โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘ไวรัสโควิด-19’ ทำพิษ ‘ญี่ปุ่น’ กระทบหนัก เหตุนักท่องเที่ยวหาย

The Bangkok Insight

อัพเดต 19 ก.พ. 2563 เวลา 16.01 น. • เผยแพร่ 20 ก.พ. 2563 เวลา 01.25 น. • The Bangkok Insight
‘ไวรัสโควิด-19’ ทำพิษ ‘ญี่ปุ่น’ กระทบหนัก เหตุนักท่องเที่ยวหาย

"ทัวร์ญี่ปุ่น" กระทบหนัก เหตุกระทรวงสาธารณสุข ประกาศขอความร่วมมือเลื่อนเดินทางไปญี่ปุ่น ทำให้คนไทยยกเลิกเที่ยวญี่ปุ่น  วอนทุกฝ่ายดูแล หวั่นผลกระทบลูกโซ่ กระทบเศรษฐกิจภาพรวม

ข้อมูลยืนยันอย่างเป็นทางการถึงยอดผู้ป่วยติดเชื้อทั่วโลกตั้งแต่ 5 มกราคม - 19 กุมภาพันธ์ 2563 ใน 27 ประเทศ 2 เขตบริหารพิเศษ จำนวน 75,138 ราย เสียชีวิต 2,007 ราย จีน ประเทศต้นทางการแพร่ระบาด พบผู้ป่วย 74,139 ราย เสียชีวิต 2,002 ราย

โดยขณะนี้นอกจากจีนแล้ว ญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศ ที่พบมีการแพร่ระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ มียอดผู้ติดเชื้อ 78 ราย ขณะเดียวกัน ญี่ปุ่นก็เป็นประเทศยอดฮิต ที่มีคนไทยเดินทางออกไปท่องเที่ยวจำนวนมากในแต่ละวัน

ทำให้กระทรวงสาธารณสุขของไทย ต้องประกาศแจ้งขยายมาตรการคัดกรองทางการแพทย์ โดยคุมเข้มผู้เดินทางมาจากญี่ปุ่น รวมถึง สิงคโปร์ เทียบเท่าผู้ที่เดินทางมาจากจีน โดยเมื่อถึงสนามบินจะต้องผ่านเครื่องวัดอุณหภูมิร่างกาย ถ้าสูงเกิน 37.5 องศาเซลเซียสถือว่ามี "ไข้" ถือเป็นผู้ป่วยเข้าเกณฑ์เฝ้าระวัง ต้องถูกกักตัว เพื่อตรวจเชื้อ และติดตามอาการเป็นเวลา 14 วัน พร้อมขอความร่วมมือคนไทยให้เลื่อนการเดินทางมาญี่ปุ่น

ส่งผลให้แหล่งท่องเที่ยวญี่ปุ่นตอนนี้เงียบเหงา โดยจากการสำรวจเมืองท่องเที่ยวสุดฮิตอย่างโอซาก้า The Bangkok Insight พบว่า แต่ละแหล่งท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวลดลงจำนวนมากกว่า 50% อย่างที่บริษัททัวร์ ระบุว่า ไม่เคยเกิดขึ้นกับเมืองท่องเที่ยวอย่างญี่ปุ่นในรอบหลายสิบปี โดยเฉพาะแหล่งช้อปปิ้ง อย่างย่าน "ชิไชบาชิ" ถนนคนเดินยาว 580 เมตร ที่มีป้ายไฟกูลิโกะ เป็นแลนด์มาร์ค รวมถึง "ตลาดปลาคุโรมง" และ "ริงกุเอาท์เล็ท "

เพราะนอกจากนักท่องเที่ยวจีน ที่เคยเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวหลักของโอซาก้าจะหายไปแล้ว ตัวเลขยอดนักท่องเที่ยวไทย ก็กำลังดิ่งลง จากการประกาศมาตรการเฝ้าระวังผู้เดินทางมาจากญี่ปุ่น ของกระทรวงสาธารณสุข

ณัฏฐิปภัสร์ หลวงพรหม
ณัฏฐิปภัสร์ หลวงพรหม

ณัฏฐิปภัสร์ หลวงพรหม หัวหน้าทัวร์ จากบริษัทยู สมาย ทราเวล  ระบุว่า ปกติช่วงเดือนมกราคม จนถึงเมษายนของทุกปี เป็นไฮซีซั่น ที่คนไทยจะนิยมมาท่องเที่ยวญี่ปุ่นอย่างมาก เพื่อมาชมดอกซากุระบาน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ประกอบกับอากาศกำลังเย็นพอดี เมื่อเจอประกาศของกระทรวงสาธารณสุข ในการขยายการคัดกรองเข้มสำหรับผู้ที่เดินทางมาจากญี่ปุ่น พร้อมขอความร่วมมือให้คนไทย เลื่อนการเดินทางมาญี่ปุ่นไปก่อน ทำให้นักท่องเที่ยวไทยยกเลิกการเดินทางจำนวนมาก เพราะเกรงจะกลับเข้าประเทศตัวเองลำบาก โดยเลื่อนการเดินทางออกไปแบบไม่มีกำหนด โดยเฉพาะช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงมีนาคม บางบริษัทบอกว่า มีการยกเลิกการเดินทางออกไปถึง 5 เที่ยว รวมนักท่องเที่ยวไทยกว่า 1,350 คน

