โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“ป๋าเต็ด” หัวร้อนแทน “ส้มหวาน” เหน็บ "ยุบอนาคตใหม่” โปรโมท “วิ่ง.ไล่.ลุง.”

Manager Online

เผยแพร่ 12 ธ.ค. 2562 เวลา 08.00 น. • MGR Online

“ป๋าเต็ด” ออกอาการหัวร้อนแทน “ส้มหวาน” ใส่อารมณ์พาลสื่อ เหน็บรัฐบาล หาว่ากกต.มีมติส่งเรื่องให้ศาล รธน.วินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่ ช่วยโปรโมท “วิ่ง.ไล่.ลุง”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง ทวิตเตอร์ “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม

(Yuthana Boonorm) ทวิตว่า ข่าวยุบพรรคนี่เหมือนฝั่งรัฐบาลจะกลัวว่าคนจะไป “วิ่งไล่ลุง” กันน้อยเกินไปหรือเปล่า เลยโปรโมทให้นิดนึง :)

อีกตอนหนึ่ง ทวิตว่า เมื่อก่อนเคยคิดว่าFollowสำนักข่าว หรือสื่อเลวๆเอาไว้ติดตามว่าพวกนี้จะเล่นข่าวแบบไหน เราจะได้รู้ความเห็นของคนอีกฝั่ง แต่มาคิดได้ว่าจะไปเพิ่มยอดfollowให้พวกนี้ทำไมวะ เลยกดบล๊อกแม่งให้หมด ทุกท่านก็ควรทำเช่นกันครับ

และก็อีกตอน ทวิตว่า เห็นหัวกันบ้างเถอะพี่ #ไม่ได้ชังชาติหรอกชังพี่นั่นแหละ

รวมถึงทวิตด้วยว่า ก็ตั้งกติกาไปเลยสิว่าประเทศนี้จะมีพรรคเดียว พรรคพวกของพี่น่ะ พรรคอื่นก็ยุบให้หมด #ไม่ชังชาติหรอกชังพวกพี่นั่นแหละ

สำหรับ “ป๋าเต็ด” ยุทธนา บุญอ้อม จบการศึกษาจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย เข้าศึกษาที่คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แต่เรียนไม่จบเพราะมีปัญหาบางประการกับวิชาเอก ได้เข้าฝึกงานอยู่ที่แกรมมี่อยู่แผนกคอนเสิร์ต และเป็นจุดเริ่มต้นที่ได้ก้าวเข้าสู่นักจัดรายการวิทยุ หรือดีเจ เป็นนักจัดการรายการวิทยุคลื่น กรีนเวฟ และ ฮอตเวฟ ฯลฯ และอยู่ในวงการมาจนถึงทุกวันนี้

กลับมาที่เรื่อง มติ กกต. 5 ต่อ 2 ที่ส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคอนาคตใหม่นั้น ฝ่ายที่หนุนหลังพรรคส้มหวาน ต่างเชื่ออย่างฝังหัวว่าเกิดจากมีใบสั่งจริง อย่างที่พรรคมีการโฆษณาชวนเชื่อเอาไว้แล้ว

ไม่เว้นแม้แต่หลัง กกต.มีมติออกมา (11 ธ.ค.62) ที่รัฐสภา นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ ก็ยังแถลงถึงมติ กกต. และกรณีนายธนาธร ปล่อยเงินกู้ให้พรรค จำนวน 191 ล้านบาท ว่า เราไม่เห็นด้วยกับมติดังกล่าว และขอตั้งข้อเคลือบแคลงสงสัยต่อการทำงานของ กตต. การใช้ดุลยพินิจ การใช้กฎหมายของ กกต.ว่ามีวัตถุประสงค์เป็นเครื่องมือทางการเมือง มีเรื่องบิดเบือนโดยมิชอบหรือไม่

ตนจึงอยากตั้งขอสงสัย ดังนี้ 1. กกต.เร่งรัดกรณีของเราในเรื่องกู้เงินนี้อย่างผิดสังเกต ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหา ไม่มีการเรียกเราไปสอบสวน มีแต่เพียงให้ประธานคณะกรรมการไต่สวน เชิญเราไปชี้แจงอยู่ 3 ครั้ง แล้วให้ส่งเอกสาร ซึ่งมีลักษณะไม่เกี่ยวข้องกับคดี 2. กระบวนการทำงานในคดีที่ผ่านมามีเอกสารหลุดออกมา ซึ่ง กกต.ก็ยอมรับเรื่องนี้อย่างชัดเจน

