โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

“นิว” ทำใจไม่ได้พายุถล่มร้าน วอนทุกคนตื่นตัวดูแลธรรมชาติ ก่อนที่คนจะไม่เที่ยวเมืองไทย

Manager Online

อัพเดต 24 เม.ย. 2562 เวลา 01.00 น. • เผยแพร่ 24 เม.ย. 2562 เวลา 01.00 น. • MGR Online

“นิว นภัสสร” รับทำใจไม่ได้พายุถล่มร้านรุนแรงกว่าที่คิด เห็นใจคนเชียงใหม่ได้รับผลกระทบเต็มๆ นักท่องเที่ยวกลัวไม่กล้ามาเที่ยว ลั่นอยากใช้เหตุการณ์นี้เปลี่ยนความคิดคนให้ตระหนักถึงการดูแลธรรมชาติ ควรช่วยกันหาวิธีทำให้ธรรมชาติไม่แปรปรวน ก่อนที่คนจะหนีไปเที่ยวเมืองนอกกันหมด

หลังจากทางฝ่ายสามี “เป๊ก เปรมณัช สุวรรณานนท์” ได้เผยถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับร้าน “แบรนด์นิว ฟีล กู้ด” (Brandnew Field Good) หลังโดนพายุฤดูร้อนถล่มจนเสียหายหลายแสนบาท ล่าสุดมีโอกาสสอบถามความคืบหน้ากับภรรยาสาว “นิว นภัสสร ภูธรใจ” เจ้าตัวก็เผยว่า เปิดร้านมา 2 ปี โดนพายุทุกปีแต่ไม่คิดว่าปีนี้จะรุนแรงขนาดนี้ เห็นใจคนเชียงใหม่ที่ต้องเดือดร้อนเป็นวงกว้าง อยากให้ทุกคนตื่นตัว หันมาตระหนักถึงการดูแลธรรมชาติมากขึ้น ก่อนที่ทุกอย่างจะสายไป

“ตอนนี้ก็ทำใจ แต่ก็ยังทำใจยากเหมือนกัน พอเราเห็นร้านอื่นเขาโดนเยอะกว่าเรา เราก็อยากให้กำลังใจเขา ตอนนี้สภาพจิตใจก็ดีกว่าเก่าเพราะได้กำลังใจจากหลายๆ คนส่งเข้ามา แต่กับทางร้านก็เป็นห่วงจิตใจของเด็กๆ ในร้านทุกคน รวมไปถึงเป็นห่วงชาวเชียงใหม่ทั้งหมดเลย เพราะผลกระทบมันค่อนข้างกว้าง และอย่างวันที่เกิดเหตุการณ์ก็วันไฟดับทั้งเมือง กระทบต่อการท่องเที่ยว เศรษฐกิจและการใช้ชีวิตของพวกเรา นอกจากร้านเราจะเสียหายแล้ว ในทวิตเตอร์ก็จะรายงานตลอดว่ามีที่ไหนเสียหายบ้าง”

“พี่ชายของนิวคือในวันเกิดเหตุเขาขับรถไปดูที่ร้านเลย แต่ระหว่างทางที่เขาขับไป เขาก็ถ่ายคลิปมาให้ดูว่าเกิดอะไรขึ้น มีทั้งหม้อแปลงไฟระเบิด เสาไฟฟ้าล้มเกือบหมด ซึ่งไม่น่าเชื่อว่ามันจะล้มได้ แต่มันก็ล้ม ตอนที่ทราบข่าวใหม่ๆ ก็ตกใจ แต่ก่อนหน้านี้ก็ทำใจเอาไว้แล้วเพราะว่าพายุนี้เกิดขึ้นทุกๆ ปีหลังสงกรานต์ แต่ก็ไม่เคยคิดว่าปีนี้จะรุนแรงขนาดนี้ อย่างที่ร้านของนิวเองจะมีงานเหล็ก งานที่ทำมาจากไม้ไผ่ที่คือล้มหมดเลย และลมพัดจนเหล็กล้มได้ และพัดเสาไฟฟ้า หม้อแปลงปลิวได้”

