“ดีเจแมน” ยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ได้เป็นแม่ข่ายแชร์ลูกโซ่ FOREX-3D

หลังปรากฏชื่อของ“ดีเจแมน พัฒนพล” นักแสดงชื่อดังในธุรกิจของ FOREX-3D ที่ขณะนี้กรมสอบสวนคดีพิเศษ รับ “FOREX 3D” เป็นคดีพิเศษแล้ว พร้อมเร่งสอบปากคำผู้เสียหาย ขณะนี้มีผู้เสียหายทยอยลงทะเบียนในระบบของดีเอสไอ กว่า 2,000 คน แล้ว จากการที่ลงทุนเทรดเงินตราต่างประเทศ FOREX 3D และกลุ่มธุรกิจนี้มีพฤติกรรมระดมทุนและมีค่าแนะนำ เสนอผลตอบแทนร้อยละ 10 ต่อเดือน มีการทำประกันเงินทุน โดยบริษัทดังกล่าวอ้างว่ามีการจดทะเบียนที่ต่างประเทศ เสียหายกว่า 400 ล้านบาท

อีกทั้งนี้ในการเปิดเผยข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก “รวบรวมผู้โดนโกง จาก Forex 3d” มีการเผยแพร่ภาพ “ดีเจแมน” นั่งประชุมรวมอยู่กับกลุ่มผู้บริหารของ FOREX-3D อีกทั้งมีการตั้งคำถามถึงความสนิทสนมของดีเจแมนกับนายอภิรักษ์ โกฎธิ CEO บริษัท FOREX-3D และมีข้อความที่ระบุว่า “แต่ทำไมดีเจแมน ไปนั่งเก้าอี้ ถ่ายรูป บนโต๊ะ CEO เลย ?

ป้ายชื่อที่ตั้งบนโต๊ะคือ อภิรักษ์ โกฎธิ CEO ของขบวนการแชร์ลูกโซ่ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย Forex 3D , ดีเจแมน สนิท กับ CEO มาก จนขนาดที่ว่า ในงานแต่งงานของดีเจแมนล่าสุด ตัว CEO ใส่ซองงานแต่งไป 10 กว่าล้านบาท ??

ล่าสุด ทีมข่าวอมรินทร์ทีวี ได้ติดต่อไปยัง “ดีเจแมน พัฒนพล มินทะขิน หรือสกุลเดิม กุญชร ณ อยุธยา” ได้ชี้แจงว่า จากรูปที่มีการเผยแพร่ออกมา นั่งประชุมรวมอยู่กับกลุ่มผู้บริหารของ FOREX-3D *อยากให้อ่านแคปชั่นข้างล่างหน่อย จำได้ว่าลงรูปนี้นานหลายปี ตอนนั้นได้ไปเจอผลิตภัณฑ์ถังเช่าที่เป็นยา เลยอยากให้เด็กที่เก่งทางด้านคอมพิวเตอร์มาช่วยทำเรื่องการตลาดให้ เลยให้เขาช่วยทำการตลาดให้ *

จากนั้นคุณอภิรักษ์เลยชวนไปประชุม เพราะเขาอยากให้เห็นว่าบริษัทเขาเป็นอย่างไร ตัวเราก็ไปประชุมด้วย และในนั้นมีแต่เด็ก แล้วเราอายุมากกว่าเขา เขาเลยให้เกียรติเรานั่งหัวโต๊ะ เราไปคุยเรื่องผลิตภัณฑ์ยา ไม่ได้เกี่ยวกับแชร์ลูกโซ่ หรือ FOREX อะไรเลย

ส่วนรูปที่นั่งโต๊ะของ “คุณอภิรักษ์ โกฎธิ” CEO บริษัท FOREX-3D และมีแคปชั่นว่า“งานตามรอยพ่อ กำลังเกิดขึ้น สู้โว้ยแมน” ดีเจแมนชี้แจงว่า ตอนนั้นไม่มีที่นั่ง ออฟฟิตเล็ก เราเป็นผู้ใหญ่เขาเลยให้เกียรติไปนั่ง ถ่ายรูปวิวสวยดี ช่วงนั้นจำได้ว่า เป็นช่วงพระราชพิธีงานของในหลวงรัชกาลที่ 9 คุณอภิรักษ์ชวนทำ “มูลนิธิธรรมมาภิรักษ์” เป็นงานการกุศลหลายอย่าง ช่วยเด็ก ช่วยคนแก่ มีการลงพื้นที่จริง**

ตัวเราเองเห็นว่าเป็นโครงการที่ดีเลยไปช่วยทำ ช่วงหลังๆเรางานเยอะก็ไม่ได้ไปช่วย แต่ก็เห็นว่ามูลนิธินี้ยังเดินหน้าอยู่ ในตอนนั้นความรู้สึกเรา มีคนชวนเราทำเรื่องดีๆเราก็อยากทำ เท่านั้นเอง เพราะอภิรักษ์ พูดมาก่อนหน้านี้ว่าอยากทำมูลนิธิ พอเขาทำเราก็ชวนเพื่อนๆแก๊งค์ฮาเล่ย์ไปทำบุญด้วยกัน เหมือนได้ไปเที่ยวด้วย ประมาณนี้

