“ตั๊กแตน” เหม็นความรัก ประกาศหย่า “เพชร” เดินออกมาแต่ตัว โต้งาบผัวชาวบ้าน!

โคตรห่อเหี่ยวสถานะแม่หม้าย “ตั๊กแตน ชลดา” เปิดใจน้ำตาซึม เดินจาก “เพชร” อย่างแมน ไม่เอาอะไรสักอย่าง ยอมรับพลาดแฉอีกฝ่ายแม้จะเป็นความจริง แต่ยันไม่ใช่ครั้งแรก โต้แย่งผัวชาวบ้าน ไม่ทำให้ใครแตกแยก ประกาศไม่เข็ดแค่เหม็นกลิ่นความรัก ทุกวันนี้ยังเจ็บอยู่ในใจลึกๆ

หลังจากแหกกันสนั่นโซเชียล กรณีที่ลูกทุ่งสาว “ตั๊กแตน ชลดา” แฉแชตไลน์อดีตสามี “เพชร สหรัตน์” นัวเนียผู้หญิงอื่น ซัดมีเมียน้อย ปิดฉากสถานะครอบครัว เปิดศึกสงครามน้ำลายใส่กัน ก่อนควงกันไปหย่า ล่าสุดสาวตั๊กแตนได้ออกอีเวนต์ Grand Openning Phornnita Chlinic พร้อมเปิดใจเคลียร์เป็นครั้งแรก โดยเจ้าตัวมีอาการน้ำตาคลอเบ้าระหว่างให้สัมภาษณ์ ยอมรับว่าเสียใจและโทษตัวเองที่พลาดพลั้งแฉอดีตสามีทั้งที่เป็นความจริง เพราะอยากให้แฟนๆ ได้รับแต่สิ่งดีๆ มากกว่า

“จริงๆ ไม่อยากจะพูดอะไรเลยถึงทุกๆ เรื่องที่ผ่านมา เพราะแตนมีความรู้สึกว่าแตนอยากเริ่มต้นใหม่มากกว่า เราเลือกที่จะก้าวไปข้างหน้า ดีกว่ากังวลเก็บแต่ความหลังเอามาคิด ถ้าให้พูดคำว่าก้าวผ่านไปหรือยัง จริงๆ มันอาจจะยังไม่ได้ก้าวผ่านไปเต็มที่ แต่เราพยายามให้ตัวเองอยู่ในจุดที่ไม่ต้องเสียใจอะไรแบบนั้นแล้ว สภาพจิตใจถือว่าเต็มร้อย และพร้อมที่จะทำงาน พร้อมที่จะต่อสู้ พร้อมรับสิ่งใหม่ๆ เข้ามาค่ะ”

ลั่นตัดขาดอดีตสามี รับผิดพลาดโพสต์ด้วยอารมณ์ แต่ขอมอบสิ่งดีๆ ให้ตัวเองดีกว่า

“เรียกว่าตัดขาดเลยค่ะ จุดที่ทำให้เดินออกมาก็ตามข่าวเลยค่ะ แตนคิดว่าทุกคนก็น่าจะรู้อยู่แล้ว แต่ถ้าถามว่าตัดสินใจถูกแล้วหรือไม่ อาจจะไม่ถูกนะคะ ถ้าเทียบกับสิ่งที่แตนทำลงไป แตนอาจจะทำไม่ถูกในเรื่องที่แตนโพสต์ แต่ตอนนั้นมันเป็นเรื่องของอารมณ์และเรื่องของความเสียใจ มันเป็นสิ่งเดียวที่เราทำแล้วเรารู้สึกโล่งค่ะ และรู้สึกเสียใจเหมือนกันที่ตัวเองโพสต์แบบนั้นออกไป แม้ว่าเรื่องมันจะเป็นความจริงก็ตาม แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว วันที่ตัดสินใจเซ็นใบหย่า มันต้องใช้คำว่ามันมาถึงจุดนี้แล้ว เราก็ต้องเลือกที่จะมอบสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง”

โต้ครหาแย่งสามีชาวบ้าน ไม่ทำให้ครอบครัวใครต้องแตกแยก

“ไม่มีหรอกค่ะ แตนก็มีโอกาสได้เห็นแชตหลุดนั้นแล้วค่ะ แตนไม่เคยคิดจะแย่งของใครหรือจะไปคบใครที่จะทำให้ครอบครัวคนนั้นแตกแยกอยู่แล้ว”