"บริษัททัวร์หลายบริษัทกำลังขาดทุน เพราะถูกยกเลิกการเดินทาง ได้รับผลกระทบเป็นระลอก เพราะทุกอย่างถูกจองไว้หมดแล้ว ทั้งเที่ยวบิน รถทัวร์ โรงแรม ร้านอาหาร กระทบกันไปหมด และสุดท้ายจะพันมาถึงเศรษฐกิจในภาพรวมให้ซบเซาลงไปอีก "

ทั้งนี้อยากวิงวอนให้รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข หากจะประกาศให้เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวไทยที่เดินทางไปญี่ปุ่น หรือประเทศไหนก็ตาม ก็ควรต้องคำนึงถึงผลกระทบอื่นๆตามมาด้วยกับธุรกิจทัวร์ และธุรกิจต่อเนื่อง เหมือนที่นึกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เมื่อไม่ประกาศห้ามนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศ

และการที่มีการยกเลิกการเดินทางออกไป ซึ่งเป็นมาตรการในการป้องกันผลกระทบของไวรัสโควิด-19 ก็อยากให้ทุกภาคส่วนเห็นใจและช่วยเหลือกัน จากปัจจุบันหากมีการเลื่อน หรือยกเลิก สายการบิน และอื่นๆ ก็หักเปอร์เซนต์ หรือค่าปรับเหมือนสถานการณ์ปกติ ทำให้ธุรกิจทัวร์กำลังประสบปัญหาหนัก

อานนท์ วิบูลย์วิทยานันท์
อานนท์ วิบูลย์วิทยานันท์

จากการสอบถามคนไทยที่อาศัยในญี่ปุ่น อานนท์ วิบูลย์วิทยานันท์ บอกว่า ตอนนี้ที่ญี่ปุ่นนักท่องเที่ยวลดลงอย่างมาก ส่วนคนญี่ปุ่นเพิ่งมาตื่นตัวในช่วงหลังจากสื่อทั่วโลกออกข่าวพบผู้ติดเชื้อบนเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส มากถึง 542 คนที่มาขึ้นฝั่งท่าเรือโยโกฮามา และตัวเลขยอดผู้ติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ตอนนี้หน้ากากอนามัยในญี่ปุ่นกลายเป็นของหายาก

ในแต่ละวันจะมีประชาชนตั้งใจออกจากบ้านมาแต่เช้า เพื่อเข้าคิวซื้อหน้ากากอนามัย ในร้านขายยากลางเมืองที่ทราบว่าจะมีหน้ากากอนามัยมาขาย และไม่กี่ชั่วโมงทุกร้านก็จะขายหมดเกลี้ยง แม้ว่าแต่ละร้านจะจำกัดการซื้อของแต่ละคนก็ตาม

"คนญี่ปุ่นเชื่อรัฐบาล และเชื่อมั่นว่าจะดูแลตัวเองได้ จึงไม่มีการใส่หน้ากากอนามัย มาใส่ตอนหลังจากมีข่าวเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซสแล้ว " 

สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย จนถึงวันที่ 19 กุมภาพันธ์ มีผู้ป่วยเข้าเกณฑ์ต้องเฝ้าระวังทั้งหมด 957 ราย อนุญาตให้กลับบ้านไปแล้ว 857 ราย ยังคงรับไว้ในโรงพยาบาลต่างๆ 100 ราย มีผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันทั้งหมด 35 ราย กลับบ้านแล้ว 17 ราย นอนโรงพยาบาล 18 ราย

ขณะที่คนไทยที่รับกลับจากอู่ฮั่น ก็กลับบ้านได้แล้วทั้งหมด 137 คน ทั้งหมดไม่มีการติดเชื้อตั้งแต่แรก สามารถใช้ชีวิตตามปกติ ซึ่งเกิดจากมาตรการควบคุมที่ได้มาตราฐานเป็นที่ยอมรับ

โดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศคัดกรอง ผู้เดินทางมาจากประเทศที่มีการระบาดของโรคตั้งแต่ 3 มกราคม 2563 ถือเป็นประเทศแรกที่เริ่มคัดกรองทุกสนามบินที่มีเที่ยวบินตรงมาจากเมืองที่มีการระบาด รวมถึงการรณรงค์ให้ประชาชนป้องกันตนเอง "กินร้อน ช้อนกลาง ล้างมือบ่อย ๆ และใส่หน้ากากอนามัย"

พร้อมแจ้งความร่วมมือไปยังทุกภาคส่วน รวมทั้งโรงพยาบาลทุกแห่ง ว่าหากมีผู้ป่วยด้วยอาการไข้ ไอ เจ็บคอ หายใจลำบาก และมีประวัติดเดินทางกลับจากประเทศเหล่านี้ให้นึกถึง โควิด-19

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0