โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

“ทางเท้าของคน” โดนรถชนได้ไง? แผงลอยหายไป แต่มอเตอร์ไซค์ยังอยู่!

Another View

เผยแพร่ 19 ก.พ. 2562 เวลา 05.00 น.

ทางเท้าของคนโดนรถชนได้ไง? แผงลอยหายไปแต่มอเตอร์ไซต์ยังอยู่!

ถึงแม้ว่าร้านค้าหาบเร่แผงลอยยึดครองทางเท้าที่คารังคาซังมานานจะค่อย ๆ (ถูกบังคับ) คืนพื้นที่ให้คนทั่วไปที่ต้องใช้ทางเท้าสัญจรมากขึ้น แต่ท้ายที่สุดคนเดินเท้าก็ยังไม่ได้ ‘ทางเท้า’ มาเดินให้สบายใจ เพราะถูกยึดด้วยพี่ ๆ ‘สองล้อ’ รถมอเตอร์ไซค์ที่มักจะหนีรถติดบนถนนใหญ่ ขึ้นมาอาศัยพื้นที่ดังกล่าวในการแทรกตัวอยู่เสมอ 

จริง ๆ ปัญหารถมอเตอร์ไซค์บนทางเท้า เป็นเรื่องใหญ่ระดับชาติ ที่เห็นความพยายามในการแก้ปัญหาของภาครัฐอยู่หลายครั้ง ทั้งการหาสิ่งขีดกวางมากั้น (สุดท้ายคนเดินเท้าก็เดือดร้อนไปด้วย), ออกกฎหมายเอาผิด ไปจนถึงการมอบรางวัลนำจับให้คนที่ถ่ายรูปหรือวิดีโอรถมอเตอร์ไซค์ที่ฝ่าฝืนเพื่อส่งไปให้เจ้าที่หน้าดำเนินการเอาผิดต่อไป 

แต่สุดท้ายปัญหาดังกล่าวก็ไม่เคยหมดไป แถมยังดูทีท่าว่าจะเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ (เพราะแผงลอยลดลงไป เปิดพื้นที่ให้ได้ขึ้นมาซิ่งกันมากขึ้น) โดยเฉพาะช่วงหลังที่มีข่าวสุดสลดตั้งแต่ รถมอเตอร์ไซต์วิ่งชนนักเรียนบนทางเท้า, ตำรวจจับคนฝ่าฝืนกฎแต่ถูกคนขับมอเตอร์ไซต์ชักมีดออกมาขู่ รวมทั้งข่าวล่าสุด ที่มีคนเอ่ยปากเตือนรถมอเตอร์ไซต์ที่ขับบนทางเท้า แต่ปรากฏว่าถูกย้อนกลับมาชนอย่างแรง จนได้รับบาดเจ็บที่สะโพก วันนี้เราจะพาไปดูกันว่า ‘ปัญหา’ ดังกล่าวกำลังสะท้อนภาพอะไรที่ใหญ่กว่านั้นขึ้นมาบ้าง 

1. บทลงโทษไม่หนักและไม่ถูกนำมาบังคับใช้จริง 

ในกรณีขับมอเตอร์ไซต์บนทางเท้า จะมีกฎหมายระบุความผิดที่ว่า ขับรถโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (4), 157, ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 390 โทษสูงสุด จําคุกไม่เกิน 1 เดือนหรือทั้งจำทั้งปรับ

และถ้าชนคนได้รับบาดเจ็บสาหัส ผิดตาม ป.อาญา มาตรา 300 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 60,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ 

นอกจากนี้ยังมีความผิดในข้อหา ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันสมควร ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43 (7), 157 และ พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 มาตรา 17, 56 โทษสูงสุดปรับไม่เกิน 5,000 บาท

