นายสมพงษ์ รุ่งนิรัติศัย ประธานกรรมการบริหาร เทสโก้ โลตัส เปิดเผยว่า คาดการณ์กำลังซื้อผู้บริโภคใคภาพรวมธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทยมองว่าจะชะลอตัวอีกไม่ต่ำกว่า3 เดือนจากนี้ โดยบริษัทประเมินจากที่เกี่ยวข้องกับผู้บริโภคด้านสินค้าอุปโภค-บริโภค ซึ่งเป็นสินค้าจำเป็นและมีการซื้อซ้ำของผู้บริโภค
ขณะที่ ต้องจับตาอุตสาหกรรมอื่นๆที่มีการฟื้นตัวจากสถานการณ์โควิด-19 ได้ช้า อาทิ ท่องเที่ยว, โรงแรม, สายการบิน ว่าจะสามารถกลับมาสู่สภาวะปกติได้เมื่อใด เนื่องจากกลุ่มดังกล่าวที่ฟื้นตัวช้าก็อาจส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อผู้บริโภคต่อเนื่องเป็นลูกโซ่ได้
สำหรับ ปี2563 เป็นปีที่ท้าทาย ซึ่งธุรกิจค้าปลีกที่โฟกัสผู้บริโภคในประเทศ กับ ที่โฟกัสผู้บริโภคกลุ่มนักท่องเที่ยว อาจมีระยะเวลาการฟื้นตัวที่แตกต่างกันซึ่งค้าปลีกที่โฟกัสกลุ่มนักท่องเที่ยวอาจจะใช้ระยะเวลาฟื้นตัวยาวนานกว่า ซึ่งมองว่าในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะมีทิศทางแนวโน้มของธุรกิจค้าปลีกที่ดีขึ้น
อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อแผนการดำเนินงานของเทสโก้ โลตัส ในปีงบประมาณ2563 (มี.ค. 2563 - เม.ย. 2564) เนื่องจากเริ่มต้นเปิดปีงบฯ มาก็ได้รับผลกระทบในทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ท้าทายบริษัททั้งในด้านยอดขาย และกำไร ทำให้ต้องมีการทบทวนแผนการดำเนินงาน และ งบการเงิน ทั้งหมด
ทั้งนี้ นับตั้งแต่เกิดสถานการณ์โควิด-19 เทสโก้ โลตัส ได้รับลกระทบทั้งในเชิงบวกและเชิงลบ โดยเชิงบวกคือในช่วงที่ผู้บริโภคมาซื้อสินค้าเพื่อกักตุนในช่วงแรก ซึ่งมีระยะเวลาที่เป็นบวกอยู่เพียง2-3 วันเท่านั้น หลังจากนั้นที่มีมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโดยให้ห้างสรรพสินค้าปิดให้บริการแต่สามารถเปิดให้บริการได้เพียงบางส่วนที่ได้รับอนุญาตนั้น ค่อนข้างได้รับผลกระทบหนัก จาก ร้านค้าเช่าส่วนใหญ่ปิด และมีจำนวนผู้เข้าใช้บริการในซูเปอร์มาร์เก็ตลดลง
ล่าสุดที่มีมาตรการผ่อนคลายระยะที่2 มีร้านค้าเช่าเริ่มกลับมาเปิดให้บริการแล้วกว่า80% แต่ยังมีบางธุรกิจที่ยังคงล็อกดาวน์อยู่ แต่กระนั้นถึงแม้จะกลับมาให้เปิดบริการได้ ธุรกิจร้านอาหารยังมียอดขายกลับมาไม่ถึงครึ่งหนึ่งเมื่อเทียบกับที่ผ่านมา โดยเชื่อว่าขณะนี้อยู่ในภาวะปรับตัวซึ่งหลังจากนี้ทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตและร้านค้าต่างๆจะมีผู้ใช้บริการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขผู้ติดเชื้อที่ลดลงส่งผลให้ผู้บริโภคเริ่มคลายกังวล
นายสมพงษ์ กล่าวว่า เทสโก้ โลตัสได้ปรับตัวรับวิถีชีวิตใหม่(New Normal) และรับกับความกังวลของผู้บริโภคให้ได้มากที่สุด ซึ่งจากข้อมูลระบุว่า3 ด้านที่ผู้บริโภคกังวลมากที่สุดขณะนี้ คือ 1.ค่าครองชีพที่สูง (57%) 2.สุขภาพ (55%) และ 3.อาชีพ (42%) ซึ่งบทบาทของเราคือการทำอย่างไรให้ลดความกังวลในสิ่งที่ผู้บริโภคกังวลให้ได้มากที่สุด
นอกจากนี้ ในช่วงโควิด-19 ยอดขายในด้านออนไลน์ของเทสโก้ โลตัส มีอัตราเติบโตขึ้น3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงปกติ จากพฤติกรรมผู้บริโภคที่ปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์
สำหรับแผนการลงทุนปี2563 ยังเดินหน้าลงทุนขยายสาขาตามแผนที่วางไว้ อาทิ เปิดเทสโก้ โลตัส สาขาขนาดใหญ่(ไฮเปอร์ มาร์เก็ต) ขนาด3,000-4,000 ตร.ม. จำนวน4 สาขา, เปิดเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส จำนวน150 สาขา โดยตามแผนการขยายสาขาของเทสโก้ โลตัส เอ็กซ์เพรส3 ปี ที่จะขยายสาขาให้ได้750 แห่ง นั้นยังคงอยู่ในแผนที่วางไว้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เทสโก้ โลตัส ประกาศ 4 มาตรการ รับวิถีใหม่แห่งการช้อปปิ้งหลังโควิด-19