หากถามว่า ดีเจแมน เคยลงทุนกับ FOREX-3D หรือไม่ ดีเจแมนยอมรับว่า เราคือหนึ่งในนักลงทุน ไม่ได้หงายการ์ดอะไรทั้งนั้นนะ ตอนนี้ก็ยังไม่ได้เงิน เราออกมา4-5 เดือนหลังที่ผ่านมานี่เอง เพราะเราไม่ได้เงินคืน

หากถามว่า ดีเจแมนร่วมลงทุนเพราะความสนิทสนมกับคุณอภิรักษ์ มาก่อนหน้านี้ใช่หรือไม่ ดีเจแมนตอบว่า ตัวเราเองมีน้องเยอะ หลายกลุ่ม คนเข้ามาหาเยอะ กับอภิรักษ์ รู้จักกันในวงการพระ เมื่อ 6 ปีที่แล้ว ตั้งแต่ที่ตัวเขาเองยังไม่ทำธุรกิจนี้เลย เขามาเช่าพระ มาพูดคุยเรื่องพระกัน ถือว่าเป็นน้องคนหนึ่ง

ตอนนี้ยอมรับว่าแฟนสาวอย่าง “ใบเตย สุธีวัน” ก็เครียดบ้าง ถามเราอยู่เหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น บางทีเราก็ไม่รู้สโคปของคน ๆ นี้อย่างลึกซึ้ง เจอหน้ากัน บางครั้งก็ไม่ได้เล่าเรื่องส่วนตัวอะไรมากมาย ไม่รู้ว่าคน ๆ นี้ไปทำอะไรมาบ้าง

ดีเจแมน ยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง เพราะอยู่เราในที่สว่าง ตรวจสอบได้ ตอนนี้ DSI รับเรื่องเป็นคดีพิเศษแล้ว ประชาชนสบายใจได้เลย มันอยู่ในพื้นฐานของกฏหมายแล้ว ให้เป็นหน้าของเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบรายละเอียดดีกว่า เส้นทางการเงินต่าง ๆ ตรวจสอบได้ เราไม่ใช่ทีมแม่ข่ายอะไรทั้งนั้น กล้าพูดได้ 100% ยอมรับว่าเคยไลน์ไปถามเรื่องเงินของตัวเอง แต่เขาไม่ได้ตอบมาเหมือนกัน

งานแต่งงานที่หรูหราหลาย 10 ล้าน หลายคนตั้งคำถามเอาเงินมาจากไหน เอาเงินจากผู้เสียหายคดีนี้มารึเปล่า ดีเจแมนตอบว่า“เสียความรู้สึกมาก คนมองแบบนี้ ผมและใบเตยทำงานมาตลอด คุณแม่ผมก็ทำงาน เราก็ต้องใช้เงินตัวเองอยู่แล้วครับ ตรวจสอบได้ งานแต่งงานของผมและใบเตย มีคนที่รักเรามาช่วยหลายฝ่าย ดีเจแมนและใบเตยแทบจะจ่ายเพียงแค่ค่าโรงแรมและค่าสินสอดเท่านั้น ไม่ได้มีอะไรมากมายเลย

กระแสข่าวที่บอกว่า “ตัว CEO ใส่ซองงานแต่งไป 10 กว่าล้านบาท” ดีเจแมน ชี้แจงว่า ไม่มีเลยเขาใส่ซองมาแค่ 2 พันบาทเท่านั้น ผมยังหัวเราะกับใบเตยอยู่เลย ไม่งั้นผมสบายไปแล้ว กล้าสาบานได้เลย ไม่มีแน่นอนด้วยเกียรติลูกผู้ชาย

อยากฝากบอกกับ “คุณอภิรักษ์ โกฎธิ” CEO บริษัท FOREX-3D ให้ออกมาแถลงข่าว หรือไลฟ์สด ชี้แจงให้กับประชาชนเข้าใจ หรือรับผิดชอบอย่างไร เชื่อว่าหลายคนคงอยากเจอเขา และขอฝากถึงผู้เสียหายทุกท่าน เข้าใจท่านหลาย ๆ คนที่ทุ่มเงินทั้งชีวิตลงไป หลายคนลำบาก เป็นเรื่องเซ็นซิทีฟมาก เราเห็นใจก็รู้สึกแย่ บางคนกู้หนี้ยืมสินมา อยากให้กำลังเขา ต่อจากนี้ต้องพิจารณาด้วย สุดท้ายก็เป็นเรื่องของกฏหมายและเจ้าหน้าที่ตำรวจต่อไป

และฝากบอกสังคมว่า เข้าใจตอนนี้ว่ามีผู้เสียหายเยอะ กฏแห่งกรรมจะทำหน้าที่ของมันเสมอ ตอนนี้เข้ากระบวนการยุติธรรมแล้วด้วย ขอให้เชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรมของบ้านเรา คนผิดจริงๆต้องได้รับโทษ ตามที่เขาทำ ที่บอกกันว่า ดาราไม่ได้ออกมายืนข้างประชาชน อันนี้ไม่ใช่หรอกครับ บางทียังไม่ทันทำอะไรก็ว่าเขากันแล้ว เชื่อว่ายังคงมีอีกหลายคน ก็ลองดูกันต่อไป ถ้าDSI บอกว่าผิด 100 % กฏหมายก็จะทำหน้าที่ของเขาเอง