แต่เมื่อเกิดเหตุครั้งล่าสุด ชัดเจนแล้วว่าคนที่ถูกชนได้รับบาดที่สะโพกซ้ายจริง แต่เมื่อถึงเวลาเจ้าหน้าที่ตำรวจทำได้เพียงแค่เรียกตัวผู้กระทำความผิดมาปรับเป็นจำนวนเงิน 5,000 บาท ซึ่งเป็นอัตราขั้นต่ำสุด ก่อนที่จะแจ้งข้อหาเพิ่มอีก 3 ข้อหา คือ คือ ทำร้ายร่างกายผู้อื่น ขับรถบนทางเท้าโดยไม่มีเหตุอันควร และขับรถบนทางเท้าโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น ภายหลังถูกกดดันจากกระแสสังคมมากขึ้น

หลังคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่ออกมา ได้มีคนจำนวนมากที่พร้อม ‘ล่าตัว’ คนขับมอเตอร์ไซต์คันนั้นมาลงโทษให้ถึงที่สุด ถึงแม้การกระทำดังกล่าว จะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องและน่ายินดี หากแต่เราก็ปฏิเสธไม่ได้เหมือนกันว่า ท่ามกลางความเชื่องช้า เฉยชา ของเจ้าหน้าที่ในหลาย ๆ ครั้ง การที่ประชาชนต้องรวมตัวกัน ก็ดูมีพลังและได้ผลมากกว่าจริง ๆ 

2. ‘เส้นสาย’ ยังเป็นตัวละครสำคัญที่ขยันออกให้ผู้คนวิพากษ์วิจารณ์อยู่เสมอ 

ในส่วนการพิจารณารอบนี้ยังคงต้องขอให้เป็นไปตามขั้นตอนทางกฎหมาย หากแต่ก่อนที่เหตุการณ์จะกลายเป็นการใหญ่ ได้มีข่าวว่ามีนายตำรวจระดับชั้นนายพลคนหนึ่ง เข้ามาประกันตัวให้ผู้ก่อเหตุ พร้อมกับพูดเจรจาไกล่เกลี่ยให้รับเงิน จำนวน 5,000 บาท ซึ่งพอผู้เสียหายไม่ยอม ก็ได้กล่าวคำหยอกแกมขู่ไว้ว่า

“สายป่านยาวไหม ถ้าไม่เอา 5,000 ก็จะไม่ได้อะไรเลย” ยังดีที่ผู้เสียหายยังยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ไม่เช่นนั้นเรื่องนี้ก็คงจะเงียบหาย ประชาชนเดินเท้าก็ได้แต่ก้มหน้ารับกรรม รวมทั้งนายตำรวจระดับนายพลคนนั้นที่หายตัวเข้ากลีบเมฆ พร้อมกับกอง ‘กฐิน’ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ ชุดใหญ่ไปยังเจ้าหน้าที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ทั้งหมดอีกเช่นเคย 

3. มาตการเด็ดขาดที่ออกมาช้าเกินไป 

และก็ตามแบบฉบับวิธีการแก้ปัญหาแบบไทยแลนด์สไตล์ ที่พอเป็นข่าวใหญ่ขึ้นมา บรรดาผู้ที่เกี่ยวข้องค่อยออกมาหาวิธีการแก้ไขกันยกใหญ่ ก่อนที่สุดท้ายปัญหายังไม่ทันแก้ไข เรื่องราวก็เงียบหายไปเหมือนเดิม 

คราวนี้ผู้บังคับการตำรวจจราจร ถึงกับออกมาบอกว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ทำนองนี้ ไปจนถึงขั้นขัดขืนการปฏิบัติหน้าที่เมื่อไหร่ เจ้าพนักงานมีสิทธิใช้กระสุนจริง! ยิงที่ขาเพื่อสกัดกั้นการคุกคามนั้นให้ได้ 

รวมทั้งการออกตรวจพื้นที่กันอย่างแข็งขัน เหมือนเช่นทุกครั้งที่มีข่าว และเพียงวันแรกเฉพาะบริเวณทางเท้าถนนพระราม ๔ ใกล้แยกพระโขนง สามารถจับกุมผู้ทำผิดได้ทั้งหมด 71 ราย! แต่สุดท้ายก็เหมือนจะเคร่งครัดได้เพียงแค่ 1 วัน เพราะหลังจากนั้นเราก็ได้เห็นภาพมอเตอร์ไซค์ออกมาบีบแตร ไล่คนบนทางเท้าในช่วงเวลาเร่งด่วนกันเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น 

