โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“ปลื้ม” ครับ!..มากับ “เสรีภาพ” และการเสี่ยงตาย...อีกแล้ว 'หม่อมปลื้ม' เอา HIV มาเปรียบ “ห้ามมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้”

Manager Online

เผยแพร่ 10 เม.ย. 2563 เวลา 11.08 น. • MGR Online

อีกแล้ว 'หม่อมปลื้ม' เอาการติด HIV มาเปรียบกับโควิด 19 ที่ “ห้ามมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้” แต่ป้องกันตัวเองได้ โดยรัฐไม่ต้องมีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน และเคอร์ฟิว หลังก่อนหน้านี้ออกมา “ล่อเป้า” เรียกร้องเปิดการเรียนการสอนนักเรียน นักศึกษา

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้(10 เม.ย.63) เฟซบุ๊ก M.l. Nattakorn Devakula หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ เทวกุล หรือ “ปลื้ม” พิธีกร และผู้ดำเนินรายการโทรทัศน์ โพสต์ข้อความระบุว่า

“ผู้ติดเชื่อ HIV ทั่วโลกสูงถึง 37.9 ล้านคน ในนั้น 36.2 ล้านคนทั่วโลกเป็นผู้ใหญ่ 1.7 ล้านคนเป็นเด็กที่มีเชื้อ HIV / ในปี 2018 มีผู้ติดเชื้อ HIV เพิ่ม 1.8 ล้านราย จำนวนผู้ตายจากอาการที่เชื่อมโยงกับ HIV/AIDS อยู่ที่ 770,000 คนในปีนั้น www.hiv.gov ถ้ารัฐสั่งห้ามมีเพศสัมพันธ์มีสิทธิไหม? ไม่มีอยู่เเล้ว เป็นไปไม่ได้

มนุษย์มีหน้าที่ป้องกันตนเอง เเต่การดำรงชีพต้องเดินหน้าต่อไป ความเสี่ยงเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตเสมอ โรคมีอีกเยอะ ถุงยางอนามัยมีอัตราป้องกันการติด HIV ได้ประมาณ 80 - 90% เท่านั้นรู้มั๊ย? เเล้วมนุษย์เลิกมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ ทั้งที่มีความเสี่ยงที่จะติดเชื้อเเละตาย ไม่เลิกเเละเลิกไม่ได้ เพราะมันเป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตในฐานะสัตว์สังคมพันธู์มนุษย์

ลดความตื่นตระหนกก่อนที่จะทำให้อำนาจรัฐถูกใช้ไปในทางที่หลงเเละละเมิดสิทธิในการใช้ชีวิต ประกอบอาชีพเเละเข้าถึงการศึกษามากกว่านี้้

ต่อมา เฟซบุ๊ก M.l. Nattakorn Devakula ยังโพสต์อีกว่า

“สำหรับในกรณีของประเทศไทยไม่สามารถถือได้ว่า เป็นสถานการณ์ฉุกเฉินอีกต่อไป ถ้าประเมินจากตัวเลข เเละความเป็นจริง วันนี้หายเพิ่มอีก จำนวนมาก หายเเล้วกลับบ้านเเล้วทั้งหมดรวมทั้งสิ้น 1,013 คน ในขณะที่ผู้ป่วยที่รอรักษาอยู่มีทั้งหมด 1,460 ติดเชื้อเพิ่มเติมเพียงเเค่ 50 รายเท่านั้น ส่วนเสียชีวิตมี 1 คน ทำให้ผู้ตายสะสมอยู่ที่ 33 คน

ต้องตั้งสติ รัฐบาลอย่าเอาตามอารมณ์ หรือความเชื่อของสายเหยี่ยวที่ต้องการขังทุกคนทุกครอบครัวไว้ในบ้านอย่างไร้สติ เปิดบ้านเปิดเศรษฐกิจได้เเล้ว ไม่ต้องถึงสิ้นเดือน หลังสงกรานต์ขออิสรภาพคืนมา เเละยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้

อะไรไม่สำคัญเท่ากับ 'หม่อมปลื้ม' เคยโพสต์ทำนองเดียวกัน เรียกร้องให้เปิดการเรียนการสอน ทั้งที่สถานการณ์การระบาดของโควิด 19 ยังรุนแรง จนคนเข้าไปด่า และวิจารณ์จำนวนมาก

ทั้งนี้เมื่อวันที่ 7 เม.ย.63 หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก M.L. Nattakorn Devakula ระบุว่า "

“1408 รายรักษาตัว ติดเชื้อเพิ่ม 38 เสียชีวิตเพิ่ม 1 เสนอเลื่อนเปิดเทอมไปหาอะไร?! การเรียนสำคัญ คิดหน่อยสิครับ เอะอะก็เลื่อนก็ปิด"

จากนั้น หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ โพสต์ผ่านทวีตเตอร์ด้วยว่า "ให้เด็กกลับไปเรียน พอกันทีกับการปิดโรงเรียนอย่างไร้เหตุผล รัฐพรากการศึกษาไปจากลูกลูกหลานหลานของเรามานานพอเเล้ว ทั้งมหาวิทยาลัย โรงเรียนกวดวิชาเเละโรงเรียนอินเตอร์ รวมทั้งการเตรียมการเรียนการสอนในโรงเรียนของรัฐเเละเอกชนไทยปกติที่ต้องมีอยู่ในเวลานี้"

