“เด็ดดอกไม้เพียงหนึ่งดอกสะเทือนถึงดวงดาว”“แค่ผีเสื้อกระพือปีกก็ทำให้เกิดพายุ”
ประโยคเทือก ๆ นี้อาจฟังดูน่าเหลือเชื่อ และไม่น่าจะเป็นไปได้ แต่ก็มีการทดลองเกี่ยวกับทฤษฎี Butterfly Effect หรือทฤษฎีผีเสื้อขยับปีกของเอ็ดเวิร์ด ลอเรนซ์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกันในปี 1972 มายืนยันว่า เมื่อผีเสื้อตัวน้อยกระพือปีกเล่นในประเทศบราซิลก็สามารถก่อให้เกิดพายุใหญ่ในอีกซีกโลกหนึ่งอย่างประเทศสหรัฐอเมริกาในอีกหนึ่งเดือนต่อหลังได้
ขนาดปีกของผีเสื้อที่แสนบอบบางยังสามารถก่อทอร์นาโดได้ แล้วเราที่มีทั้งแรงกายและแรงใจ ทำไมเราจะลุกขึ้นมาเปลี่ยนแปลงตัวเอง เป็นคนที่เราอยากเป็น ใช้ชีวิตในแบบที่เราอยากจะใช้ไม่ได้ จริงไหม?
อยากเป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีกว่าให้เลียนแบบผีเสื้อ
ไม่เพียงแต่ทฤษฎี Butterfly Effect ที่อธิบายว่า การกระทำเล็ก ๆ สามารถนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไม่รู้จบ แต่ตัวของผีเสื้อเองก็มีอะไรมากมายให้เราเรียนรู้
ผีเสื้อมีการการเจริญเติบโตแบบโฮโลเมตาโบลัส หรือการเจริญเติบโตแบบค่อย ๆ เปลี่ยนแปลงรูปร่างจนสมบูรณ์ โดยใช้เวลาถึง 4 ระยะ ตั้งแต่ไข่ หนอน ดักแด้ และตัวเต็มวัย ซึ่งกว่าจะมาเป็นผีเสื้อที่สามารถสยายปีกโผบินได้ตามใจนึกก็ต้องใช้ความอดทนและความมุ่งมั่นไม่น้อยเลย
“ปีใหม่อยากเป็นคนใหม่” มาเปลี่ยนประโยคแห่งความต้องการให้เป็นปณิธานแห่งการเอาจริง ด้วยวิธีการที่ค่อยเป็นค่อยไปแบบการเจริญเติบโตของผีเสื้อกัน
ระยะที่ 1 ไข่: It’s Now or Never เมื่อตัดสินใจแล้วก็ต้องลุยให้เต็มที่
หากอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองเป็นคนใหม่ สิ่งแรกที่เราต้องทำก็คือการเลียนแบบผีเสื้อหลังวางไข่ โดยหลังจากที่มันวางไข่ไปแล้วสัก 5-10 วัน ตัวหนอนจะใช้ปากเจาะเปลือกไข่ให้แตกและพยายามดันตัวออกมาเผชิญโลกกว้าง
มนุษย์เราก็เช่นกัน เราต้องรวบรวมแรงฮึดและกะเทาะเปลือกของตัวเองออกมาให้ได้ เปลือกในที่นี้ก็เปรียบเสมือนพลังด้านลบในจิตใจของเราเอง ไม่ว่าจะเป็นความกลัว ความขี้เกียจ หรือแม้แต่ความกดดัน
เช่น อยากจะตื่นเช้าผันตัวเป็น Morning Person ส่งท้ายปี แต่ดันกดปุ่ม Snooze นาฬิกาปลุกเป็นสิบ ๆ ครั้งทุกเช้า หลายครั้งสิ่งที่ยากที่สุดไม่ใช่อุปสรรคระหว่างทาง แต่เป็นจิตใจของตัวเราเองที่ทำให้เริ่มต้นไม่ได้เสียที
ลองบังคับใจตัวเองสักครั้งแล้วก้าวขาออกมาจาก Comfort Zone ด้วยจิตใจอันแน่วแน่ แล้วเราจะรู้ว่า แค่เริ่มก็เหมือนได้เข้าใกล้เป้าหมายของการเปลี่ยนแปลงแล้ว
ระยะที่ 2 หนอน: เปิดรับทุกสิ่ง มีความสุขและสนุกไปกับทุกอย่าง
ในระยะที่สองนี้ หน้าที่หลักของเจ้าหนอนผีเสื้อคือการกิน กิน และกิน กินทุกสิ่งที่ขวางหน้า เพื่อตุนเป็นพลังงานและเก็บไว้ใช้เมื่อมันโตขึ้น เราก็เช่นกัน หลังจากกะเทาะเปลือกออกมาแล้ว ก็ถึงเวลาเปิดใจและเรียนรู้ทุกสิ่งรอบด้าน เก็บเกี่ยวเป็นประสบการณ์ชีวิตให้ตัวเองในอนาคต