“ปีที่แล้วแค่กระจกร้านแตกเพราะถูกแรงลมพัด แต่สะพานไม้ไม่ได้พัง ตอนความเสียหายก็คือหลังคาซุ้มอุโมงค์ที่เป็นโครงเหล็ก รถของผู้จัดการร้านก็ถูกกิ่งไม้หล่นลงมาทับกระจกแตก พัดลมที่ติดเพดานที่เป็นใบพัดก็งอ ต้นไม้ก็หักครึ่งไปเลย ซึ่งเป็นต้นไม้คู่ที่ทั้ง 2 ต้นโตมาพร้อมกัน เราเลยรู้สึกเสียใจมากเพราะทุกอย่างมันซ่อมได้ แต่ต้นไม้มันไม่สามารถซ่อมได้”

“ทุกๆ ปีเส้นสารภีก็จะมีต้นยางล้ม ซึ่งจะมีผลกระทบต่อคนที่อาศัยอยู่แถวนั้น และคนสัญจรในเวลานั้น ย้อนกลับไปตอนเด็กๆ เหตุการณ์พายุฤดูร้อนมันก็เกิดขึ้นเป็นประจำ แต่อาจจะไม่รุนแรงเท่านี้ มันจะเกิดขึ้นประมาณวันที่ 14 หรือ 16 เป็นวันที่เขาเอาพระพุทธสิหิงค์ออกมาแห่เพื่อให้ชาวบ้านสรงน้ำพระ และก็มีฝนตก ซึ่งเราเป็นเด็กเราก็สนุกเพราะเล่นน้ำสงกรานต์ เล่นน้ำฝนไปด้วย มันก็สนุกดี แต่พอเราโตขึ้นมันเริ่มไม่สนุกแล้ว หลังจากเหตุการณ์สงบลง นิวก็โทร.ไปถามพระอาจารย์ที่วัด เพราะร้านเราจะตั้งติดกับบริเวณใกล้ๆ วัด ท่านเจ้าอาวาสก็บอกว่าต้นไม้หักทั้งต้นเลย และก็มีน้ำท่วม และที่วัดเองก็มีการทำบาตรพระขนาดใหญ่ไว้ในวัด ก็ลอยข้ามออกมาจากวัด”

ชี้สิ่งแวดล้อมต้องควบคู่ไปพร้อมกับเศรษฐกิจ อยากใช้เหตุการณ์นี้เปลี่ยนความคิดคนให้ตระหนักถึงการดูแลธรรมชาติ รู้จักแยกขยะ ไม่ทิ้งขยะลงน้ำ ไม่เผาฟาง

“การวางแผนในระยะยาวในการป้องกัน คือการที่นิวเปิดกิจการมา 2 ปี เราจะรู้ว่าสภาพอากาศในแต่ละฤดูเป็นยังไง ธรรมชาติเป็นยังไงบ้าง ปีที่ 1 กับปีที่สอง มันก้าวกระโดดไปมาก หรือเวลาที่ชาวนาเขาเผาฟาง เราก็เข้าไปคุยว่าให้เขาเปลี่ยนวิธีการกำจัดแบบเดิม ซึ่งมันอาจจะเป็นวิถีชีวิตของเขา แต่สิ่งที่เขาทำมันเกิดผลกระทบโดยกว้าง ทำให้โลกร้อนขึ้น เกิดสภาวะเรือนกระจก แต่สำหรับเราพูดคนเดียวมันไม่ได้ นิวว่าเอาโอกาส เอาเหตุการณ์นี้ไปเปลี่ยนความคิดให้คนเขาคิดแบบใหม่ได้ไหม”

