จากกรณี สาวสวยไม่ตรงปก ใช้โพรไฟล์หลอกหนุ่มชลบุรี นับ 10 ราย ให้ออกรถป้ายแดงก่อนเชิดหนี โดยรู้จักกันจากการใช้โปรแกรมแชตหาคู่ จนทราบว่าสาวผู้ก่อเหตุคือ น.ส.บุษราคัม หรือ หมวย อายุ 22 ปี เป็นชาว จ.สุรินทร์ ล่าสุด ผู้เสียหายหลายรายเดินทางเข้าแจ้งความแล้ว โดยตำรวจพบว่า น.ส.บุษราคัม หลอกลวงชายหนุ่มหลายคนให้ออกรถกระบะในพื้นที่ อ.พานทอง จ.ชลบุรี กว่า 7 คัน และ อ.เมืองชลบุรี อีก 5 คัน (อ่าน : สุดงง! หนุ่มขโมย จยย. ขับหนีข้ามจังหวัด อีกวันนำรถมาคืน อ้างไม่อยากได้ของคนอื่น)
หลังจากนำเสนอข่าว น.ส.บุษราคัม ทักแฟซบุ๊กเข้ามาที่กล่องข้อความเพจเฟซบุ๊ก ทุบโต๊ะข่าว Amarin TV 34 ระบุว่า ขอให้มีการลบข่าวที่มีการนำเสนอเรื่องของตัวเองออกจากเว็บไซต์ พร้อมเสนอเงินให้
วันที่ 11 ธ.ค. 62 พ.ต.อ.อนุการ ธรรมวิจารณ์ ผกก.สภ.ดอนหัวฬ่อ เผยความคืบหน้าว่า น.ส.บุษราคัม เดิมทำงานเป็นสาวธนาคาร ในพื้นที่ ต.ดอนหัวฬ่อ จ.ชลบุรี ประมาณ 1 ปี แล้วออกจากธนาคารไป มีพฤติกรรมใช้แอปฯหาคู่ หลอกชายหนุ่มให้ใช้ชื่อในการเช่าซื้อรถยนต์กับทางไฟแนนซ์ โดยจะเน้นแต่รถกระบะเป็นหลัก มีผู้เสียหายเป็นจำนวนมาก ในส่วนของพื้นที่ดอนหัวฬ่อ มีจำนวน 1 คัน เป็นรถกระบะ ซึ่งพนักงานสอบสวนก็ได้ติดต่อไปยัง น.ส.บุษราคัมแล้ว แจ้งว่าให้นำรถกระบะมาคืนวันที่ 20 ธ.ค. นี้ แต่ถ้าหลังจากนี้ ไม่พบความเคลื่อนไหวหรือหลบหนี ตำรวจก็จะออกหมายจับทันที
นายวิทวัส อายุ 32 ปี เดินทางเข้าแจ้งความ ที่ สภ.เสม็ด กล่าวว่า โดนสาวหลอกใช้ชื่อให้ออกรถยนต์ แล้วไม่ยอมส่งค่างวด จนไฟแนนท์มาทวงค่างวดรถ หลังจากเข้าไปเล่นในโปรแกรมแชตหาคู่ เจอกับ น.ส.บุษราคัม ก่อนจะแอดไลน์ไว้คุยกัน น.ส.บุษราคัม ตีสนิทใช้ภาพโพรไฟล์เป็นสาวสวย คุยกันจนเชื่อใจ หลังจากนั้น น.ส.บุษราคัม อ้างว่าต้องการรถกระบะไว้ใช้ แต่ไม่สามารถวางดาวน์รถได้ เนื่องจากติดแบล็กลิสต์ ขอให้ตนใช้ชื้อไปออกรถให้ก่อน แล้วเจ้าตัวจะผ่อนเอง จึงได้ไปติดต่อจองบริษัทขายรถกระบะ ฟอร์ด
นอกจากนี้ มีชายหนุ่มอีกหลายรายถูกหลอกในลักษณะเดียวกัน ที่อำเภอพานทอง และอำเภอเมือง รวมรถยนต์ที่ถูกหลอกใช้ชื่อซื้อ มากกว่า 10 คัน ล่าสุด ตำรวจ สภ.เสม็ด ได้รับการแจ้งความร้องทุกข์ไว้แล้ว
