โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

“คมนาคม” ชง “ศบค.”เปิดระบบขนส่งสาธารณะ 100% ยกเว้นจังหวัดที่ยังล็อกดาวน์ คาด 4 มิ.ย.ชัดเจน

MATICHON ONLINE

อัพเดต 02 มิ.ย. 2563 เวลา 09.30 น. • เผยแพร่ 02 มิ.ย. 2563 เวลา 09.30 น.
1591089726015

“คมนาคม” ชง “ศบค.”เปิดระบบขนส่งสาธารณะ 100% ยกเว้นจังหวัดที่ยังล็อกดาวน์ คาด 4 มิ.ย.ชัดเจน

นายอานนท์ เหลืองบริบูรณ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคมเปิดเผยภายหลังเป็นประธานการประชุมเตรียมการระบบขนส่งสาธารณะ ภายหลังศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ได้ผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 3 ว่า ที่ประชุมได้หารือเรื่องการเปิดระบบขนส่งสาธารณะ เพื่อรองรับความต้องการเดินทางของประชาชนที่เพิ่มมากขึ้น หลังจาก ศบค.ได้ผ่อนปรนมาตรการระยะที่ 3 โดยที่ประชุม เห็นว่า ศบค. ผ่อนปรนมาตรการค่อนข้างมากแล้ว จึงมีมติว่าควรเปิดเส้นทางการขนส่งสาธารณะ 100% ยกเว้นในจังหวัดที่ยังมีมาตรการห้ามเข้า โดยมติดังกล่าวครอบคลุมการเปิดเส้นทางขนส่งสาธารณะทุกประเภท ทั้งรถโดยสารสาธารณะ (รถทัวร์) รถไฟ และเครื่องบิน โดยรวมถึงการเปิดเส้นทางรถทัวร์เส้นทางสู่ภาคใต้และเปิดวิ่งรถไฟทางไกลด้วย

นายอานนท์กล่าวว่า สำหรับพื้นที่ 19 จังหวัด ที่มีมาตรการห้ามเดินทางเข้าออกเพื่อป้องกันไวรัสโควิด-19 นั้น เบื้องต้นจังหวัดดังกล่าวมีแนวโน้มจะคลายล็อกดาวน์ แต่เพื่อความมั่นใจ จึงให้ขนส่งจังหวัด ซึ่งเป็นหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงคมนาคม ไปสอบถามแต่ละจังหวัดเพื่อความชัดเจนก่อน จากนั้นกระทรวงคมนาคมจะเสนอเรื่องให้ที่ประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ชุดเล็กพิจารณาในวันที่ 4 มิถุนายน 2563 และคาดว่าจะมีความชัดเจนเรื่องการเปิดระบบขนส่งมวลชนในวันดังกล่าว

“ที่ประชุมจะเสนอให้ ศบค. เปิดเส้นทางขนส่งสาธารณะ 100% ยกเว้นแต่จังหวัดที่ยังห้ามเดินทางเข้าออก โดยเราคงเสนอ ศบค. ชุดเล็กได้วันที่ 4 มิถุนายนนี้และน่าจะรู้ผลในวันเดียวกัน ถ้าหาก 19 จังหวัดคลายล็อกดาวน์ คาดว่าวันที่ 5-6 มิถุนายน ก็น่าจะเปิดเดินรถปกติ 100% ส่วนเรื่องความถี่คงค่อยๆ ทยอยเพิ่มขึ้น ตามความต้องการของประชาชนและความพร้อมของผู้ประกอบการ” นายอานนท์กล่าว

นายอานนท์กล่าวว่า อย่างไรก็ตาม กระทรวงคมนาคมยังกำหนดให้ระบบขนส่งสาธารณะทั้งหมด ต้องปฏิบัติตามมาตรการป้องกันไวรัสโควิด-19 ดังเดิม เช่น มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing), การให้บริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ, การสวมใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่เดินทาง, การสแกนแพลตฟอร์ม “ไทยชนะ” เพื่อติดตามผู้โดยสาร กรณีพบผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นต้น

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0