ระหว่างทางก็มีข่าวปล่อย ข่าวหลุด แหล่งข่าวกล่าวว่าอย่างนั้นอย่างนี้ เผยแพร่ลงในสื่อหลายฉบับ เมื่อวันที่ 10 ธ.ค.ที่ผ่านมาก็ดีมีการพาดหัวตรงกันหลายฉบับ ราวกับไปนั่งอยู่ในห้องประชุม กกต. ทั้งยังรู้ด้วยว่าแนวจะออกมาแบบไหน และท้ายที่สุดมติ กกต.วันนี้ก็เป็นเหมือนที่แหล่งข่าวกล่าวว่า กระบวนการแบบนี้เป็นกระบวนการชี้นำทางสื่อก่อน เพื่อจะทำให้สังคมเชื่อกันล่วงหน้าว่าพรรคอนาคตใหม่ทำผิดจริง

3. กกต.มีมติให้ยุบพรรคอนาคตใหม่ โดยอ้างเหตุตามมาตรา 72 ซึ่งระบุไว้ว่าห้ามมิให้พรรคการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งในพรรคการเมือง รับบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด โดยรู้หรือควรรู้ว่าได้มาโดยมิชอบตามกฎหมาย หรือมีเหตุอันควรสงสัยว่ามีแหล่งที่มาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ดังนั้นความผิดตามมาตรา 72 คือการรับเงินที่ได้มาโดยมิชอบ

คำถามคือเงินที่เราได้มาจากการกู้หัวหน้าพรรค ไม่ชอบด้วยกฎหมายตรงไหน ซี่ง กกต. ไม่ได้มีคำตอบนี้ ตนรอเอกสารแถลงข่าวจนถึงเย็น ในเอกสารก็ผิดหวังเพราะมีเพียง 5 บรรทัด ทำงานกันแบบนี้ง่ายดีกันจริงๆ ไม่อธิบายเหตุผลอะไรเลย นี่หรือองค์กรอิสระที่ทำหน้าที่วินิจฉัยชี้ขาดข้อพิพาทสำคัญต่างๆ…

ขณะเดียวกันวันนี้ (12 ธ.ค.62) นายจรัล ดิษฐาอภิชัย อดีตกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) และประธานสมาคมนักประชาธิปไตยชาวไทยไร้พรมแดน ที่ลี้ภัยอยู่ประเทศฝรั่งเศส ก็โพสต์ข้อความระบุ "ขอประนามกกต.ส่งเรื่องยุบพรรคอนาคตใหม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย อันเป็นไปตามธงของกลุ่มปกครองคณะประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการทำลายพรรคฝ่ายค้านทำลายพรรคนี้ อันเป็นการละเมิดหลักการประชาธิปไตยทีจะยุบพรรคการเมืองมิได้

ผมส่งข่าวนี้ไปยังอียู รัฐสภายุโรป กระทรวงต่างประเทศอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และสื่อมวลชน เพื่อขอให้ติดตามอย่างใกล้ชิด คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะยุบพรรคอนาคตใหม่เร็ว"

แต่ต้องมาฟัง นายชูชาติ ศรีแสง อดีตผู้พิพากษาศาลฎีกา โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Chuchart Srisaeng วันนี้(12 ธ.ค.62)เช่นกันว่า พรรคการเมืองต้องมีนักกฎหมายที่ ศึกษารัฐธรรมนูญและกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้รู้อย่างถ่องแท้

มิใช่ขาดความละเอียดรอบคอบ

เมื่อพลาดพลั้งแล้วออกมาโวยวายว่า ถูกกลั่นแกล้ง.

ส่วนคนที่ตอบคำถาม “ปิยบุตร” ได้อย่างจะแจ้ง ก็คือ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักประวัติศาสตร์ ซึ่งโพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว(12 ธ.ค.62) กล่าวถึงกรณีนายปิยบุตร ไม่ยอมรับมติ กกต.ยุบพรรคอนาคตใหม่

โดยระบุว่า ปัญหาอยู่ที่กฎหมายที่จ้องกำจัดศัตรูทางการเมืองจริงหรือ? หรือเพราะความไม่รอบคอบของตนเอง? ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ แถลงในฐานะตัวแทนพรรค ยืนยัน ไม่เห็นด้วยมติ กกต. ที่ส่งศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรค

ปิยบุตร ถามโดยตั้งข้อสังเกตว่า กกต. เร่งรัดคดีกู้เงินผิดสังเกต ไม่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไม่มีการสอบสวน มีเพียงการเรียกให้ชี้แจงเพียง 3 ครั้ง ในชั้นของกรรมการไต่สวน

ตอบ เรื่องนี้ไม่มีปัญหาข้อเท็จจริงเหมือนกรณีธนาธร ถือหุ้น บริษัท วี-ลัค มีเดีย ว่า โอนหุ้นเมื่อไรกันแน่ แต่กรณีเรื่องเงินกู้นี้ นายธนาธร ยอมรับเองว่า ให้พรรคอนาคตใหม่กู้เงิน และการเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินที่ยื่นต่อ ป.ป.ช ว่า มีรายการให้พรรคอนาคตใหม่กู้ยืมเงิน 2 รายการรวม 191 ล้าน 2 แสนบาท เพราะฉะนั้น จึงไม่มีความจำเป็นต้องสอบสวน สืบสวน หรือต้องตั้งกรรมการไต่สวนใดๆ อีก นี่ ร.ศ.ดร.ปิยบุตร เป็นรองศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายไม่ใช่หรือ?

