“คำรณวิทย์”มอบเหรียญหลวงปู่ทวดให้กำลังใจ “ร.ต.อ.”หนังเหนียว

เมื่อวันที่ 20 ก.พ.63 พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) หัวหน้าทีมคนรักปทุม ได้เดินทางไปมอบเหรียญพระเครื่องหลวงปู่ทวดเนื้อทองคำ พร้อมชุดกรรมการ มูลค่า 200,000 บาท ให้กับ ร.ต.อ.ณัฐพงศ์ รัตนมงคลกูล รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครราชสีมา ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลมหาราช เนื่องจากถูกยิงขณะเข้าระงับเหตุ จ่าทหารคลั่งปืนโหดที่ไล่ยิงชาวบ้าน ทหารและตำรวจเสียชีวิตไป 29 คน ปรากฏว่ากระสุนเฉี่ยวที่หลังเฉียดตายมาหวุดหวิด แพทย์ผ่าตัดอาการปลอดภัยแล้ว ซึ่งผู้หมวดใจกล้าเชื่อมั่นว่าที่รอดชีวิตมาได้เพราะพระเครื่องหลวงปู่ทวด ด้านหลังพระนเรศวรทรงม้าชนะศึก รุ่นตำรวจกล้ามัฆวานที่แขวนห้อยคอไว้ตลอดเวลาขณะออกปฏิบัติหน้าที่

ด้าน ร.ต.อ.ณัฐพงศ์ รัตนมงคลกูล รองสารวัตรป้องกันปราบปราม สภ.เมืองนครราชสีมา กล่าวว่า เมื่อวันที่ 8 ก.พ.ที่ผ่านมา ขณะนั้นตนเองเข้าเวรช่วงเวลา 4 โมงเย็น ได้ประชุมแถวเพื่อปล่อยลูกน้องให้ประจำจุดร้านทองและธนาคารตามแผนป้องกันเหตุ ต่อมาเวลา 16.15 น. ได้รับแจ้งเหตุยิงผู้เสียชีวิตที่บ้านพักทหาร หลังจากนั้นคนร้ายได้หลบหนี เบื้องต้นได้รับแจ้งว่าคนร้ายมีอาวุธปืนสงคราม จำนวน 1 กระบอก และเครื่องกระสุนประมาณ 40 นัด เมื่อได้รับแจ้งได้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้น เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุพบเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตอยู่ภายในรถพร้อมกับอาสาตำรวจ ผมได้ประเมินสถานการณ์ว่าคนร้ายยิงเสร็จแล้วคงจะขับรถหลบหนีไป ผมจึงเข้าไปดูผู้เสียชีวิต แต่เห็นความผิดปกติจึงขึ้นรถและสั่งให้พลขับรีบขับรถถอยได้ 150 เมตร ระหว่างนั้นมีเด็กนักเรียนที่ขับขี่รถจักรยานยนต์สวนเข้าไป จึงถูกคนร้ายยิงไป 2 นัดเสียชีวิตทันที ผมซึ่งอยู่ภายในรถเห็นเหตุการณ์โดยตลอด จากนั้นคนร้ายได้นั่งลงและได้ประทับเล็งยิงมาทางผม เสี่ยววินาทีนั้นก็กระโดดลงจากรถ คนร้ายได้ยิงมาเป็นชุด ขณะที่ตนเองอ้อมไปหลบอยู่ด้านหลังรถ ซึ่งคนร้ายก็ยังได้ยิงกราดมาเป็นชุด ๆ ซึ่งตนกับลูกน้องใช้รถเป็นโล่ป้องกันตัวเอง แต่ลูกน้อง 2 คน ถูกยิงที่ขา ตนจึงช่วยลากเข้ามาหลบให้พ้นจากวิถีกระสุน จากนั้นจึงนำเสื้อเกาะมาใส่จึงรู้สึกว่ามีหัวกระสุนปักอยู่ช่วงไหล่ซ้ายได้หลัง หลังจากนั้นคนร้ายได้บรรจุกระสุนใหม่แล้วกราดยิงมาอีก 1 ชุด เพื่อหลบหนี