เช่น เรื่องการลดน้ำหนัก ร่างกายของแต่ละคนตอบสนองต่อวิธีลดน้ำหนักไม่เหมือนกัน บางคนได้ผลกับวิธีคีโตเจนิกที่เน้นกินไขมันเป็นหลัก ส่วนบางคนก็ได้ผลกับวิธี Intermittent Fasting ที่ชอบการแบ่งช่วงเวลาการกินมากกว่า บางครั้งเราก็ไม่สามารถทำตามสูตรสำเร็จได้ 100% เพราะทุกคนล้วนมีเส้นทางของตัวเองเสมอ
เราสามารถลองผิดลองถูกได้เรื่อย ๆ ลองพยายามไปจนกว่าจะเจอวิธีที่ใช่ เพราะยิ่งมีประสบการณ์เยอะเท่าไหร่ เราก็ยิ่งเข้าใกล้การเปลี่ยนแปลงที่ประสบความสำเร็จมากเท่านั้น
ระยะที่ 3 ดักแด้: บางครั้งชีวิตก็ต้องอดทนต่อพายุฝนที่โถมกระหน่ำ
ขึ้นชื่อว่าการเปลี่ยนแปลง ยากเสมอ แม้แต่ระยะที่สามที่เข้าสู่ช่วงดักแด้ เจ้าผีเสื้อจะต้องอดทนนอนนิ่ง ๆ และไม่กินอาหารอะไรเลยเป็นระยะเวลา 7-10 วัน ซึ่งจัดว่าเป็นระยะอันตรายเพราะการที่ห้ามขยับตัว อาจทำให้มันหลีกหนีอันตรายที่มาเยือนไม่ได้ แต่ดักแด้ก็มีวิธีเอาตัวรอดด้วยวิธีพรางตัวให้กลมกลืนกับสภาพแวดล้อม เช่น เปลี่ยนสีตัวเองให้มีสีเขียวเหมือนใบไม้ หรือมีสีน้ำตาลที่เหมือนลำต้น เป็นต้น
การเปลี่ยนแปลงก็เหมือนการเดินทาง ซึ่งระหว่างทางย่อมมีอุปสรรคมาขัดขวาง เช่น อยากไปวิ่งมาราธอนสักครั้งในชีวิต แต่ 42.125 กิโลเมตรก็หนักหนาเอาการ ซ้อมไปได้แค่ไม่กี่กิโลก็เหนื่อยแทบขาดใจแล้ว ด้วยความเหนื่อยที่เป็นอุปสรรคนี้อาจทำให้ใครหลายคนล้มเลิกปณิธานไป แต่ถ้าเรารู้จักอดทนให้เหมือนดักแด้ เราก็จะสามารถก้าวผ่านอุปสรรคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ได้
ระยะที่ 4 ตัวเต็มวัย: ปีใหม่หรือจะสู้ฉันคนใหม่ที่แฮปปี้กว่าใครในโลกกว้างเมื่อเราเริ่มปฏิบัติการการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปได้สักพัก เราจะเริ่มชินเป็นนิสัย ทำได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องคิดว่าจะทำดีไหมหรือทำเมื่อไหร่ดี เปรียบเสมือนระยะสุดท้ายของเจ้าผีเสื้อที่โตเต็มวัยที่พร้อมลอกคราบดักแด้ออกมาโผบิน
อ่านมาถึงตรงนี้ เราคงรู้แล้วว่าเจ้าผีเสื้อเนี่ยแหละ คือ Role Model ของการพัฒนาตัวเองต้อนรับปีใหม่ที่น่าทำตามที่สุด เพราะกว่าจะได้สยายปีกออกโลดแล่นบนท้องฟ้า เจ้าตัวน้อยต้องค่อย ๆ เรียนรู้และสะสมประสบการณ์ในแต่ละช่วงชีวิต หากไม่ยอมรับความเจ็บปวดตอนลอกคราบก็จะไม่มีวันได้ออกไปแตะขอบฟ้า
การเปลี่ยนแปลงตัวเองก็เช่นกัน ลองใจดีกับตัวเองสักนิด ให้เวลาตัวเองสักหน่อย ไม่ว่าเราจะตั้ง New year’s resolution ว่าอะไร อยากผอมลง อยากเก่งภาษาที่สามมากขึ้น หรืออยากออมเงินให้ได้มากกว่าปีก่อน ๆ โปรดจำไว้ว่า ทุกอย่างต้องใช้เวลาและมีกระบวนการเหมือนการเจริญเติบโตของผีเสื้อ
เพิ่มช่องทางการรับข่าวสารและข้อมูลดี ๆ ผ่าน Line Official AZAYfan ที่จะช่วยทำให้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น ได้ที่
