โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘เทคโนโลยีจดจำใบหน้า’ ระบาดทั่วอังกฤษ อาจเกิดวิกฤตรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

The Momentum

อัพเดต 18 ส.ค. 2562 เวลา 03.30 น. • เผยแพร่ 18 ส.ค. 2562 เวลา 03.30 น. • THE MOMENTUM TEAM

ช่วงเวลาที่ผ่านมา ‘เทคโนโลยีจดจำใบหน้า’ หรือ Facial Recognition ระบาดไปทั่วทั้งเกาะอังกฤษ โดยเฉพาะในพื้นที่สาธารณะ อย่างศูนย์การค้าหรือแม้แต่พิพิธภัณฑ์ต่างๆ และความตระหนกยิ่งแพร่กระจายหลังการเปิดเผยว่ามีการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าบริเวณสถานีรถไฟคิงส์ครอสในกรุงลอนดอนที่มีผู้คนสัญจรไปมาไม่ต่ำกว่าแสนคนต่อวัน

Big Brother Watch องค์กรเอกชนไม่แสวงหาผลกำไร (NGO) ด้านสิทธิมนุษยชนในอังกฤษ เผยว่าบริษัทเอกชนอื่นๆ นอกเหนือจากผู้บริหารคิงส์ครอสก็ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าเช่นกัน ซึ่งหมายรวมถึงศูนย์การค้า Meadowhall ในเชฟฟิลด์ World Museum ในลิเวอร์พูล รวมถึงศูนย์การประชุม Millennium Point ในเบอร์มิงแฮม 

ทั้งที่ในปีก่อนศูนย์การค้า Trafford Centre ในแมนเชสเตอร์ถูกกดดันให้หยุดใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้า หลังถูกกลุ่มเฝ้าสังเกตกว่า 6 เดือนจับได้ โดยคดีกำลังอยู่ระหว่างการการพิจารณาของศาล และสำนักงานข้อมูลข้าราชการกำลังตรวจสอบข้อมูลที่อาจจะเกี่ยวข้องกับการละเมิดกฎหมายความเป็นส่วนตัว

Silkie Carlo ผู้อำนวยการ Big Brother Watch กล่าวว่า เทคโนโลยีจดจำใบหน้ากำลังแพร่ระบาดไปทั่วสหราชอาณาจักร โดยเป็นการสมรู้ร่วมคิดระหว่างตำรวจและบริษัทเอกชนในการสร้างเครือข่ายเฝ้าระวัง โดยการจดจำใบหน้าเป็นเครื่องมือการกดขี่ที่ถูกใช้อย่างแพร่หลายและเป็นตัวบ่งชี้ว่าเราทั้งหมดเผชิญหน้ากับวิกฤตการณ์การรุกล้ำความเป็นส่วนตัว

“รัฐสภาอังกฤษจะต้องเดินตามรอยเท้าของนิติบัญญัติสหรัฐอเมริกาและห้ามไม่ให้มีการเฝ้าติดตามโดยไม่ได้รับอนุญาตในพื้นที่สาธารณะอย่างเร่งด่วน”

ด้านโฆษกของ British Land ผู้บริหารศูนย์การค้า Meadowhall เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าในพื้นที่ใดๆ ของศูนย์การค้า แต่ยอมรับว่าในช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมาบริษัททำการทดลองสั้นๆ ร่วมกับตำรวจและข้อมูลทั้งหมดจะถูกลบทันทีหลังจากการพิจารณาคดีเสร็จสิ้น

ฟากพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติลิเวอร์พูล อธิบายว่า เทคโนโลยีจดจำใบหน้าถูกใช้ชั่วคราวในปี 2018 เท่านั้น และเป็นการใช้กล้องวงจรปิดภายในสถานที่เพื่อตรวจจับและป้องกันอาชญากรรมในช่วงที่มีความเสี่ยงก่อการร้ายสูง หลังจากนั้นพิพิธภัณฑ์ไม่ได้นำมาใช้งานอีกต่อไป โดยหากมีการใช้งานเทคโนโลยีที่คล้ายคลึงกันอีกในอนาคตจะเป็นไปตามขั้นตอนการปฏิบัติงานมาตรฐานต่อไป 

