โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

EP ส่ง E-COGEN ลงทุนเพิ่มใน SSUT อีก 40% ใช้เงิน 2.1 พันลบ. ดันสัดส่วนถือหุ้นเป็น 80.96%

Wealthy Thai

อัพเดต 04 ส.ค. 2566 เวลา 19.32 น. • เผยแพร่ 01 มิ.ย. 2564 เวลา 15.04 น.

บอร์ด EP ไฟเขียวส่งบริษัทย่อย E-COGEN ซื้อหุ้น SSUT ผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วมและไอน้ำร่วมกันในระบบ Cogeneration (ผลิตไฟฟ้า 240 MWและไอน้ำ 60 ตัน) จากกลุ่มผู้ถือหุ้นเดิม จำนวน 11,676,000 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นที่ชำระแล้ว โดยใช้เงินลงทุน 2.10 พันล้านบาท ดันสัดส่วนการถือหุ้นรวมเป็น 80.96% บิ๊กบอส "ยุทธ ชินสุภัคกุล" ชี้ทำให้มีอำนาจควบคุมโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม พร้อมรับรู้รายได้ทันทีจากการขายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น ที่สำคัญจะทำให้บริษัทฯ มีกำไรที่มั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อีสเทอร์น พาวเวอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EP เปิดเผยว่าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 4/2564 เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 มีมติอนุมัติให้บริษัท อีสเทอร์น โคเจนเนอเรชั่น จำกัด (“E-COGEN”) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญของ บริษัท เอสเอสยูที จำกัด (“SSUT”) ซึ่งเป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) เพิ่มจากผู้ขาย 2 ราย จำนวนทั้งสิ้น 11,676,000 หุ้น หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ชำระแล้ว รวมมูลค่าทั้งสิ้น 2,107,793,760 บาท เป็นการซื้อหุ้นสามัญของ SSUT จากบริษัท คอมลิงค์ จำกัด ร้อยละ 15 และบริษัท อีเทอเนิล เอนเนอยี่ จำกัด (มหาชน) (“EE”) ร้อยละ 25
ภายหลังการเข้าทำรายการ บริษัทฯ จะมีสัดส่วนการถือหุ้นโดยตรงและโดยอ้อมผ่าน E-COGEN ใน PPTC จำนวนทั้งสิ้น 50.70% และ SSUT จำนวนทั้งสิ้น 80.96%
"ผลประโยชน์ที่คาดว่าจะเกิดกับบริษัทฯ เพื่อเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน SSUT ซึ่งเดิมบริษัทฯ ถือหุ้นอยู่แล้วบางส่วน ทำให้มีอำนาจควบคุมในการดำเนินธุรกิจโรงไฟฟ้าระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) โดยบริษัทฯ จะมีรายได้จากการจำหน่ายไฟฟ้าและไอน้ำเพิ่มขึ้น เพื่อส่งเสริมให้บริษัทฯ มีกำไรมั่นคงและต่อเนื่องในอนาคต รวมทั้ง EP จะสามารถรับรู้ผลการดำเนินงานในงบการเงินรวมได้จากการถือหุ้นเพิ่มขึ้นเกินกว่าร้อยละ 50 และมีอำนาจควบคุมอีกด้วย" นายยุทธ กล่าวในที่สุด
ทั้งนี้ SSUT เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer : SPP) ระบบพลังงานความร้อนร่วม(Cogeneration)กำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 240 MW (มี 2 หน่วยการผลิตกำลังการผลิตหน่วยละ120 MW) และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดประมาณ 60 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมบางปู จังหวัดสมุทรปราการ
ส่วน PPTC เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าขนาดเล็ก (Small Power Producer : SPP) ระบบพลังงานความร้อนร่วม (Cogeneration) กำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 120 MW และไอน้ำกำลังการผลิตสูงสุดรวมประมาณ 30 ตันต่อชั่วโมง ตั้งอยู่ในเขตนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0