รู้สึกผิดและเสียใจตีแผ่เรื่องไม่ดี

“รู้สึกเสียใจมากกว่าที่เรื่องไม่ดีจะต้องตีแผ่ออกไป เรารู้สึกว่าเราเป็นคนของประชาชนอยากจะมอบสิ่งดีๆ ให้กับแฟนเพลงมากกว่าสิ่งที่มันแย่ๆ อยากให้ทุกคนไปโฟกัสเรื่องงานมากกว่าที่จะมาโฟกัสเรื่องแย่ๆ แบบนี้ ซึ่งตรงนี้มันก็อาจจะโทษใครไม่ได้ นอกจากตัวของพวกเราหรือตัวของคนที่ทำเอง และตัวแตนเองที่พลาดพลั้งโพสต์ลงไป ตรงนั้นแตนก็โทษตัวเองจนถึงทุกวันนี้ถึงทุกวันนี้ว่าเราไม่น่าทำ ถึงแม้มันจะเป็นความจริงหรือไม่ก็ตาม ซึ่งก็รู้สึกผิดอยู่”

“สิ่งที่ทำให้คิดว่าเราไม่น่าโพสต์แบบนั้น มันเป็นเรื่องของผลลัพธ์ในความรู้สึกของแฟนเพลงมากกว่าค่ะ เพราะทุกวันนี้แตนมีความรู้สึกว่าแตนแคร์ความรู้สึกของคนที่รักแตนจริงๆ ก็คือแฟนเพลง แตนไม่อยากให้เขาผิดหวังในทุกๆ เรื่อง และมองว่าวันนั้นมันเป็นเรื่องที่เราทำไม่ถูกเช่นเดียวกัน อย่างน้อยเราก็ควรจะตีแผ่ในเรื่องที่มันดีๆ”

สะเทือนใจไม่ประสบความสำเร็จเรื่องความรัก รับไม่ใช่ครั้งแรกที่จับได้

“แตนมองว่ามันเป็นเรื่องธรรมดานะที่หลายคู่อาจจะไม่ประสบความสำเร็จในเรื่องของความรัก แต่มันเป็นเรื่องที่สะเทือนใจมากสำหรับแตน”

“จริงๆ ถ้าเรื่องของการแต่งงานที่ว่าผู้ใหญ่ไม่เห็นด้วยตอนนั้น ยังไม่มีใครพูดออกมาในทำนองว่าไม่เห็นด้วยนะคะ แต่มีแต่คนคอยเตือนๆ เล็กน้อยว่าพี่เขาเจ้าชู้นะ แต่ด้วยความที่เราคุยกับเขารู้เรื่อง เราตกลงกันในแบบฉบับที่ว่าจะหยุดนะ (ความผิดครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่จับได้?) ค่ะ”

เลือกเดินออกมาอย่างแมน ไม่เอาอะไรเลยสักอย่าง รับผิดชอบหนี้ของตัวเองทุกอย่าง อุบตอบร่วมล้าน

“ตอนนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเลย เพราะสิ่งต่างๆ แตนเลือกที่จะเดินออกมา คือเราแมนมากค่ะ ไม่เอาทรัพย์สินอะไรเลยค่ะ ส่วนหมู่บ้านอันนั้นไม่เกี่ยวกับเขาค่ะ แต่เรื่องทุกๆ อย่างที่ก่อร่างสร้างอะไรมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพย์หรือแม้แต่หนี้สินก็ตาม เราเลือกที่จะรับผิดชอบของเราเองทุกอย่าง และอะไรที่เป็นของเขา เราก็ไม่เอา สินสมรสก็ลงตัวค่ะ ไม่มีปัญหาอะไร ส่วนเรื่องหนี้หลายๆ คนอาจจะไม่รู้เนอะ เพราะแตนก็ไม่เคยพูดไป จริงๆ ไม่อยากพูดต่อนะ ไม่รู้จะพูดต่อทำไม ถามว่าถึงหลักล้านมั้ยก็เยอะค่ะ และทุกคนอาจจะมองว่า แตนมีหนี้สินคนเดียว”

“ตอนนี้แตนคิดว่า แตนไม่ได้อยากได้ความแมน หรือความจริง แตนไม่อยากได้อะไรจากผู้ชายคนนี้แล้วทั้งนั้น เพราะแตนคิดว่า (น้ำตาคลอ) แตนไม่สามารถหาอะไรได้อีกแล้ว”

สภาพจิตใจดีขึ้น แต่ยังเจ็บลึกๆ เก็บเป็นบทเรียนไว้สอนคนที่รัก อย่าไว้ใจคน

“ดีขึ้นมาก และรู้สึกว่าถึงเรายังเจ็บอยู่ลึกๆ แต่วันนี้มันดีขึ้นมาก เราก้าวเดินไปข้างหน้าแล้ว ถึงแม้เรายังมีน้ำตาซึมๆ บ้างเวลามีคนถาม แต่เราดีแล้ว เราคิดถูกแล้ว”

