โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

“ผ้าครามสกล”ความงดงามตามวิถีไทย

ไทยโพสต์

อัพเดต 18 เม.ย. 2563 เวลา 17.01 น. • เผยแพร่ 18 เม.ย. 2563 เวลา 17.01 น. • ไทยโพสต์

 

                ในบรรยากาศช่วงเดือนเมษายน อันเป็นวันสำคัญสำหรับครอบครัวคนไทย ซึ่งแม้ว่าปีนี้อาจจะไม่ได้เดินทางไปมาหาสู่กัน แต่เชื่อว่าหลายคนก็คงอยากหาของขวัญ ของฝากแทนใจเพื่อมอบให้บุคคลอันเป็นที่รัก เป็นการรำลึกถึงกัน โดยเฉพาะของขวัญจากผ้าไทย ซึ่งดูแล้วเข้ากันกับเทศกาลสงกรานต์ได้เป็นอย่างดี

การทอผ้าย้อมคราม

                ประเทศไทยนั้นถือว่าเป็นเมืองที่โชคดี เพราะมีความอุดมสมบูรณ์จากสิ่งที่เป็นทรัพย์ในดิน เป็นสินในน้ำ แต่ละพื้นที่นอกจากมีแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติที่สวยงาม มีประวัติศาสตร์ที่ชวนให้ไปสัมผัส ยังมีอาหารการกินพื้นถิ่น และของที่ระลึก ซึ่งล้วนแต่มีการสรรค์สร้างขึ้นมาโดยใช้อัตลักษณ์ของท้องถิ่นร่วมผสมผสาน อย่างเช่น เรื่องราวของผ้าย้อมคราม

หน้ากากอนามัยผ้าทอ ร้านครามสกล

ตุ๊กตาหมีคราม

หมวกแก๊ปผ้าทอ

                “ผ้าย้อมคราม” นับเป็นของที่ระลึกที่มีชื่อเสียงอย่างหนึ่งของจังหวัดสกลนคร ซึ่งเป็นดินแดนที่มีประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมมายาวนาน เรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า “ผ้าผิวสวย”  เหตุผลที่มีชื่อนี้เพราะเป็นผ้าที่ผ่านการย้อมด้วยกระบวนการแบบพื้นบ้านโบราณ ไร้สารเคมี ไม่เป็นอันตรายต่อผิว ใส่แล้วทำให้รู้สึกเย็นสบาย ขณะที่แพทย์พื้นบ้านโบราณยังเชื่อว่า กลิ่นหอมของผ้าทำให้รู้สึกผ่อนคลายอีกด้วย

                การทำผ้าย้อมคราม ถือเป็นหัตถกรรมเกษตร เพราะนอกจากต้องใช้ฝีไม้ลายมือในการทอผ้า ยังต้องให้ความสำคัญกับการปลูกคราม หากเราได้เดินทางเข้าไปในหมู่บ้านหลายๆ แห่งในจังหวัดสกลนคร ที่ทำอาชีพทอผ้าย้อมคราม นอกจากจะได้เห็นกระบวนการทำผ้าย้อมครามแล้ว ก็จะเห็นการปลูกคราม ความมหัศจรรย์ของการย้อมผ้าคราม คือ  กระบวนการเกิดสี ที่แปรเปลี่ยนไปตามปัจจัยแวดล้อมทางวิทยาศาสตร์

                สำหรับวิธีการหลักๆ ของการย้อมคราม โดยทั่วไปคือการใช้ครามจากสีที่ได้จากธรรมชาติในท้องถิ่น ส่วนผสมหลักเป็นใบคราม และน้ำคั่งหรือน้ำขี้เถ้า จากนั้นนำผ้าฝ้ายสีขาวจุ่มลงไปจะได้ผ้าสีเขียว และเมื่อบิดน้ำออกผ้าจะกลายเป็นสีคราม ย้อมอย่างน้อย 3 น้ำเพื่อให้สีครามซึมเข้าไปในเนื้อผ้าจนกว่าจะได้สีอ่อน หรือแก่ตามต้องการ ในการย้อมสามารถย้อมได้ทั้งผืน หรือย้อมเฉพาะบางส่วน โดยใช้เชือกฟางมามัดตรงส่วนที่ไม่ต้องการให้สีติดก่อนจะนำไปย้อมในน้ำคราม

