของ พาทริซิโอ เล่าว่าเธอรู้ตัวว่า แพทริเซีย อยากเป็นผู้ชายมาตลอด และส่งเสียงคัดค้านเมื่อรู้ว่าลูกสาวจะเข้ารับการผ่าตัดแปลงเพศถึงกับคิดจะตัดแม่ตัดลูก แต่สุดท้ายก็ใจอ่อนยอมให้ผ่าหากลูกสาวรู้ว่าตัวเองมีความสุขเมื่อได้ทำ “ฉันบอกเขาว่าถ้านั่นจะทำให้เธอมีความสุขก็ทำไปเลย และฉันจะสนับสนุนเต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์”
กระนั้นเส้นทางสายกำปั้นของนักชกวัย 33 ปี ก็เจออุปสรรคอยู่เรื่อยๆเมื่อโค้ชเก่าที่เคยสอนวิชาขอแยกทาง หรือการขอใบอนุญาตเป็นนักชกอาชีพในเพศชายก็ทำไม่ได้เพราะธรรมเนียมเก่าๆที่จะออกให้แค่ผู้ชายหรือผู้หญิงเท่านั้น กระทั่งวันที่ฟ้าเป็นใจเมื่อคณะกรรมการโอลิมปิกสากล เปลี่ยนกฎใหม่ให้นักชกข้ามเพศสามารถร่วมแข่งขันได้ จนส่งให้สหพันธ์มวยอาชีพสหรัฐฯ ยอมปรับกฏออกใบอนุญาตให้ แต่ก็ยังหาคู่ชกที่เป็นผู้ชายมาขึ้นเวทีไม่ได้อยู่ดีเพราะไม่มีผู้ชายคนไหนอยากชกกับผู้หญิง แม้จะแปลงเพศมาแล้ว แถมถ้าแพ้ด้วยก็จะยิ่งเสียหน้าไปใหญ่
พาทริซิโอ ฝึกชกกับเทรนเนอร์คนใหม่ พร้อมเฝ้ารอโอกาสอย่างมีความหวังจนได้ชิมลางชกกับผู้ชายในไฟต์อย่างไม่เป็นทางการกับ อาดาน โอชัว ปี 2016 ก่อนเป็นฝ่ายชนะคะแนน แม้จะไม่ถูกนับเป็นสถิติอาชีพจริงๆแต่ก็เป็นสะพานที่ทำให้ โกลเดน บอย โปรโมชั่น โปรโมเตอร์มวยดังที่มี ออสการ์ เดอ ลา โฮย่า อดีตนักชกชื่อก้องกุมบังเหียน เห็นแววจับเซ็นสัญญาและผลักดันขึ้นชกไฟต์แรกในอาชีพเจอกับ ฮูโก้ อากีญ่า จากเม็กซิโก และชนะคะแนนไปอย่างสดใสภายใน 4 ยก
ถึงจะจบลงพร้อมเสียงโห่จากคนดูที่ แฟนตาซี สปริงส์ คาซิโน เพราะยังรับไม่ได้ที่มีนักมวยข้ามเพศขึ้นชก แต่ พาทริซิโอ ก็ตอบทุกคนไปว่า “ได้ยินนะว่ามีบางคนไม่แฮปปี้ ไม่เป็นไร เดี๋ยวผมจะกลับมาและผมจะทำให้พวกเขามีความสุขเอง” พร้อมแย้มอีกด้วยว่านี่จะไม่ใช่ไฟต์แรกและไฟต์เดียวในชีวิต แต่เขาจะกลับมาอีกครั้งเพื่อพิสูจน์ตัวเองให้ทุกคนเห็นว่านักมวยข้ามเพศอย่างเขาสมควรที่จะยืนอยู่จุดนี้
“จากนี้ผมขอหยุดพักผ่อนสักระยะ และจะกลับมาชกมวยอีกครั้งในช่วงสิ้นเดือนกุมภาพันธ์ 2019 นั่นแหละคือเป้าที่วางไว้ ผมอยากชกต่อ นี่คือสิ่งที่ผมทำและรักมาอย่างยาวนาน ถึงเวลาต้องเดินต่อแล้ว” พาทริซิโอ กล่าวด้วยรอยยิ้มเป็นการทิ้งท้าย
