เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ ประเทศไทย จับมือ ฮาวี เดินหน้าสร้างศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิที่ใหญ่ที่สุดของกลุ่มฮาวีในประเทศไทย ย่านบางพลีพร้อมเปิดเฟสแรกต้นปี 2563
นายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้เดินหน้าพัฒนาศูนย์กระจายสินค้าแบบควบคุมอุณหภูมิ (Cold Chain Warehouse) แห่งใหม่ เพื่อเป็นศูนย์กลางจัดเก็บและกระจายสินค้าประเภทอาหารที่ใหญ่ที่สุดของ ฮาวี (HAVI) ในประเทศไทย ตั้งอยู่บนทำเลยุทธศาสตร์สำคัญในพื้นที่บางพลี ด้วยการพัฒนาอาคารแบบสร้างตามความต้องการ หรือ Built-to-Suit บนพื้นที่ก่อสร้างรวมทั้งสิ้นกว่า 70,000 ตารางเมตร
สำหรับการพัฒนาเฟสแรกมีขนาดพื้นที่อาคารคลังสินค้ารวมทั้งสิ้น 30,000 ตารางเมตร ซึ่งอาคารแห่งนี้สามารถรองรับการจัดเก็บสินค้าได้มากกว่า 30,000 พาเลท ส่งผลให้สามารถบริหารจัดการและเพิ่มขีดความสามารถในการกระจายสินค้าได้ดียิ่งขึ้น
นอกจากนี้ ด้วยประสบการณ์ที่ผ่านมาในการพัฒนาคลังสินค้าควบคุมอุณหภูมิคุณภาพสูงของเฟรเซอร์สฯ ให้แก่ลูกค้าขนาดใหญ่จำนวนมากในประเทศไทย จะสามารถพัฒนาพื้นที่เก็บสินค้าภายในอาคารให้ตอบสนองการดำเนินงานที่เฉพาะเจาะจงของ ฮาวี ได้เป็นอย่างดี ทั้งในส่วนของพื้นที่จัดเก็บสินค้าแบบอุณหภูมิปกติ (Ambient Storage) แบบควบคุมอุณหภูมิ (Temperature Controlled Storage) แบบห้องเย็น (Cold Storage) และแบบแช่แข็ง (Frozen Storage) เพื่อการจัดเก็บที่เหมาะสมกับอาหารแต่ละประเภท และมีกำหนดเริ่มเปิดให้บริการในเฟสแรกได้ในไตรมาสที่ 1 ปี 2563
ทั้งนี้ เฟรเซอร์สฯ และ ฮาวี ได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยเป็นการทำสัญญาเช่าระยะยาว 19 ปี ซึ่งเฟรเซอร์สฯ จะนำความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาอาคารเพื่อการจัดเก็บสินค้าแบบหลากหลายอุณหภูมิ (Multi-temperature) และระบบออโตเมชั่นโซลูชั่นที่ครบวงจรมาใช้พัฒนาอาคารนี้ให้เป็นคลังสินค้า
อันทันสมัย และที่สำคัญพื้นที่บางพลีเป็นทำเลยุทธศาสตร์ที่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่งสำหรับการดำเนินงานของ ฮาวี ในการกระจายสินค้าอาหารและเครื่องดื่มไปยังเครือข่ายธุรกิจของลูกค้าทั่วประเทศ
นางสาวฐิติมา บัณฑราภิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮาวี ลอจิสติกส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ศูนย์กระจายสินค้าแห่งใหม่นี้จะเป็นศูนย์กลางในการจัดเก็บสินค้าประเภทอาหารของ ฮาวี ในประเทศไทย เพื่อกระจายไปสู่เครือข่ายของลูกค้าทั่วประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะช่วยให้รักษาอายุและคุณภาพของอาหารตั้งแต่ต้นทางจนถึงปลายทาง ตลอดจนการเสริมศักยภาพด้านโลจิสติกส์และลดค่าใช้จ่ายด้านซัพพลายเชนให้กับธุรกิจอาหาร
