โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“ปริญญา” แอบใช้บัญชีผู้อื่นโกงบิทคอยน์ จ่อสอบพนักงานแบงก์รู้เห็นด้วยหรือไม่?

Manager Online

อัพเดต 15 ส.ค. 2561 เวลา 17.16 น. • เผยแพร่ 15 ส.ค. 2561 เวลา 17.16 น. • MGR Online

พบ“ปริญญา” แอบใช้บัญชีผู้อื่นทำธุรกรรม จ่อสอบพนักงานแบงก์รู้เห็นการกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ด้าน “ประสิทธิ์” เจรจาหนุ่มฟินแลนด์ขอซื้อหุ้นคืนแลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี

วันนี้ (15 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าคดีบิทคอยน์ว่า นายประสิทธิ์ ศรีสุวรรณ เจ้าพ่อตลาดหลักทรัพย์ที่พบว่ามีส่วนพัวพันกับการฉ้อโกงเงินบิทคอยน์นั้น เนื่องจากได้นำเงินที่ได้รับโอนมาจำนวน 66.5 ล้านบาทไปซื้อหุ้นของ บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน) จำนวน 345 หุ้นทั้งที่สัญญากับผู้เสียหายไว้ว่าจะซื้อจำนวน 500 หุ้น โดย นายประสิทธิ์ ได้มีการเจรจากับผู้เสียหายไปแล้วหลายครั้งเพื่อที่จะคืนทรัพย์สินที่ได้มาเพื่อแลกกับการที่ไม่ต้องถูกดำเนินคดีเพราะคดีฉ้อโกงทรัพย์สามารถยอมความกันได้

ล่าสุด นายประสิทธิ์ ได้ต่อรองขอซื้อหุ้น บริษัท ดีเอ็นเอ 2002 จำกัด(มหาชน) คืนจากผู้เสียหายแต่ผลการพูดคุยยังไม่ได้ข้อสรุป ในส่วนของพนักงานสอบสวนก็กำลังรวบรวมเอกสารหากสำนวนมีความเรียบร้อยและผู้เสียหายยืนยันที่จะดำเนินคดีก็จะต้องดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดต่อไป

ทั้งนี้จากการสอบปากคำ น.ส.สุพิชย์ฌา จารวิจิต อายุ 32 ปี น้องสาว นายปริญญา จารวิจิต อายุ 35 ปีและพี่สาว นายจิรัชพิสิษฐ์ จารวิจิต หรือ บูม อายุ 27 ปี ดารานักแสดง ให้การยอมรับว่าได้รับโอนเงินมาจาก นายปริญญาจริงแต่ไม่รู้ว่าเป็นเงินที่ได้มาจากการกระทำความผิดและไม่ได้ร่วมฉ้อโกงกับพี่ชาย ซึ่ง นายปริญญาจะโอนเงินมาพักไว้ในบัญชีและจะคอยบอกให้ น.ส.สุพิชฌาย์ ทำธุรกรรม เช่น โอนเงินไปยังบัญชีต่างๆตามที่นายปริญญาบอกให้ทำ โดยมีทั้งการไปโอนที่สาขาของธนาคารและการโอนทางอิเล็คทรอนิคผ่านแอพลิเคชั่นทางโทรศัพท์มือถือ

นอกจากนี้พนักงานสอบสวนยังได้ทยอยสอบปากคำพยานแวดล้อมอีกหลายปาก โดยที่ผ่านมาได้สอบปากคำพนักงานบริษัทคนสนิทของ นายประสิทธิ์ ด้วยซึ่งจากการสอบปากคำน่าเชื่อว่า นายปริญญามีการนำเอกสารส่วนตัวของผู้อื่นไปเปิดบัญชีธนาคารแล้วเป็นผู้ทำธุรกรรมเองโดยที่เจ้าของบัญชีไม่ทราบมาก่อน ซึ่งเป็นไปได้ว่าเจ้าหน้าที่ของธนาคารพาณิชย์อาจจะมีส่วนรู้เห็น นอกจากนี้การโอนเงินแต่ละครั้งที่มีจำนวน 2 ล้านบาทขึ้นไป ในบางรายการธนาคารดังกล่าวยังไม่ได้มีการแจ้งไปยัง ป.ป.ง. ตามระเบียบด้วย ขณะนี้พนักงานสอบสวนกำลังพิจารณาว่าจะดำเนินคดีกับธนาคารแห่งนี้หรือไม่ โดยอาจจะดำเนินคดีทั้งเจ้าหน้าที่ที่รู้เห็นและดำเนินคดีในส่วนของนิติบุคคลด้วย เพราะถือเป็นความบกพร่องโดยตรงของธนาคารพาณิชย์แห่งนี้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0