โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ชู “5 ธีมธุรกิจดาวรุ่ง”-ครอบคลุมพลังงานสะอาดในจีน...หนึ่งใน Mega Trend ที่น่าสนใจ!!!

Wealthy Thai

อัพเดต 14 ก.ค. 2564 เวลา 03.46 น. • เผยแพร่ 14 ก.ค. 2564 เวลา 03.48 น. • โต๊ะกองทุน Wealthythai

“ตลาดหุ้นจีน” เป็นหนึ่งในเป้าหมายของเม็ดเงินลงทุนจากทั่วโลก ในช่วงนี้ตลาดหุ้นจีนมี ‘ความผันผวนสูง’
แต่ถ้ามีเป้าหมายลงทุนระยะยาวในธุรกิจที่เป็น Mega Trend” โดยเฉพาะ“เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อม” ในประเทศจีน
ที่มีพลังขับเคลื่อนทั้งจำนวนประชากร เศรษฐกิจที่กำลังรุ่งเรือง มีทรัพยากรมากพอ มีเทคโนโลยีชั้นสูงที่สามารถเป็นผู้กำหนดมาตรฐานโลกได้
รวมถึงศักยภาพของรัฐบาลจีนที่สนับสนุนเรื่องนี้อย่างจริงจัง ช่วงเวลาที่ตลาดปรับลงมาแล้ว “บลจ.ฟิลลิป” มองเป็นโอกาสที่น่าเข้าลงทุนในธุรกิจเหล่านี้เพื่อหวังผลในระยะยาวเป็นสำคัญ
วันนี้ ทีมงาน ‘โต๊ะกองทุน Wealthythai’ มีเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องนี้มาอัพเดทให้ฟังกัน

“จีน” หนึ่งในผู้นำเรื่อง “พลังงานสะอาด” ของโลก…ที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว

โดย “ติยะชัย ชอง” กรรมการผู้จัดการ บลจ.ฟิลลิป จำกัด บอกว่า ปัจจุบันธีมการลงทุนใน “พลังงานสะอาด” เป็นเมกะเทรนด์ที่กำลังเติบโตทั่วโลกมาสักระยะแล้ว แต่หากเจาะลึกเป็นภูมิภาคจะเห็นว่าประเทศจีนมีการเติบโตแบบก้าวกระโดดที่สูงที่สุดในโลก เพราะ 2ปัจจัยหลัก หนึ่งคือการได้รับแรงสนับสนุนอย่างจริงจังจากรัฐบาลจีน โดยมีนโยบายและเป้าหมายรักษาสิ่งแวดล้อมที่ชัดเจน โดยจีนสามารถทำตามเป้าหมายที่วางไว้ในแผนนโยบาย 5 ปีฉบับที่แล้วได้สำเร็จ (National Five-Year Plan 2016-2020) เช่น การเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนการลดปริมาณการปล่อยคาร์บอน มีปริมาณการใช้พลังงานลดลง เป็นต้น โดย 3 ปีที่ผ่านมา รัฐบาลจีนได้ทุ่มงบประมาณ 3.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อลงทุนในพลังงานหมุนเวียนตั้งเป้าสร้างโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์พลังงานลมขนาด 1200 กิกะวัตต์ภายในปี 2030 (เทียบเท่ากำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งระบบของสหรัฐอเมริกา)

(ติยะชัย ชอง)

“ปัจจัยที่สองคือ ภาคธุรกิจของจีนมีศักยภาพเติบโตสูง โดยปัจจุบันจีนเป็นผู้นำในการด้านการผลิตและติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ คิดเป็นสัดส่วน 72% ของโลก และเป็นผู้ผลิตพลังงานจากกังหันลม 50% ของโลก นอกจากนี้ยังมีมูลค่าการลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลน้ำเสีย ที่คาดว่าจะเติบโต 8.9-14.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 – 2025 ด้านธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า ประเทศจีนถือว่าเป็นต้นน้ำของชิ้นส่วนสำคัญของรถยนต์ไฟฟ้า โดยเป็นผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเทียมกว่า 77% ของโลก และจีนยังเป็นแหล่งแร่ Rare earth ที่สำคัญ ซึ่งแร่เหล่านี้เป็นวัตถุดิบจำเป็นสำหรับมอเตอร์ EV และเครื่องกำเนิดพลังงานหมุนเวียน”
นอกจากนี้ สภาพสิ่งแวดล้อมโดยเฉพาะตามเมืองใหญ่ของจีน เช่น เซี่ยงไฮ้เมืองเดียวผลิตขยะมากถึง 26,000 ตันต่อวัน หรือคุณภาพของน้ำบาดาลมีเพียง 14.40% ที่อยู่ในมาตรฐานระดับ 1-3 ที่สามารถใช้สำหรับอุปโภคบริโภคได้ คาดว่ามูลค่าการลงทุนในธุรกิจรีไซเคิลน้ำเสียของทั้งประเทศจีนจะเติบโต 8.9 – 14.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 – 2025

“บลจ.ฟิลลิป”…ส่ง ‘กอง P-CGREEN’ ลุยธุรกิจพลังงานสะอาดในจีน IPO 16-26 เม.ย. นี้

จากข้อมูลที่กล่าวมานี้ ทำให้ทาง บริษัทมีความมั่นใจว่า “เทคโนโลยีเพื่อสิ่งแวดล้อมในประเทศจีน” จะยังมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
บริษัทจึงได้ออกกองทุนใหม่คือ“กองทุนเปิดฟิลลิปไชน่ากรีนเอ็นเนอร์จี แอนด์ เอ็นไวรอนเมนท์ (P-CGREEN)” ระหว่างวันที่ 16-26 เม.ย. 21 นี้ โดยกองทุนมีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนกองทุนรวมอีทีเอฟต่างประเทศเพียงกองเดียวไม่น้อยกว่า 80% คือ ‘KraneShares MSCI China Environment ETF (KGRN)’ ที่อ้างอิง ‘ดัชนี MSCI China IMI Environment 10/40 Index’ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการดัชนีและการวิจัย ESG ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีสินทรัพย์อ้างอิงรวมกว่า 108 พันล้านดอลลาสหรัฐ
โดย KraneShares” เป็นพาร์ทเนอร์กับ CICC” ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการเงินของประเทศจีนที่เชี่ยวชาญด้านงานวิจัย สำหรับ KGRN” เป็นอีทีเอฟเน้นลงทุนในตราสารทุนที่มีความเกี่ยวข้องกับกลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีการรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งหมดในประเทศจีน ภายใต้ 5 ธีมการลงทุนหลัก คือ
-พลังงานทางเลือก
-อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า
-การจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน
-การป้องกันมลพิษ
-อาคารสีเขียว
“โดยลงทุนทั้ง Value Chain คือลงทุนทั้งธุรกิจหลักและธุรกิจที่สนับสนุนสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยงไปในตัวอีกด้วยโดยผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 134.94% (ข้อมูล ณ วันที่ 28 ก.พ. 21) ผู้สนใจลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท”
สำหรับผู้ที่มองหาโอกาสลงทุนใน Mega Trend กับธีมพลังงานสะอาดที่แตกต่างจากที่มีอยู่ในอุตสาหกรรมกองทุนในปัจจุบัน เชื่อว่า ‘กองทุน P-CGREEN’ น่าจะเป็นอีกทาเลือกที่ช่วยเติมเต็มพอร์ตการลงทุนของคุณได้ไม่มากก็น้อย

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0