เช่นเดียวกับที่เจ้าของการประชุม Millennium Point อธิบายว่าจำเป็นที่จะต้องใช้ซอฟต์แวร์จดจำใบหน้าตามคำร้องขอของหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย โดยซอฟแวร์จะพยายามระบุตัวบุคคลตามลักษณะทางกายภาพต่างๆ เช่นข้อมูลไบโอเมตริกซ์และอาจนำไปสู่การสืบสวนคดีอาชญากรรมหรืออื่นๆ 

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีการจดจำใบหน้าไม่ได้อยู่ภายใต้กฎหมายเฉพาะของสหราชอาณาจักร ทำให้บริษัทเอกชนหรือใครก็ตามสามารถใช้งานเทคโนโลยีจดจำใบหน้าได้โดยไม่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะหรือแจ้งเจ้าหน้าที่ อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้อยู่ภายใต้ควบคุมของกฎหมายความเป็นส่วนตัวและพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลซึ่งให้สิทธิผู้ใช้ทุกคนรับทราบข้อมูลการเก็บและใช้ภาพของพวกเขา

ด้าน Elizabeth Denham ผู้บัญชาการข้อมูล สำนักงานข้อมูลข้าราชการแห่งสหราชอาณาจักร กล่าวหลังการเปิดเผยข้อมูลการเก็บใบหน้าในสถานีคิงส์ครอสว่า การสแกนใบหน้าผู้คนที่กำลังทำกิจวัตรประจำวันเป็นภัยคุกคามความเป็นส่วนตัวของทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อทำโดยไม่มีใครรู้หรือเข้าใจ พร้อมเปิดเผยว่ามีความกังวลอย่างมากในการใช้เทคโนโลยีจดจำใบหน้าที่เพิ่มขึ้นในหมู่หน่วยงานของรัฐและเอกชน

“ฉันไม่ลังเลที่จะใช้อำนาจในการตรวจสอบและลงโทษการละเมิดข้อมูลและกฎหมายความเป็นส่วนตัว เพื่อปกป้องสิทธิ์ตามกฎหมายของผู้คน”

ขณะเดียวกัน ซาดิก ข่าน (Sadiq Khan) นายกเทศมนตรีกรุงลอนดอนได้เขียนจดหมายถึงผู้บริหารคิงส์ครอสเซ็นทรัลเพื่อขอข้อมูลและแสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าว เช่นเดียวกับที่เมื่อเดือนที่แล้วคณะกรรมการวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ควรยุติการทดลองเทคโนโลยีจดจำใบหน้าจนกว่าจะมีการกำหนดกรอบทางกฎหมาย 

ทั้งนี้ Privacy International องค์กรการกุศลด้านสิทธิความเป็นส่วนตัวได้จัดอันดับความเป็นส่วนตัวของประเทศต่างๆ 49 ประเทศทั่วโลกเอาไว้ โดยประเทศที่มีดัชนีความเป็นส่วนตัวสูงสุด 5 อันดับ ได้แก่ กรีซ แคนาดา โรมาเนีย ฮังการี อาร์เจนตินา ส่วนสหราชอาณาจักรนั้นอยู่ใน 5 อันดับท้ายตาราง เนื่องจากยังขาดกฎหมายคุ้มครองความเป็นส่วนตัวที่มีประสิทธิภาพ จำนวนกล้องวงจรปิด และการจับตาในด้านต่างๆ

ที่มา

https://www.independent.co.uk/news/uk/home-news/facial-recognition-kings-cross-shopping-centres-law-epidemic-privacy-a9062956.html

https://bestvpn.org/countries-ranked-by-privacy/

ภาพ: REUTERS/Hannah McKay

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0