“เหตุการณ์นี้คงเป็นตัวอย่างหรืออาจจะเป็น 1 เสียงที่ช่วยๆ กัน อย่างน้อยก็แยกขยะ ไม่เผา ไม่ทิ้งขยะลงน้ำ ซึ่งจริงๆ สภาพภูมิอากาศมันเปลี่ยนแปลงไปทุกๆ ปี แต่พอมาปีนี้มันเกิดเหตุการณ์ขึ้นอย่างหนัก มันเกินกว่าที่เราคิดแล้ว และเราคิดเร็ว ช่วยกันเร็วๆ มันก็จะช่วยชะลอในปีถัดๆ ไป อย่างคนเชียงใหม่ตอนนี้เขาก็ตื่นตัวมาก เพราะมันมีผละกระทบอย่างที่เห็นได้ชัดคือเรื่องการท่องเที่ยว ดูได้จากสงกรานต์คนมาเที่ยวน้อยมาก เพราะปีก่อนๆ สงกรานต์เชียงใหม่จะต้องติดอันดับต้นๆ ของนักท่องเที่ยว แต่ว่าปีนี้ก็เงียบ เพราะเกิดเหตุการณ์แบบนี้คนก็เริ่มกลัวแหละ นิวว่าสิ่งแวดล้อมมันต้องมาควบคู่ไปพร้อมเศรษฐกิจ ถ้าสิ่งแวดล้อมไม่ดีคนก็ไม่มาเที่ยวภาคเหนือแล้ว และถ้าไม่ดีทั้งประเทศ คนอาจจะไปหนีไปเที่ยวต่างประเทศก็ได้”

ลั่นแม้พายุจะซัดร้านพังเสียหาย แต่ไม่คิดย้ายร้านไปที่อื่น ตนเข้าใจธรรมชาติดี วอนทุกคนตื่นตัวช่วยกันทำให้ธรรมชาติไม่แปรปรวน

“ตอนนี้ก็เริ่มวางแผนในการซ่อมแซมไปเรื่อยๆ โชคดีที่เรารู้อยู่แล้วว่าร้านเราตั้งอยู่ตรงทางลมผ่านของร้าน ผ่านช่องลมพอดี ร้านเราจะอากาศเย็นตลอดทั้งปีเพราะเป็นทางลมผ่าน แต่ถ้าพอมีลมแรงๆ พัดมาก็จะหนัก จึงทำให้การก่อสร้างคำนวณเรื่องลม เรื่องน้ำไหลผ่านเพราะเคยเกิดน้ำท่วมมาแล้วก่อนจะถึงวันงานแต่งของเรา 2 อาทิตย์ ตอนนั้นเกิดจากเขื่อนแตก เราอยู่ในทุกสภาวะแวดล้อมหลายรูปแบบแล้ว และอย่างมีคนมาถามว่าเกิดผลกระทบแบบนี้ร้านยังเปิดอยู่ไหม ซึ่งมันก็เป็นผลกระทบต่อการตัดสินใจของลูกค้าด้วย มันก็แย่ตอนนี้แหละ”

“ส่วนเรื่องย้ายร้านไปทำที่อื่น อืม….ยังไม่เคยคิดว่าจะย้ายหาโลเกชั่นใหม่ในการทำร้าน เพราะยังยอมรับสภาพความเป็นอากาศแบบนี้อยู่ เราต้องเข้าใจธรรมชาติ แต่เราต้องทำให้ธรรมชาติเขาไม่แปรปรวนขนาดนี้ได้ยังไง ไม่ใช่แค่ร้านนิวร้านเดียวต้องทำ ซึ่งทุกคนต้องช่วยกัน นิวก็อยากจะเชิญชวนให้ทุกคนตระหนักถึงการเปลี่ยนแปลงที่มันคาดการณ์ไม่ได้ แต่เราสามารถทำความเข้าใจกับมันให้ได้ เราถึงจะอยู่กับธรรมชาติได้”

“ตอนนี้ธรรมชาติเขาได้สร้างผละกระทบบางส่วนให้กับเรา เราจึงต้องทำความเข้าใจกับมันให้ได้ เราถึงจะอยู่กับมันได้ แม้ธรรมชาติจะสร้างผลกระทบบางส่วนให้กับเรา แต่อย่างน้อยธรรมชาติก็คือดีเสมอ และยังมีอีกหลายๆ ซีซั่นที่ยังสวยงาม อย่าไปกลัวธรรมชาติเลย”

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0