ปิยบุตร ถามเงินจากการกู้เงินจากหัวหน้าพรรค ไม่ชอบด้วยกฎหมายอย่างไร?

ตอบ (ด้วยภาษาแบบที่ชาวบ้านเข้าใจ) กฎหมายรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยรายได้ ค่าใช้จ่ายของพรรคการเมือง มีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันมิให้พรรคการเมืองถูกครอบงำจากนายทุน จึงจำกัดวงเงินที่พรรคการเมืองจะรับบริจาคจากผู้ให้บริจาคแต่ละรายไว้ไม่เกิน 10 ล้านบาทต่อปี นี่ ร.ศ.ดร.ปิยบุตร เป็นรองศาสตราจารย์ทางด้านกฎหมายไม่ใช่หรือ?

การที่หัวหน้าพรรคบริจาคเงินหรือให้เงินกู้กับพรรค เข้าข่ายที่จะมีอิทธิพลครอบงำ เข้าใจมั้ย ใครก็ตามที่เป็นเจ้าของเงิน มักมีผลหรือมีอิทธิพล ไม่ทางตรงก็ทางอ้อม ต่อองค์กร เช่น คุณไปกู้เงินใครมาสักคน แล้ววันดีคืนดี เขาขอให้คุณช่วยเหลือเขา เช่น ฝากลูกเข้าเรียน เข้างาน หรือเขามีโครงการประมูลกับรัฐ อยากให้คุณช่วย เอาแค่เรื่องง่ายๆ ไม่ต้องโฉงฉ่าง แค่ช่วยพิจารณาโครงการของเขาด้วย คุณจะกล้าปฏิเสธผู้ให้การสนับสนุนพรรคมั้ย เห็นมั้ยว่าเจ้าของเงิน คือผู้มีอุปการคุณ คุณกล้าปฏิเสธหรือว่าเมืองไทยไม่มีสังคมอุปถัมภ์ คุณกล้าปฏิเสธมั้ยว่าอเมริกาก็มีระบบอุปถัมภ์

ทรัมป์แบนความช่วยเหลือไทยเราล่าสุด ด้วยเหตุผลอะไร เรารู้กันดี เพราะช่วยปกป้องผลประโยชน์ของผู้ที่ออกเงินเป็นผู้อุปถัมภ์ค้ำชูให้ทรัมป์ คุณว่าธนาธร กับทรัมป์ ใครรวยกว่ากัน แล้วทรัมป์รวยมหาศาลกว่าธนาธรไม่รู้เท่าไหร่ ทำไมยังต้องมีผู้อุปถัมภ์ ต่อให้เจ้าของเงินกู้ร้อยกว่าล้านไม่ใช่ธนาธร เจ้าของเงินกู้คนนั้นย่อมมีอิทธิพลไม่ทางตรงก็ทางอ้อมต่อพรรคแน่นอน กฎหมายถึงได้กำหนดขึ้นมาเป็นข้อปฏิบัติ เพื่อป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้นและยากที่มองเห็นนี้

ปัญหานี้จัดการง่ายมาก “แค่คุณทำตามกฎหมาย”

กฎหมายไม่ได้เขียนขึ้นมาเพื่อฆ่าคุณโดยเฉพาะ เขาเขียนขึ้นมาก่อนคุณจะนำพรรคลงสมัครรับเลือกตั้ง เขาเขียนขึ้นมาเพื่อเป็นข้อบังคับสำหรับทุกพรรคและทุกคน ในขณะที่ทุกพรรคทำตามกฎหมาย แต่คุณไม่ทำตามกฎหมาย พอถูกกฎหมายเล่นงาน คุณก็ง่องแง่งเป็นเด็กๆ อ้างว่าถูกการเมืองเล่นง่าย อ้างว่า 2 มาตรฐาน แล้วทำไมพรรคอื่นไม่โดน เพื่อไทยก็อยู่ฝ่ายเดียวกับคุณเขายังไม่โดน จะ 2 มาตรฐานได้ยังไง คุณไม่รอบคอบเอง

