“ดิสรัป”น่ากลัวกว่าสงคราม

ในห้วงเวลาไม่ถึงสิบปีมานี้โลกที่เราอยู่บ้านเมืองที่เราเห็นเปลี่ยนแปลงอย่างมากมาย ทั้งนี้ล้วนเป็นผลจาก”ดีสทรัปชั่น”เป็นการเปลี่ยนแปลงแบบทำลายล้างของเดิมเกือบจะสิ้นซาก

สิ่งที่เคยคาดการณ์ได้ในอดีตเดี๋ยวนี้คาดการณ์ไม่ถูกเสียแล้ว ยิ่งได้ฟัง”ดร.เอ้”สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์”อธิการบดีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีลาดกระบังเล่าเรื่องนี้ต้องบอกว่าโลกยุดิสรัปว่าน่ากลัวยิ่งกว่าสงคราม จริงๆ

ลองคิดดูว่าเมื่อปี 2018 มีข่าวน้ำท่วมเขื่อนแตกในประเทศลาว คนตายทั้งเมือง อีก 2 เดือนต่อมา น้ำในแม่น้ำโขงเกือบจะแห้งขอด หลังจากนั้นอีก2เดือนภูเขาไฟในอินโดนีเซียระเบิดเกิดสึนามิ และเมื่อต้นปีนี้ เกิดพายุปลาบึกท่วมท่วมใหญ่ที่ภาคใต้

ตอนที่เราเป็นเด็กๆภัยพิบัติธรรมชาติจะเกิดขึ้นต้องใช้เวลา 10 ปีจึงจะครบวงรอบ แต่วันนี้ธรรมชาติส่งสัญญาณว่าโลกไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เมื่อก่อนนักวิชาการมีความเห็นสอดคล้องกันว่า จะไม่มีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นในเมืองไทย แต่แล้วแผ่นดินไหวก็เกิดขึ้นที่ แม่ลาว เชียงราย เป็นการพิสูจน์ว่าความรู้มนุษย์สู้ธรรมชาติไม่ได้ โลกไม่เหมือนเดิม สมองมนุษย์ เทียบธรรมชาติไม่ได้

วันนี้คำว่า”ไม่เปลี่ยน ไม่แพ้”สูญพันธุ์มานักต่อนัก

ดร.เอ้เล่าว่า ฟิล์มโกดักที่เคยดังสุดๆมีเด็กจบใหม่ทั่วโลกอยากทำงานด้วย แต่ปัจจุบัน ถามเด็กๆทั่วโลกทุกคนบอกว่าอยากทำงานที่ กูเกิ้ล เฟสบุ๊ค แอปเปิ้ล แต่โกดัก เจ้งไปแล้ว   โมโตโลล่า รุ่น 3310 วันนี้ไม่มีใครบอกว่า โนเกีย แข่งไม่ได้คนนั้นเสียสติ ทุกตำราในมหาวิทยาลัยระดับท็อปของสหรัฐ ใช้เป็นกรณีศึกษาบริษัทปฏิวัติโลกพัฒนาจากบริษัทค้าไม้มาเป็นบริษัทเทคโนโลยีแต่วันนี้ไม่รอด

วันนี้เราต้องกลับมาดูว่า เราเป็นใคร ใครไม่เก่งไปไม่รอด เราเล่น อินเตอร์เน็ตต้องรู้จัก ยาฮู.คอม ที่มีเจอรี่ หยาง เป็นผู้ก่อตั้ง เคยดังไม่แพ้มาร์ก ซัคเกอร์เบอร์ก ทุกวันนี้ไม่มีใครรู้จักเจอรี่หยางเพราะฉะนั้น วันนี้ค่อยเป็นค่อยไปไม่ได้แล้ว คำว่า องค์กรเปลี่ยนไม่ได้ เพราะ”วัฒนธรรม” ใช้ไม่ได้ วัฒนธรรมมาจากคนสร้าง ทำไมจะเปลี่ยนไม่ได้

วันนี้ถ้าช้าไปแค่ 1นาที เราไม่สามารถแข่งกับใครได้ในโลก ทุกวันนี้ทุกคนสู้เป็นวินาที คำว่า”ค่อยเป็นค่อยไป”ไม่อยู่ในพจนานุกรมอีกแล้ว เพราะยุคนี้เป็น”ยุคดิสรัป”น่ากลัวกว่าสงคราม เพราะเราไม่รู้ว่าใครคือศัตรูของเรา วันนี้คนที่เราไม่รู้จัก อาจทำงานอยู่ที่ประเทศ ลัตเวีย เอสโทเนีย พวกนี้ทำงานที่บ้านเขาแต่เมื่อเขาทำเสร็จเมื่อไหร่ บริษัทเราที่อยู่ในเมืองไทยอาจจะล้มได้

2019 อาชีพยิ่งใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ คือ นักการเงิน เด็กอายุ 20ปี ถ้าเก่งสิงคโปร์ซื้อไปทำงาน ขณะที่ ”ดิสคอฟเวอรี่”จัดแข่งขันกับนักเล่นหุ้นที่เก่งที่สุดชาวเกาหลี  กับAI ปรากฏว่านักเล่นหุ้นแพ้ AI ถูกใช้เป็นนักลงทุนดูประวัติย้อนหลัง การลงทุนย้อนหลัง 30ปี ทำเงินได้มากกว่ามนุษย์ นักการเงินกำลังตกงาน

ทุกวันนี้เวลาทำบุญไม่ต้องใส่ซอง จะโอนผ่านแบงก์ และไม่รู้ว่าแบงก์อะไร เมื่อก่อนแบงก์เคยได้ค่าธรรมเนียมปีละ 3-4พันล้าน วันนี้ไม่ได้แล้วแบงก์เคยมั่นคงทยอยปิดสาขาเป็นว่าเล่น

อาชีพ”นักกฎหมาย”กำลังสูญพันธุ์วันนี้มีนักกฎหมายคนไหนบ้างที่อ่านกฎหมายรัฐธรรมนูญทั่วโลกได้ อ่านฏีกาทั่วโลกได้ แต่ AI สามารถอ่านและจำกฎหมายทุกฉบับได้  JP.Morgan ลดค่ากฎหมายที่แพงมหาศาล รายได้บริษัทกฎหมายสหรัฐปีหนึ่งเป็นแสนล้านบาท ทุกวันนี้ JP.Morgan เริ่มใช้ AI แทนนักกฏหมายอาชีพที่เคยยิ่งใหญ่กำลังถูกกลืน.

อาชีพอาจารย์ เสร็จก่อนเพื่อน”จุดจบมหาลัย”กำลังจะมาถึงวันนี้ไม่มีใครสนใจเรียนมหาวิทยาลัยอีกแล้ว มหาลัยในสหรัฐ500แห่งไม่รอด อีก 2,000 แห่งทำท่าไม่ไหวไปไม่รอดเช่นกัน อาจารย์กำลังจะตกงานกันเป็นแถว

ฟังดร.เอ้แล้วได้แต่ถอนหายใจ ต้องบอกว่าโลกทุกวันนี้”ดิสทรัป”น่ากลัวกว่าสงครามเพราะเราไม่รู้ว่าใครคือศัตรู

แต่บ้านเราบรรดาผู้นำทั้งหลายยังหมกมุ่นกับเรื่องสงครามทุ่มเทงบมหาศาล เพื่อความมั่นคงบางคนยังเถียงกันว่าจะเกณฑ์ทหารหรือไม่ ขณะที่เรากำลังถูกทำลายล้างโดยเทคโนโลยีอยู่ทุกวันโดยไม่รู้ตัว