โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

COM7 โชว์กำไร Q3/64 โตกว่า 53% แย้ม Q4 แรงต่อเนื่อง ย้ำเป้าสิ้นปีโต 20% ตามแผน

Wealthy Thai

อัพเดต 07 ส.ค. 2566 เวลา 04.27 น. • เผยแพร่ 12 พ.ย. 2564 เวลา 15.10 น.

COM7 ผลงาน Q3/64 โตต่อเนื่อง โกยรายได้ 10,098.5ลบ. โตกว่า 12% กำไร 570.5ลบ. พุ่งกว่า 53% แม้ในสถานการณ์โควิด-19 รุนแรง มีการล็อกดาวน์และปิดห้างสรรพสินค้าชั่วคราว COM7 ปรับกลยุทธ์ เพิ่มช่องทาง Pop Up Store และ Stand Aloneเสริมทัพ ควบคู่การขายผ่านออนไลน์ สะท้อนการรับมือในช่วงวิกฤติ หนุนงวด 9 เดือน ผลประกอบการยังทะยานต่อเนื่อง ปัจจุบันมีสาขาอยู่ที่ 958 สาขา และคาดสิ้นปีมี 1,000 สาขา ครอบคลุมทั่วประเทศ นอกจากนี้ ได้อานิสงส์สินค้าใหม่เปิดตัว ยอด iPhone 13 ได้รับการตอบรับถล่มทลาย และการเปิดตัวสินค้าใหม่รับไฮซีซั่น จึงมั่นใจ Q4/64 จะเป็นอีกไตรมาสที่ดีที่สุดของปี และเป้ารายได้ปีนี้เติบโต 20% ตามแผนเดิม
บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) (COM7) ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ รายงานผลประกอบการของบริษัทฯ งวดประจำไตรมาส 3/2564(กรกฎาคม - กันยายน) รายได้รวมอยู่ที่ 10,098.5ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกําไรขั้นต้นอยู่ที่ 1,506.0ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32%กําไรส่วนของบริษัทใหญ่ 570.5ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.2% สนับสนุนให้ ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 (มกราคม - กันยายน) รายได้รวมอยู่ที่ 33,649.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 34.7% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และมีกําไรส่วนของบริษัทใหญ่ เท่ากับ 1,723.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 84.4%
แม้ในไตรมาส 3/2564 เป็นช่วงที่สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19มีความรุนแรงมากขึ้น นำไปสู่การใช้มาตรการล็อกดาวน์ในพื้นที่สีแดงเข้ม พร้อมบังคับใช้มาตรการเข้มข้น ขอความร่วมมือ Work Form Home 100% และมาตรการประกาศปิดห้างสรรพสินค้า COM7เตรียมพร้อมรับมือและเร่งปรับกลยุทธ์ โดยขยายสาขาชั่วคราวในรูปแบบ Pop Up Store และ Stand Alone จำนวน 54สาขา โดยเน้นเปิดร้านในพื้นที่จังหวัดที่ถูกปิดหน้าร้าน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่และพยายามรักษายอดขายให้ได้มากที่สุด ซึ่งได้รับผลตอบรับเป็นอย่างดี และหลังมาตรการรัฐจะปรับบางสาขาที่ขายดี เป็นร้าน Stand Alone แบบถาวร จำนวน 17 สาขา
นอกจากนี้ ยังได้เพิ่มช่องทางขายใน Big C จำนวน 45 สาขา และการเติบโตจากยอดขายออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น รวมทั้ง ช่องทางจำหน่ายผ่าน CHAT & SHOP ทำให้ปัจจุบันบริษัทมีการขยายคลังสินค้าออนไลน์เพิ่มเติมเพื่อรองรับยอดขายที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ควบคู่กับการพัฒนาระบบ E-Commerce และด้านสินเชื่อ U-Fund และ True Loan ยังคงมีแนวโน้มที่ดี มีฐานลูกค้ามากขึ้น และมีหนี้เสียต่ำ