ตั้งแต่ธนาธร หัวหน้าพรรคคุณ ลืมโอนหุ้นแล้ว ก็เกิดจากความไม่รอบคอบ กฎหมายเขียนไว้ชัดเจนก่อนหัวหน้าพรรคคุณสมัครรับเลือกตั้ง แต่เขากลับเป็นคนที่ไม่รอบคอบเอง ที่ลืมโอนหุ้นให้เรียบร้อย พอศาลเรียกไปชี้แจง กลับตอบว่าจำไม่ได้ ซึ่งมันคือการที่ไม่สามารถชี้แจงอะไรได้เลย พอศาลตัดสินว่าผิด หัวหน้าพรรคคุณกลับออกมาพูดนอกศาลว่า ศาลตัดสินด้วยการมโนไปเอง ไม่ได้พิจารณาตัดสินจากหลักฐาน คุณเห็นอะไรมั้ย?

คุณเห็นมั้ยว่าพรรคคุณมันมั่ว ไม่รอบคอบ ทำผิดกฎหมายจากความไม่รอบคอบ ผมไม่ได้บอกว่าคุณตั้งใจโกง คุณ(ยัง)ไม่ได้โกง แต่ผมบอกว่า คุณไม่รอบคอบ

กฎหมายเขียนไว้ว่าอย่างไร? พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. 2560 มาตรา 66 ที่ระบุว่า บุคคลใดจะบริจาคเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดแห่งพรรคการเมือง มีมูลค่าเกิน 10 ล้านบาทต่อพรรคการเมืองต่อปีมิได้ และพรรคการเมืองจะรับบริจาคเงิน ทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดซึ่งมีมูลค่าเกินกว่า 10 ล้านบาทมิได้

เรื่องนี้มันแดงมาได้ยังไง มันแดงมาจากปากของธนาธรเอง ไม่มีใครไปตามล่ามา แต่มันแดงมาจากนายธนาธร ไปพูดในวงประชุมสโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศ หลังการเลือกตั้งไม่นานว่า “พรรคอนาคตใหม่เป็นหนี้ตนอยู่ 100 กว่าล้านบาท เป็นเงินที่กู้มาใช้จ่าย สำหรับหาเสียงเลือกตั้ง”

คุณเห็นมั้ยว่า ไม่มีใครแกล้งคุณ คุณไม่รอบคอบ และคุณไม่รู้ตัวว่าทำผิดกฎหมาย ทั้งๆที่คุณเป็นพรรคการเมือง มีนักกฎหมายเต็มพรรค ไม่มีใครทำคุณ คุณมันไม่รอบคอบ

ไม่ตรวจสอบ ตรวจทาน ว่าข้อกฎหมายกำหนดอะไรไว้บ้าง คุณแหกกฎ ทำผิดกฎหมาย เพราะไม่รอบคอบ เรื่องเข้าใจง่ายแค่นี้เอง

ผิดพลาดเอง อย่าโยงไปเรื่องอื่นๆ หยุดง่องแง่งเป็นเด็กๆ หยุดปลุกระดมคนเข้ามาช่วยคนที่ไม่รอบคอบอย่างคุณเลย แค่คุณรอบคอบกว่านี้ ใครก็ทำอะไรคุณไม่ได้ กฎหมายกำหนดว่า ห้ามถือหุ้นสื่อ ถ้าคุณไม่ถือหุ้นสื่อ ใครจะทำอะไรคุณได้ กฎหมายห้ามรับเงินเกิน 10 ล้าน ถ้าคุณไม่ได้รับเงินใครเกิน 10 ล้าน ใครก็ทำอะไรคุณไม่ได้ จริงมั้ย พรรคคุณ(ยัง)ไม่ได้โกง ไม่มีทุจริตคอรัปชั่น อภิปรายในสภาอย่างเป็นระบบน่าเลื่อมใส แต่หัวหน้าพรรคและพรรคของคุณ ไม่รอบคอบ สะดุดขาตัวเองด้วยการทำผิดกฎหมายที่เขียนไว้ชัดเจน เสียเอง

ตายเพราะตกม้าตาย ไม่ได้ตายเพราะออกไปรบ

ทวิตของ “ป๋าเต็ด” เป็นอีกตัวอย่างหนึ่งที่น่าเศร้าใจ สำหรับฝ่ายที่อ้างว่าตัวเองเป็น ฝ่ายประชาธิปไตย และสนับสนุนฝ่ายประชาธิปไตย คือ ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษแม้แต่น้อย ทำผิดไม่ยอมรับผิด และไม่กล้าถูกตรวจสอบ คิดแต่ว่า ถ้าอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยแล้ว ทำอะไรทางการเมืองไม่ผิด มันน่าเศร้าเสียยิ่งกว่าเศร้าเสียอีก

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0