4. ระเบียบวินัยที่ต้องปลูกฝังและความคิดที่ว่าใคร ก็ทำต้องหมดไป 

เป็นหนึ่งในคำพูดที่ง่าย แต่ ‘ทำ’ ได้ยากที่สุด เวลาพูดถึงระเบียบวินัย ในประเทศที่ปัจจัยอำนวยความสะดวกในชีวิตดูจะล้มเหลวในการให้บริการอย่างสิ้นเชิง 

เพราะจริง ๆ ก็น่าเห็นใจรถมอเตอร์ไซค์ ที่ถูกบีบเลนมาจากบรรดารถยนต์ที่มีสิทธิครอบครองเต็มพื้นที่ในถนน การเบียดซ้าย ป่ายขวา จนมาติดชิดริมฟุตปาธที่มีพื้นที่น้อยอยู่แล้วของมอเตอร์ไซค์ให้เหลือน้อยลงไปอีก 

สุดท้ายเลยเข้าตำรา ‘ปลาใหญ่กินปลาเล็ก’ ที่เมื่อคนขับมอเตอร์ไซค์เห็นพื้นที่ว่างบนทางเท้า ก็เลยต้องปฏิบัติแย่งชิงพื้นที่จากคนเดินเท้ามาอีกทอดหนึ่ง แต่ปัญหาคือคนเดินเท้าที่อยู่ล่างสุดในห่วงโซ่อาหาร นั้นไม่สามารถไปทวงพื้นที่ที่พึงได้รับจากใครได้เลย 

เพราะฉะนั้นหากจะแก้ปัญหานี้ให้ได้อย่างยั่งยืน ทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง เริ่มตั้งแต่เจ้าหน้าที่ที่ต้องเข้มงวดให้มากขึ้น, ทุกคนที่ใช้รถใช้ถนนเองก็ปฏิบัติตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด ต่างคนต่างเดินทางโดยไม่เบียดเบียนพื้นที่ซึ่งกันและกัน

และสำคัญที่สุดคือ เมื่อมี 1 คนทำผิด อย่าได้มองว่านั่นคือเรื่องปกติที่ ‘ใคร ๆ ก็ทำได้’ สิ่งที่ต้องปรับเป็นอย่างแรกคือ ทัศนคติที่ต้องว่าพฤติกรรมเหล่านั้นน่ารังเกียจ มิใช่พฤติกรรมที่ควรทำตาม 

5. เมื่อถูกโลกทำร้ายก็ต้องช่วยตัวเองให้มากที่สุด

ถึงแม้จะน่าเศร้าที่สุดท้ายประชาชนอย่างเราต้องจัดการเรื่องเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้ตัวเองถูกเอาเปรียบโดยไม่มีทางตอบโต้อะไรได้เลย 

ต่อไปหากเจอรถมอเตอร์ไซค์ที่ยังขับขี่บนทางเท้า ประชาชนทุกคนสามารถถ่ายรูปและส่งหลักฐานให้กทม. ดำเนินการเอาผิด ตามช่องทางต่าง ๆ ดังนี้ 

1.ทางไลน์ @ebn6703w 

2.อีเมล์ : citlaw_bma@hotmail.com 

3.เฟซบุ๊ก : สำนักเทศกิจ กรุงเทพมหานคร 

4.สายด่วนสำนักเทศกิจ 02-465-6644 

5.ไปรษณีย์ จ่าหน้าซองถึง สำนักเทศกิจ เลขที่ 1 ถนนเทศบาลสาย 1 แขวงวัดกัลยาณ์ เขตธนบุรี กรุงเทพ 10600 

6.ฝ่ายเทศกิจ ทั้ง 50 สำนักงานเขต

 

อ้างอิง

https://www.springnews.co.th/crime/443520

http://news.thaipbs.or.th/content/277739

https://www.pptvhd36.com

https://www.posttoday.com/social/general/580369

https://www.sanook.com/news/7590654

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0