ที่ สภ.พานทอง นายชาย อายุ 38 ปี เดินทางเข้าแจ้งความ ว่าถูก น.ส.บุษราคัม หลอกให้ออกรถยนต์ 2 คัน มีพฤติกรรมเดียวกับคนอื่นคือ รู้จักกันทางแชตหาคู่ หลังจากนั้น ก็แอดไลน์คุยกัน ฝ่ายหญิงบอกว่าอยากเป็นแฟนด้วย และส่งรูปภาพมาให้ ตนเห็นว่าน่ารัก ก็ตอบว่าโอเค หลังจากนั้น เขาบอกว่าอยากออกรถไปอวดพ่อแม่ที่บ้าน แต่ติดแบล็กลิสต์ จึงขอใช้ชื่อตนเป็นคนซื้อ และนัดเจอกันที่ธนาคาร วันที่เจอกัน น้องเขาเดินลงมาจากธนาคารใส่ชุดธนาคารด้วย ตนก็เชื่อสนิทใจ จึงไปที่ศูนย์รถ แต่เขาไม่ได้ไปด้วย อ้างว่าติดธุระ แต่ได้คุยกับเซลล์ขายรถไว้แล้ว ตนก็ยื่นเอกสารตามปกติ ต่อมาเขาก็บอกว่าที่บ้านอยากได้รถมือสองอีกคัน ตนก็ไปออกให้
หลังจากนั้น ไฟแนนซ์ก็ส่งจดหมายทวงหนี้ไปที่บ้าน ที่ จ.เพชรบูรณ์ ตนตกใจ โทรไปหาเขาก็ไม่รับสาย และมารู้จากข่าวว่ามีคนอื่นโดนแบบตนหลายคน จึงมาแจ้งความ
ด้าน นายมนตรี เปิดเผยว่า ช่วงเดือนตุลาคมที่ผ่านมา ตนพบน้องหมวยทางเฟซบุ๊ก รูปโพรไฟล์ของน้องหมวยสวย ขึ้นสถานะว่าโสด และทำงานธนาคาร ตนเองดูแล้วว่าหน้าเชื่อถือได้ จึงคุยกันไปสักพัก ตนเองก็โสด น้องหมวยก็บอกตนว่าตอนนี้ลำบาก ไม่มีรถไปทำงาน ตนเองก็สงสาร ให้ยืมรถจักรยานยนต์ไปใช้ก่อน จากนั้น มานัดเจอที่ตลาดนัด น้องหมวยไม่สวยเหมือนไพรไฟล์ แต่ก็ไม่เป็นไร ตนตกลงที่จะคบกันแล้ว
จากนั้น น้องหมวยบอกว่าอยากจะได้รถกระบะ ให้ใช้ชื่อของตนเอง เนื่องจากถ้าใช้ชื่อของน้องหมวยจะทำเรื่องกู้ไฟแนนซ์ไม่ผ่าน ตนเองก็หลงเชื่อ ซึ่งน้องหมวยจะเป็นคนออกเงินดาวน์รถเองทั้งหมด จนช่วงออกรถ ไปนัดเจอที่ศูนย์กระบะ น้องหมวยอ้างว่า ขณะที่ตนเองไปรับรถกระบะที่ศูนย์ มีข้อสงสัยว่าคือ ป้ายแดงหน้าหลังไม่ตรงกัน และกุญแจรถยนต์ได้ดอกเดียว ซึ่งปกติต้องได้สองดอก ผ่านไป 2 เดือน น้องหมวยไม่ยอมผ่อนค่างวดกับทางไฟแนนซ์ มีจดหมายมาทวงถามค่างวดกับตนเอง ถึงได้ทราบว่าถูกหลอกเชิดรถกระบะไปแล้ว
“ตนเองก็หวังจริงใจกับน้องหมวย แต่กลับถูกหลอก สาบานให้ตายว่ามือก็ยังไมได้จับ นัดเจอกันทุกครั้งก็คือในที่สาธารณะ แต่ก็ยังโชคดีที่น้องหมวยติดต่อให้ไปรับรถจักรยายนต์ที่ยืมไปคืน”
อย่างไรก็ตาม ผู้เสียหายที่ถูกหลอกให้ใช้ชื่อซื้อรถกระบะแล้วถูกเชิด เปิดเผยข้อมูลโดยนายวิทวัส ออกรถกระบะ ราคา 1.2 ล้านบาท, นายสุบรรณ ออกรถกระบะ ราคา 8 แสนบาท, นายเล็ก ออกรถกระบะ ราคา 8 แสนบาท, นายกมลเทพ ออกรถกระบะ 2 คัน ราคาคันละ 1 ล้านบาท, นายชาย ออกรถกระบะ 2 คัน ราคา 1 ล้านบาท และ 8 ล้านบาท และนายมนตรี ออกรถกระบะ ราคา 1 ล้านบาท โดยผู้เสียหายแจ้งความใน อ.พานทอง จ.ชลบุรี 7 คัน และ อ.เมืองชลบุรี อีก 5 คัน รวมทั้งหมด 12 คัน
https://youtu.be/DmHvrpW-0t0