                หลังจากที่นำมาผ้าไปย้อมแล้วจะนำมาตากให้แห้ง ก่อนจะนำไปม้วนเก็บให้เรียบร้อยเพื่อไม่ให้ฝ้ายติดกันก่อนจะนำไปทอต่อไป สามารถนำไปทอเป็นผ้าพันคอ ผ้าคลุมไหล่ ผ้าซิ่น หรือผ้าสำหรับตัดเสื้อก็ได้ ผ้าที่ได้ใส่แล้วเย็นสบาย กลิ่นหอมที่ได้จากการย้อมสีธรรมชาติ สีสวยคงทน นับเป็นภูมิปัญญาไทยอย่างหนึ่งที่ควรอนุรักษ์ไว้ 

ผ้าพันคอเส้นใยฝ้ายย้อมครามทอมือ

                ทั้งนี้ ในแต่ละร้าน หรือแต่ละกลุ่มอาจมีเทคนิคเพิ่มเติมตามประสบการณ์ของผู้ทำ

                สำหรับผ้าคราม ในจังหวัดสกลนคร มีผู้ผลิตอยู่หลายแห่ง แต่ที่ขึ้นชื่อเป็นของดีประจำถิ่น ต้องยกให้ที่บ้านโนนเรือสามัคคี ต.นาหัวบ่อ อ.พรรณานิคม จ.สกลนคร หนึ่งในชุมชนที่มีชื่อเสียงที่สุดเรื่องผ้าย้อมคราม ภายใต้การนำของ แม่วารี ไชยตะมาตย์ มีการรวมกลุ่มแม่บ้านประมาณ 60 หลังคาเรือน เป็นชาติพันธุ์ภูไท หรือผู้ไทและไทญ้อ ซึ่งส่วนใหญ่จะทอผ้าใช้ในครัวเรือน

                กลุ่มบ้านโนนเรือเริ่มรวมตัวกันเพื่อหารายได้เสริมมาตั้งแต่ปี 2537 ช่วงแรกเน้นเรื่องการทำขนม แต่ขายได้ไม่ดีนัก ภายหลังจึงนำองค์ความรู้และภูมิปัญญาชาวบ้านดั้งเดิมที่ตนเองมีอยู่ คือ การทอผ้า ประกอบกับประธานกลุ่มคือแม่วารี มีทักษะฝีมือในการทอผ้า จึงได้สอนสมาชิกกลุ่มให้มีความเชี่ยวชาญมากขึ้น ตั้งแต่กระบวนการย้อม ไปจนถึงขั้นตอนการทอ และเริ่มทอผ้าฝ้ายย้อมครามอย่างจริงจังเมื่อปี พ.ศ.2547 จนประสบความสำเร็จและได้รับการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนเมื่อปี 2549 ได้รับความสนใจและการตอบรับจากพ่อค้าแม่ค้าคนกลางทั้งในและต่างประเทศ รวมทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้เพื่อการศึกษาดูงานของสถาบันการศึกษาและสถาบันอื่นๆ มาจนถึงปัจจุบัน

ผ้านุ่งใยไผ่ ทอมือ ร้านครามสกล

                ทั้งนี้ ผลงานของกลุ่มแม่บ้านบ้านโนนเรือ มีรางวัลต่างๆ  รับรองมากมาย อาทิ รางวัลผ้าย้อมคราม ประเภทแปรรูปกระเป๋า เมื่อปี พ.ศ.2537, รางวัลสุดยอดผ้าย้อมครามประเภทผ้ามัดหมี่ลายสร้างสรรค์ ปี พ.ศ.2537, รางวัลชมเชยในการประกวดผลิตภัณฑ์ผ้าฝ้ายย้อมสีธรรมชาติ ประเภทผ้าปูโต๊ะอาหาร เมื่อปี พ.ศ.2537, รางวัลชนะเลิศที่ 1 ในการประกวดผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมที่ไม่ใช่อาหาร ผ้าฝ้ายทอมือประเภทผ้าทอลายจากโครงสร้างผ้าและมีตัวอย่าง เมื่อปี พ.ศ.2537, รางวัลชนะเลิศการประกวดผ้าฝ้ายคลุมไหล่ งานวันเกษตรภาคอีสาน เมื่อปี พ.ศ.2537

                รวมทั้งได้รับการคัดสรรเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ 4 ดาว  ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย เมื่อปี พ.ศ.2522, ได้รับการคัดสรรการเป็นผลิตภัณฑ์ระดับ 5 ดาว ประเภทผ้า เครื่องแต่งกาย เมื่อปี พ.ศ.2553 และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย

