แจ็ค หม่า หรือ หม่าอวิ๋น แห่งอาณาจักรอาลีบาบา ในฐานะประธานร่วมของคณะอภิปรายระดับสูงด้านความร่วมมือทางดิจิทัลของสหประชาชาติ กล่าวว่า การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ไม่ได้ทำให้แนวโน้มของการปฏิรูปเชิงเทคโนโลยี (technological transformation) เปลี่ยนแปลงไป แต่กลับช่วยเร่งการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีดิจิทัลให้เร็วยิ่งขึ้น
หม่ากล่าวเกี่ยวกับประเด็นนี้ระหว่างร่วมพิธีเปิดการประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก 2020 (WAIC) ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ทางตะวันออกของจีน ผ่านการประชุมเสมือนจริงด้วยการฉายภาพโฮโลแกรม เมื่อวันพฤหัสบดี (9 ก.ค.)
เขากล่าวย้อนไปถึงการประชุมในปี 2019 ว่าผู้เข้าร่วมงานได้โต้เถียงกันว่าเครื่องจักรจะสามารถทำงานแทนที่มนุษย์ได้จริงหรือไม่ รวมถึงอภิปรายถึงผลกระทบที่จะเกิดกับการจ้างงาน อย่างไรก็ตามประเด็นที่เร่งด่วนในปัจจุบันคือการทำให้เครื่องจักรสามารถทำงานแทนมนุษย์ในหลายๆ ตำแหน่งโดยเร็วที่สุด
“อย่างเช่นในพื้นที่ซึ่งเกิดการแพร่ระบาด เราควรพยายามเต็มที่เพื่อใช้เครื่องจักรแก้ปัญหาแทนมนุษย์” หม่ากล่าว
ปัจจุบันมีการใช้อัลกอริทึมเพื่อช่วยยกระดับประสิทธิภาพการวินิจฉัยโรคโควิด-19 หม่ากล่าวถึงประเด็นนี้ว่า “ปกติแพทย์ต้องใช้เวลาวิเคราะห์ภาพซีทีสแกนของผู้ป่วยต้องสงสัยราว 15-20 นาที แต่ตอนนี้เครื่องจักรสามารถทำงานเดียวกันได้ในเวลาเพียง 20 วินาที ทั้งยังมีประสิทธิภาพกว่าแพทย์ถึง 60 เท่า”
หม่าระบุว่ามนุษย์ต้องเตรียมการเพื่อเร่งการเปลี่ยนแปลงเชิงเทคโนโลยี เพราะประชาชนพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในการอยู่รอดช่วงที่เกิดการแพร่ระบาด และมีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ากับกิจกรรมในชีวิตประจำวันหลายประเภท ตั้งแต่การจัดประชุมไปจนถึงการพบแพทย์
หม่าเรียกร้องให้ทุกฝ่ายสร้างความสามัคคี ร่วมมือกันและมีความรับผิดชอบ ขณะเผชิญกับโรคโควิด-19 “เชื้อไวรัสไม่มีหนังสือเดินทาง และไม่รู้จักพรมแดน เทคโนโลยีไม่ควรถูกจำกัดด้วยพรมแดนเช่นกัน”
ทั้งนี้ การประชุมปัญญาประดิษฐ์โลก 2020 ซึ่งจัดขึ้นที่นครเซี่ยงไฮ้ ระหว่างวันที่ 9-11 ก.ค. ภายใต้หัวข้อ “เชื่อมต่ออัจฉริยะ ชุมชนเป็นหนึ่งเดียว” (Intelligent Connectivity, Indivisible Community) เป็นเวทีการหารือและติดต่อสื่อสารเกี่ยวกับเทคโนโลยีล้ำสมัย กระแสหลัก และหัวข้อสำคัญในภาคปัญญาประดิษฐ์