“เราก็ได้ประสบการณ์เยอะมาก เป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากไหน มันซื้อไม่ได้ และเมื่อก่อนเวลาเราเห็นคนเขาโดนแบบนี้เราไม่มีวันเข้าใจหรอก จนกว่าเราจะเจอด้วยตัวเองก็จะเก็บประสบการณ์นี้ไว้บอกคนที่เรารักว่ามีเคสแบบนี้นะ ถ้าเราเจอแบบนี้เราอย่าไว้ใจคนนะ”

“ถามว่ากลัวความรักครั้งใหม่มั้ย ตอนนี้ไม่กลัวคนอื่นแล้ว กลัวตัวเอง เพราะเรารู้สึกว่าเราจะไม่เสียใจหรอกถ้าเราไม่อนุญาตให้ใครมาทำให้เราเสียใจ โอกาสเจอกับเขาไม่มีเลยค่ะ ทุกอย่างเคลียร์หมดแล้ว”

ยกเพลงที่อีกฝ่ายแต่งให้ ทำใจวงการไม่กว้าง สักวันอาจต้องเจอ กล้าเผชิญหน้า ไม่มีอะไรต้องอาย

“แตนไม่เอาอะไรเลยค่ะ ยกให้เขาเลย เรื่องนั้นเป็นเรื่องของแกรมมี่ และนอกเหนือจากนั้นที่เขาแต่งให้แตน แตนก็ไม่ใช้เลย ไม่ร้อง ถามว่าไม่สามารถร่วมงานกันได้แล้วมั้ย จริงๆ วงการเราไม่ได้กว้างมาก สุดท้ายยังไงก็ต้องเจอกัน อาจจะมีสักวันที่เราต้องเจอกัน ในมุมของแตน ถ้าเราทำงานอยู่ตรงนี้ ถ้าวันนั้นต้องเจอจริงๆ เราก็คงเฉยๆ ไป เราก็เป็นแค่คนรู้จักกัน แต่เราคงไม่เลือกทำให้งานๆ นั้นเสีย หรือคงไม่ทำให้คนที่อยู่ในนั้นอึดอัด เพราะเราจะรู้สึกว่าเราแย่ แตนคิดเผื่อไว้ และกล้าเผชิญหน้า เพราะแตนรู้สึกว่าแตนไม่มีอะไรที่ต้องอาย”

โต้โสดแล้วเปรี้ยวขึ้น แค่ปลดปล่อยตัวเอง

“จริงๆ แตนเป็นคนแต่งตัวเปรี้ยว เซ็กซี่ตั้งแต่แรกอยู่แล้ว แต่ตอนที่มีครอบครัวมันเป็นการให้เกียรติครอบครัวเราก็เลยไม่ค่อยแต่งตัวอะไรมาก ตอนนี้ที่บอกว่าเซ็กซี่ขึ้น มันเหมือนเป็นการปลดปล่อยตัวเอง เราต้องให้โอกาสตัวเอง ให้ความสุขตัวเอง เพราะไม่มีใครมาว่าเราแล้ว”

ไม่ปิดเรื่องรัก แต่จะไตร่ตรอง ดูกันให้นานขึ้น ต้องมีหลักประกันว่าจะไม่ถูกทิ้ง ลั่นไม่เข็ดแค่เหม็นความรัก

“แตนว่าหนุ่มๆ เขาก็ต้องดูแตนด้วยนะ ว่าเราเปิดรับหรือเปล่า จริงๆ แตนไม่ได้ปิดขนาดนั้นนะคะ แต่รู้สึกว่าถ้าใครจะเข้ามาหลังจากนี้มันจะต้องมีการไตร่ตรองดูกันนานๆ กว่านี้นิดนึง หรือไม่ก็ต้องมีอะไรที่รับประกันเราได้ว่าเราจะไม่ถูกทิ้ง เราจะไม่เสียใจนะ ตอนนี้ไม่ถึงกับเข็ดค่ะ แต่ขอใช้คำว่าตอนนี้เหม็นความรัก (หัวเราะ)”

แนวเพลงเปลี่ยนไป กล้าคิดกล้าพูดมากขึ้น

“ก็เหมือนปากจัดมากขึ้น เหมือนที่ผ่านมาเราไม่ได้พูดอะไรมากมาย แต่ตอนนี้ก็ขอพูดบ้างเถอะ แนวเพลงก็เปลี่ยนไปนิดนึง เหมือนเราโตขึ้น กล้าคิดกล้าพูดมากขึ้น”

ไม่อยากให้เรียกแม่หม้าย เพราะเป็นสถานะที่โคตรห่อเหี่ยว

“จริงๆ ไม่อยากเรียกตัวเองสถานะนี้เลย เพราะมันเป็นสถานะที่โคตรห่อเหี่ยวเลย ไม่โอเค ไม่เรียกแบบนั้นได้มั้ย ( หัวเราะ) อยากใช้สถานะโสดมากกว่าค่ะ”

(ติดตามทุกข่าวสารในแวดวงบันเทิงทั้งหมดได้ที่ https://mgronline.com/entertainment)