ต่อมาทางกู้ภัยได้เข้ามาดูบาดแผล พบว่าไม่เป็นไรมากแค่ถากๆ แต่เมื่อตรวจสอบแล้วผมโดนถึง 5 จุด ประกอบด้วยที่ศีรษะ 1 หลัง 2 ท้ายเอว 1 จากเศษกระสุนและหัวไหล่ซ้ายด้านหลัง อีก 1 จุด หลังจากแพทย์ได้ผ่าตัดเพียงเอากระสุนปืนออก จึงพบว่าเป็นลูกกระสุนปืนขนาด HK33 เป็นอาวุธสงครามมีอานุภาพร้ายแรง หลังจากแพทย์ฝ่าตัดแล้วก็ปลอดภัยดี เนื่องจากกระสุนเข้าเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ซึ่งการรอดตายครั้งนี้ตนคิดว่าเป็นเพราะปาฏิหาริย์เหรียญรุ่นตำรวจกล้ามัฆวาน ที่รับมาจาก พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในขณะที่ดำรงตำแหน่งตอนที่มีเหตุการณ์ควบคุมการชุมนุมที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ ซึ่งขณะที่ถูกยิงก็มั่นใจว่าที่รอดชีวิตมาได้เพราะคล้องเหรียญหลวงปู่ทวด รุ่นตำรวจกล้ามัฆวานเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น ซึ่งตนเองก็เคารพและศรัทธาในองค์หลวงปู่ทวด และองค์สมเด็จพระนเรศวรอยู่แล้ว เมื่อดูรอยกระสุนที่เข้าที่ศีรษะและลำตัวแล้ว หากไม่มีเหรียญหลวงปู่ทวดก็คงเสียชีวิตไปแล้ว ต้องขอขอบคุณ พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง ตนรู้สึกซาบซึ้งถึงแม้ท่านได้เกษียณไปแล้ว แต่ท่านยังเป็นห่วงลูกน้องไม่ทอดทิ้งลูกน้อง

ส่วนทางด้าน พล.ต.ท.คํารณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) กล่าวว่า พระเครื่องหลวงปู่ทวด ด้านหลังพระนเรศวรทรงม้าชนะศึก รุ่นตำรวจกล้ามัฆวาน ด้านหน้าเป็นรูปย่อส่วนจากรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ปี 08 ส่วนด้านหลังเป็นรูปพระนเรศวรทรงม้าทะยานเดินหน้า เดินหน้าไม่มีถอยมีข้อความว่า ทรงม้าชนะศึก สร้างขึ้นมาเพื่อสร้างขวัญกำลังใจตำรวจ ที่ได้ร่วมปฏิบัติงานในขณะนั้น ประกอบด้วย เนื้อทองคำสร้าง 50 เหรียญ, เนื้อเงินลงยาสีดำและสีเลือดหมู สร้างทั้งหมด 1,000 เหรียญ, เนื้อทองแดงนอก สร้าง 10,000 เหรียญ ได้แจกตำรวจที่มาปฏิบัติหน้าที่ควบคุมฝูงชนที่สะพานมัฆวานรังสรรค์ กรุงเทพฯ ไม่มีให้บูชา เนื้อทองแดงกะไหล่เงินลงยาหน้าสีเลือดหมูและสีดำ สร้าง 2,500 เหรียญ สมนาคุณผู้ร่วมทำบุญกับมูลนิธิมงคล-จงกล ธูปกระจ่าง และชุดกรรมาการชุดละ 200,000 บาท เพื่อที่จะนำทุนมาสร้างเหรียญรุ่นนี้ขึ้นมา

โดยเหรียญรุ่นนี้มีมวลสารจากคุณพิศาล เตชะวิภาค หรืออาจารย์ต้อยเมืองนนท์ ประกอบด้วย เหรียญหลวงปู่ทวดรุ่นเลื่อนสมณศักดิ์ ปี 08 จำนวน 9 เหรียญ พร้อมศาตราวุธโบราณหลายชนิด และมวลสารมงคลต่าง ๆ หล่อหลอมเป็นมวลสารจากทั้งประเทศ ซึ่งมีพระเกจิฯอาจารย์จากทั่วประเทศกว่า 200 องค์ มาร่วมพิธีพุทธาภิเษกที่อนุสถานดอนเจดีย์และปลุกเสกหลายวาระ โดยนำไปให้เกจิฯทั่วประเทศปลุกเสกอีกหลายครั้ง ทหารตำรวจเหล่าข้าราชการที่เช่าบูชาเชื่อกันว่า ใครมีติดตัวโชคดีมีชัย พุทธคุณเจริญก้าวหน้า เลื่อนยศเลื่อนตำแหน่ง ด้านหลังเป็นพระนเรศวรทรงม้าชนะศึก ถือเป็นสิริมงคลอันสูงสุดของข้าราชการทหาร-ตำรวจ นักรบของแผ่นดิน ไปที่ไหนล้วนประสบชัยชนะและไม่ตายโหงด้วยบารมีแห่งพระโพธิสัตว์จักรพรรดินิรันตราย ในวันนี้ที่ได้มาเยี่ยม ร.ต.อ.ณัฐพงศ์ รัตนมงคลกูล จึงได้มอบเหรียญเนื้อทองคำชุดกรรมการ ซึ่งเหลืออยู่เพียงชุดเดียวให้ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป พร้อมทั้งฝากถึงเพื่อนตำรวจปฏิบัติหน้าที่อย่างระมัดระวัง และหมั่นฝึกยุทธวิถีอย่างสม่ำเสมอเพื่อความไม่ประมาท