                ปัจจุบันทางกลุ่มยังผลิตสินค้ากันอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งในช่วงนี้ก็มีการผลิตผ้าปิดจมูก งานสีธรรมชาติเป็นผ้าฝ้ายทอมือออกมาจำหน่ายด้วย ผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อสินค้า  กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านโนนเรือสามัคคี (โฮมครามวารี) โทร.08-7232 9016 หรือเข้าชมสินค้าผ่านช่องทาง Facebook : ผ้าย้อมครามบ้านโนนเรือ สกลนคร

 

                บ้านถ้ำเต่า อีกหมู่บ้านหนึ่งที่มีชื่อเสียงเรื่องผ้าย้อมครามเช่นกัน เป็นหมู่บ้านที่มีความเป็นมายาวนาน เนื่องจากมีการค้นพบเตาเผาเครื่องปั้นโบราณขนาดใหญ่คล้ายถ้ำ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อบ้านถ้ำเตา ต่อมาแผลงเป็นบ้านถ้ำเต่า ที่นี่เป็นแหล่งปลูกครามและผลิตน้ำครามใหญ่ที่สุดในสกลนคร และมีการพัฒนาความรู้การทำผ้าย้อมคราม และต่อยอดการสร้างสรรค์ผ้าย้อมครามแบบใหม่ๆ ให้สอดรับกับยุคสมัย ในสถานการณ์ปกติสามารถชมการสาธิต การเข็นฝ้าย การย้อมฝ้าย ทดลองกิจกรรมทำผ้ามัดย้อมคราม เลือกซื้อสินค้าแปรรูปจากผ้าย้อมคราม เช่น เสื้อยืดมัดย้อมคราม เสื้อสำเร็จรูป ปลอกหมอน กระเป๋า ฯลฯ ได้

                สำหรับช่วงนี้ ผู้สนใจผลิตภัณฑ์สามารถเข้าไปดูที่ Facebook : ผ้าย้อมครามบ้านถ้ำเต่า ซึ่งมีร้านและกลุ่มแยกออกไปอีก โดยแต่ละกลุ่มมีรายละเอียดการทอและลวดลายที่แตกต่างกันไป              

                ส่วนคนที่ชอบงานผ้าครามประยุกต์เป็นแนวโมเดิร์น ต้องไปดูที่ ”ร้านครามสกล" อยู่ที่ ต.ห้วยยาง อ.เมือง จ.สกลนคร เป็นศูนย์รวมการท่องเที่ยววิถีผ้าคราม และเป็นการต่อยอดภูมิปัญญาผ้าครามสกลในหลากหลายมิติ ตามแฟชั่น ตามยุค ตามสมัย เป็นทั้งร้านจำหน่ายสินค้าอันหลากหลายจากผ้าครามที่ผลิตจากแหล่งที่ดีในสกลนคร เป็นผ้าย้อมครามธรรมชาติ และย้อมเปลือกไม้ธรรมชาติ เช่น ผ้าพันคอชิโบริ เสื้อยืดมัดย้อมคราม (เทคนิคดึงสี) เสื้อมัดย้อมครามธรรมชาติ

                นอกจากนี้ ยังมีการแปรรูปผ้าไทย ซึ่งเป็นผ้าที่ชาวบ้านในชุมชนทอมือด้วยความใส่ใจ ย้อมครามธรรมชาติ มาเป็นผ้ากากอนามัยจำหน่ายอีกด้วย ใช้สวมใส่เพื่อป้องกันเชื้อโรค กันฝุ่นมลพิษต่างๆ และป้องกันรังสี UV ผลิตในลักษณะงานแฮนด์เมดเพื่อช่วยให้ช่างตัดเย็บมีงานทำ 

                ผู้สนใจติดต่อผ่าน Line ID : @Kramsakon1 (ใส่เครื่องหมาย@ด้านหน้าด้วย) โทร.08-7227-4173 หรือติดตามผ่านเฟซบุ๊ก : ครามสกล-Kramsakon           

                ทั้งนี้ ผ้าย้อมครามในจังหวัดสกลนครมีแหล่งผลิตอีกหลายแห่ง ซึ่งผู้สนใจสามารถเข้าไปค้นหา Facebook โดยใช้คีย์เวิร์ดคำว่า ผ้าย้อมคราม สกลนคร จะได้พบกับผลิตภัณฑ์ที่มีความหลากหลายเพิ่มเติมขึ้นไปอีก

                นอกจากนี้ ยังสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานนครพนมผ่านช่องทาง Facebook : ททท.สำนักงานนครพนม.

………………………………………………

 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0