โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘Be different’ และ ‘Be yourself’ - วินทร์ เลียววาริณ

THINK TODAY

เผยแพร่ 25 มี.ค. 2562 เวลา 04.27 น. • วินทร์ เลียววาริณ

เคยสงสัยไหมว่า ตั้งแต่เริ่มปรากฏสายพันธุ์มนุษย์ มีคนกี่คนใช้ชีวิตบนโลกมาแล้ว?

ตัวเลขที่นักวิทยาศาสตร์ประเมินคือประมาณ 108 พันล้านคน ดังนั้นจำนวนคนเจ็ดพันล้านของมนุษย์ใน พ.ศ. นี้จึงเทียบเท่า 7 เปอร์เซ็นต์ของพลเมืองโลกทั้งหมดที่เคยมีมา

เราเป็นหนึ่งใน 108 พันล้านคน

ในจำนวนคนมหาศาลเช่นนี้ ย่อมยากที่จะเห็นใครแตกต่างจากคนอื่น ยกเว้นใครคนนั้นกระทำเรื่องที่น่าจดจำจริงๆ

นี่เองที่ทำให้นักการตลาดนิยมใช้ความแตกต่างเป็นจุดขายสินค้า ด้วยสโลแกน “Be different” กรอกหูเราว่า เราทุกคนควรแตกต่างจากคนอื่น ที่น่าขันก็คือนักการตลาดโน้มน้าวใจเราให้สร้างความแตกต่างโดยใช้สินค้ายี่ห้อเดียวกัน!

คนจำนวนไม่น้อยก็โอบรับปรัชญา ‘แตกต่างจากคนอื่น’ อย่างเต็มใจ มองไปรอบตัวและรอบโลก จะพบว่าคนจำนวนมากในโลกทำผมทรงประหลาด แสดงพฤติกรรมหลุดโลก ฯลฯ เพียงเพื่อสร้างความแตกต่าง (นี่เป็นคนละเรื่องกับการทำสีผมแปลกๆ เพื่อเพิ่มสีสันและความสนุกให้ชีิวิต)

นี่มิได้บอกว่าเราไม่ควรทำตัวแตกต่าง แค่ชี้ว่า ‘Be different’ อาจลึกซึ้งกว่าแค่สร้างเอกลักษณ์หรือความแตกต่างทางเปลือกนอก มันยังหมายถึงการสร้างความแตกต่างที่ความคิด การแก้ปัญหา การมองโลก ฯลฯ

คิดง่ายๆ คือ โลกสามารถมีเอกลักษณ์แตกต่างกันได้ถึงเจ็ดพันล้านเอกลักษณ์หรือ?

อย่าว่าแต่เราสามารถ ‘Be different’ ได้จริงๆ หรือ? เราแน่ใจได้อย่างไรว่าเราไม่เหมือนใครในโลก? ในโลกปัจจุบันที่มีประชากรเจ็ดพันล้านคน น่าจะมีหลายคนที่มี ‘เอกลักษณ์เฉพาะตัว’ เหมือนกับเราเป๊ะ

ดังนั้นความพยายามสร้างความแตกต่างทางเปลือกจึงอาจเป็นการวิ่งหนีเงาของเราเอง

หลายคนใช้เวลาทั้งชีวิตพยายามที่จะทำชีวิตตนให้ซับซ้อนเข้าไว้ เพราะเชื่อว่าซับซ้อนคือแตกต่าง หรือชีวิตซับซ้อนคือชีวิตที่มีรสชาติ

ทว่าหากเรามองดูคนที่พิเศษจริงๆ ในโลก มนุษย์พิเศษเหล่านั้นมักเป็นคนที่มีเปลือกนอกธรรมดา แต่เป็นตัวของตัวเอง

นี่ทำให้เราต้องมองใหม่ว่า บางทีสิ่งที่อาจลึกซึ้งและยั่งยืนกว่า ‘Be different’ คือ ‘Be yourself’

บางครั้งการเป็นตัวของตัวเองก็คือ ‘ความแตกต่าง’ ชนิดหนึ่งนั่นเอง!

‘Be yourself’ คือซื่อตรงกับตัวเอง กล้าสร้างรอยเท้าบนโลกตามแบบของเราเอง แต่อาจไม่จำเป็นต้องแตกต่างจากคนอื่น เพราะจะแตกต่างหรือไม่แตกต่างก็ได้ จะใช้ชีวิตซับซ้อนหรือเรียบง่าย มีสีสันหรือจืดชืด มันไม่สำคัญ

‘Be yourself’ มีนัยของเจตจำนงอิสระ ทำตามใจใฝ่ฝันปรารถนา

‘Be yourself’ คือทำสิ่งที่ตนเองเชื่อและต้องการด้วยความสุข ความมั่นใจ บนจริยธรรม ความถูกต้อง

…………..

สำหรับคนจำนวนมาก การเป็นมนุษย์ธรรมดาเป็นเรื่องยาก กระทั่งต้องเดินทางแสวงหาหนทาง ค้นหา ‘สัจธรรม’ เพื่อจะเป็นมนุษย์ธรรมดา

นักเขียน อัลแบร์ กามูร์ กล่าวว่า “คนบางคนใช้พลังงานมหาศาลเพียงเพื่อที่จะเป็นคนปกติ”

ทางเซนมีคำกล่าวว่า

“ก่อนฝึกเซน แม่น้ำเป็นแม่น้ำ ภูเขาเป็นภูเขา

เมื่อปฏิบัติเซน จะเห็นว่าแม่น้ำไม่ใช่แม่น้ำ ภูเขาไม่ใช่ภูเขา

เมื่อบรรลุธรรม แม่น้ำก็เป็นแม่น้ำ ภูเขาก็เป็นภูเขา”

เราเรียนรู้ทั้งชีวิตเพื่อที่จะเข้าใจในท้ายที่สุดว่า ชีวิตก็คือธรรมชาติของความธรรมดา และความไม่ธรรมดาเป็นเพียงมายา

บางทีอาจเพราะโลกไม่เคยมีความพิเศษ มันเป็นเพียงความปกติธรรมดาที่เรารู้สึกไปเองว่าพิเศษ

สูงสุดคือสามัญ สามัญคือสูงสุด

เพราะบางทีการเป็นมนุษย์ธรรมดาๆ คนหนึ่ง อาจงดงามกว่า

…………..

วินทร์ เลียววาริณ

winbookclub.com

เฟซบุ๊ก https://www.facebook.com/winlyovarin/

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0