โดย ณ สิ้นไตรมาส 3/2564 COM7 มีสาขาภายใต้การบริหารงานของกลุ่มบริษัท รวมทั้งหมด 958สาขา แบ่งเป็น BaNANA 353สาขา Studio 109สาขา KingKong Phone 85สาขา True Shop by Com7 123สาขา แฟรนไชส์ 109สาขา BKK 43สาขา iCare 30สาขา และอื่นๆ 106สาขา โดยมีการขยายเพิ่มจากไตรมาส 3 ของปีที่แล้วรวม 147 สาขา
นอกจากนี้ บริษัทย่อย บริษัท เอเดพท์ จำกัด (เดิมชื่อ บริษัท บานาน่า กรุ๊ป จำกัด) ปัจจุบันดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าแบรนด์ Realme ในเดือนกันยายน 2564 ได้เริ่มจัดจำหน่ายแบบขายส่งสินค้า IoT ของ Realme และไตรมาส 4 ปีนี้จะเริ่มขายส่งสินค้าประเภท Smartphone เพิ่มโอกาสในการเติบโตไปยังกลุ่มสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคในยุคดิจิทัล
นายสุระ คณิตทวีกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ผู้ประกอบธุรกิจค้าปลีกสินค้าไอทีรายใหญ่ของประเทศ เปิดเผยถึง ภาพรวม COM7ในปี 2564 ยังคาดหวังการเติบโต 20% จากปีก่อนอยู่ที่ราว 37,453.9 ล้านบาท แม้ไตรมาส 3 จะเป็นช่วงที่มีการล็อกดาวน์ ทำให้ต้องปิดสาขาเป็นการชั่วคราวในห้างสรรพสินค้า แต่ผลประกอบการยังคงเป็นที่น่าพอใจ
อย่างไรก็ดี ปัจจุบันมีการคลายล็อกดาวน์ และเปิดห้างสรรพสินค้าเรียบร้อยแล้ว ทราฟฟิกคนเดินในห้างสรรพสินค้าก็เป็นที่น่าพอใจ รวมถึงอานิสงส์จากรัฐบาลมีการกระตุ้นเศรษฐกิจเข้ามา เป็นอีกปัจจัยสนับสนุนกำลังซื้อให้เข้ามาจับจ่ายใช้สอยในร้านค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ปลายปีเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจมีสินค้าเปิดตัวและทยอยวางจำหน่ายจำนวนมาก อาทิ สินค้ากลุ่ม Apple ที่มีการเปิดตัวสินค้าเรือธงออกมา โดยเฉพาะ iPhone รุ่น 13 ที่ได้รับการตอบรับ และมียอดจองสูงสุดเป็นประวัติการณ์ อีกทั้ง มีการวางจำหน่ายสินค้าเร็วกว่ารุ่นที่ผ่านมา สนับสนุนยอดขายในช่วงโค้งสุดท้ายของปีให้เติบโตได้แบบเร่งตัวขึ้น นอกจากนี้ ยังมีแบรนด์ชั้นนำเปิดตัวสินค้าใหม่ๆ สนับสนุนบรรยากาศการบริโภคในประเทศให้กลับมาคึกคัก โดยเฉพาะสินค้าเทคโนโลยี จึงมองว่า ในไตรมาส 4/2564 จะเป็นไตรมาสที่ดีที่สุดของปีนี้ได้
สำหรับภาพรวมสาขาในปีนี้ของ COM7 คาดจะมีครบ 1,000 สาขา และในปี 2565 บริษัทฯ ก็ยังคงตั้งเป้าเปิดสาขาใหม่อีกไม่ต่ำกว่า 100 สาขา เพื่อเป็นฐานในการเติบโต และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น ขณะที่ช่องทางออนไลน์สามารถทำได้ดี ในงวด 9 เดือนแรก มีการเติบโตของออนไลน์ 50% และมีสัดส่วนยอดขายผ่านออนไลน์ประมาณ 4% – 5%ของรายได้ เสริมแกร่งช่องทางการจำหน่าย สะท้อนภาพรวมการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคมุ่งสู่ออนไลน์มากขึ้น
นอกจากนี้ ในไตรมาส 4/2564 COM7ได้เพิ่มเติมกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เข้ามาเสริมพอร์ต จากปัจจุบัน จำหน่ายสินค้าครอบคลุมทั้ง สมาร์ทโฟน ไอที และเทคโนโลยี โดยเข้าไปบริหารพื้นที่ศูนย์เครื่องใช้ไฟฟ้าครบวงจร “เพาเวอร์วัน (POWER ONE)” ในทุกสาขา ซึ่งเป็นธุรกิจในเครือ “อินเด็กซ์ ลิฟวิ่งมอลล์ (ILM)” สนับสนุนให้ COM7 มีพอร์ตสินค้าใหม่จับเทรนด์ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคในการอยู่อาศัย และขยายไลน์สินค้ากลุ่ม 5G IoT และ Smart home เพื่อเข้าถึงผู้บริโภคได้เพิ่มขึ้น สนับสนุนโอกาสในอนาคต

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0