"ไม่มีเหตุผลรองรับสำหรับการให้ปิดสถานการศึกษาอีกต่อไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลาที่การระบาดในประเทศไทยนั้นคุมอยู่ได้เเล้ว อัตราการติดเชื้อใหม่เเละเสียชีวิตถือว่าต่ำมาก เเละต่ำกว่าโรคอื่นเยอะหลายโรค รัฐบาลกรุณาถอยบ้าง"

"ไม่ใช่เเค่เศรษฐกิจที่ทำพังลงไปกับมือ เเต่การดีเลย์การศึกษาออกไปคนที่ต้องจ่ายคือเด็กเเละเยาวชน รัฐต้องหยุดนโยบายที่มักง่ายเเละสิ้นคิด เอาโรงเรียนของลูกเราคืนมา เเล้วเอาเศรษฐกิจของเรากลับมาอีกด้วย มันคุมไวรัสได้ ถึงเเม้ว่าเปิดทุกอย่าง ฝึก Physical Distancing ให้กับทุกคน”

"เด็กไม่ได้เรียนหนังสือเเต่พวกคุณได้มาทำงานเหรอครับ? ขอร้อง..ทุเรศ"

โดยโพสต์ดังกล่าว เนื่องมาจากมีกระแสข่าวว่าในการประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ได้เสนอที่ประชุมเพื่อพิจารณารับทราบการปรับเวลาเปิดภาคเรียนแรก ประจำปีการศึกษา 2563 โดยจะให้เลื่อนการเปิดภาคเรียนที่ 1/ 2563 จากเดิมวันที่ 16 พ.ค. ไปเป็นวันที่ 1 ก.ค.63 เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด รวมทั้งการปรับวิธีการเรียนการสอนให้สอดคล้องกับการเลื่อนเปิดเทอมดังกล่าว….

แน่นอน, ประเด็นของหม่อมปลื้ม ฟังดูไม่ต่างจาก ข้อเสนอของ นายปิยบุตร แสงกนกกุล แกนนำคณะก้าวไกล อดีตเลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เท่าใดนัก เรื่องของเรื่องเป็นการโจมตี พ.ร.ก.ฉุกเฉินของรัฐบาล ว่า เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพประชาชน ส่วนความเดือดร้อนที่หยิบยกมาอธิบายเป็นเพียงข้ออ้างที่พอจะโยงเข้ากันได้เท่านั้น

เหนืออื่นใด ข้อเสนอของ หม่อมหลวงณัฏฐกรณ์ ยังสวนทางอย่างยิ่ง กับมาตรการที่รัฐบาลเฝ้าระวังการแพร่ระบาดอย่างสูงด้วย

เห็นได้จาก นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงว่า

“ตัวเลขผู้ติดเชื้อทั้งโลกวันนี้มีถึง 1,603,984 ราย เสียชีวิต 95,731 ราย ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดยังคงเป็นสหรัฐอเมริกา แต่ถ้าดูอัตราการเสียชีวิตต่อประชากร 1 ล้านคน พบว่า สเปนมากที่สุด 316.06 รองลงมาคือ อิตาลี 292.04 ขณะที่ไทยมีเพียง 0.48 อยู่อันดับ 56

อย่างไรก็ตาม ในหลายประเทศที่มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากมาพร้อมๆ กัน ทำให้เห็นภาพแพทย์ต้องเลือกว่าจะช่วยใคร ซึ่งเป็นความลำบากใจของแพทย์ และสะเทือนใจคนทั้งโลก ดังนั้น เราไม่อยากเจอภาพนั้นในประเทศไทย จึงต้องช่วยกันป้องกัน ตอนนี้แพทย์ยังสามารถดูแลคนไข้อย่างใกล้ชิดได้ สามารถคำนวณปริมาณน้ำเกลือและยาได้อยู่ แต่ถ้าล้นเป็นหมื่นไม่เพียงพอแน่ จึงต้องร่วมมือกัน”

นั่นย่อมหมายถึง การดูเบาปัญหาอย่างมากของ พวกเสรีชนทั้งหลาย หรือ พวกคลั่งเสรีภาพ ที่เรียกร้องให้ประชาชนใช้ชีวิตปกติเสรีได้ จนนำไปสู่การแพร่ระบาดอย่างสูงในแต่ละวัน จนรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์รับมือไม่ไหว โรงพยาบาลรับไม่ไหว เตียงคนไข้ เครื่องช่วยหายใจ เครื่องมือแพทย์ไม่พอ ที่สุดหลายชีวิตอาจตายเป็นใบไม้ร่วงเหมือนประเทศเสรีภาพทั้งหลาย ที่เรียกว่า “ตายอย่างไม่มีทางหลีกเลี่ยง” อย่างที่ อ.แก้วสรร อติโพธิ เคยว่าไว้

หลายคนไม่อยากให้เกิดขึ้นในไทย ถ้าป้องกันจนถึงที่สุดได้ แต่บางคนกำลังคิดในสิ่งที่สวนทาง และดูจริงจังจนน่าสงสัยว่า ไม่รู้เรื่องกับเขาจริงๆ??? หรือไม่

website : mgronline.com
facebook : MGRonlineLive
twitter : @MGROnlineLive
instagram : mgronline
line : MGROnline
youtube : MGR Online VDO

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0