โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘อังกฤษ’จะเจอทั้งขาดแคลนอาหาร, น้ำมันเชื้อเพลิง, และยา ถ้า‘เบร็กซิต’แบบ‘โนดีล’ สื่อรายงานโดยอ้างรายงานลับรัฐบาล

Manager Online

เผยแพร่ 18 ส.ค. 2562 เวลา 16.55 น. • MGR Online

รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – อังกฤษจะเผชิญการขาดแคลนน้ำมันเชื้อเพลิง, อาหาร, และยารักษาโรค ถ้าหากถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปแบบไม่มีข้อตกลงระยะเปลี่ยนผ่าน ทั้งนี้ตามเอกสารทางการที่รั่วไหลออกมาและหนังสือพิมพ์ซันเดย์ไทมส์ฉบับวันนี้ (18 ส.ค.) นำไปตีพิมพ์เผยแพร่ ทว่าถูกรัฐมนตรีหลายรายทักท้วงในเรื่องการตีความสถานการณ์

ในรายงานข่าวของไทมส์แห่งลอนดอนฉบับวันอาทิตย์ ซึ่งบรรยายให้เห็นภาพของท่าเรือที่เต็มไปด้วยความแออัด, การประท้วงแสดงความไม่พอใจของสาธารณชน, และการติดขัดยุ่งเหยิงที่กระจายตัวกว้างขวาง หนังสือพิมพ์นี้กล่าวว่าคำทำนายซึ่งรวบรวมขึ้นโดยสำนักงานคณะรัฐมนตรีของอังกฤษนี้ เป็นการพรรณนาถึงภาวะอาฟเตอร์ช็อคที่มีโอกาสเกิดขึ้นมากที่สุดจากเบร็กซิตแบบโนดีล แทนที่จะระบุว่าเป็นฉากทัศน์สมมุติสถานการณ์แบบเลวร้ายที่สุด

ทว่า ไมเคิล โกฟ ซึ่งเป็นรัฐมนตรีที่รับผิดชอบการประสานงานเตรียมพร้อมรับมือการออกจากอียูแบบโนดีล ในยุคนายกรัฐมนตรีเทเรซา เมย์ ได้ออกมาแถลงท้าทายรายงานของซันเดย์ไทมส์ โดยยืนยันว่าเอกสารดังกล่าวบรรยายถึงฉากทัศน์สมมุติสถานการณ์แบบเลวร้ายที่สุด และในความเป็นจริงก็ได้มีการเร่งรัดวางแผนรับมือไปเป็นจำนวนมากแล้วในระยะ 3 สัปดาห์สุดท้าย

ตามรายงานของซันเดย์ไทมส์บอกว่า จำนวนรถบรรทุกอาจจะสูงถึง 85% ทีเดียว ซึ่งกำลังใช้งานอยู่ในเส้นทางหลักของการข้ามช่องแคบ (ช่องแคบระหว่างฝั่งฝรั่งเศสของทวีปยุโรปกับเกาะอังกฤษ) “อาจจะไม่พร้อม” สำหรับผ่านการตรวจของด่านศุลกากรฝรั่งเศส นี่หมายความว่าภาวะติดขัดยุ่งยากมีความเป็นไปได้ที่จะยืดเยื้อไปถึง 3 เดือนก่อนที่การไหลเวียนของการสัญจรจะกระเตื้องขึ้น

รัฐบาลยังเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ที่จะต้องมีการจัดตั้งด่านพรมแดนจริงๆ ระหว่างดินแดนไอร์แลนด์เหนือของอังกฤษ กับสาธารณรัฐไอร์แลนด์ซึ่งยังคงเป็นสมาชิกของอียู เนื่องจากแผนการปัจจุบันที่มุ่งจะหลีกเลี่ยงไม่ให้มีการตรวจตรากันอย่างยุ่งยากกว้างขวางนั้น ทำท่าจะไม่ได้รับการสนับสนุน ข่าวของซันเดย์ไทมส์ระบุ

“สำนักงานคณะรัฐมนตรีได้รวบรวมเอกสารนี้ขึ้นมาในเดือนนี้ โดยใช้ชื่อรหัสว่า การปฏิบัติการค้อนสีเหลือง (Operation Yellowhammer) เอกสารซึ่งอยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูลข่าวสารหลายๆ เรื่องชิ้นนี้ เสนอภาพกว้างๆ อันหาได้ยาก เกี่ยวกับการวางแผนอย่างลับๆ ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการอยู่ เพื่อไม่ให้เกิดการพังครืนถึงขั้นสร้างความหายนะในโครงสร้างพื้นฐานของประเทศชาติ” ซันเดย์ไทมส์ บอก

ทางด้านโกฟ ซึ่งได้เขียนทวิตตอบผู้เขียนคนหนึ่งในทีมเขียนข่าวชิ้นนี้ของซันเดย์ไทมส์ ยืนยันว่า เยลโลแฮมเมอร์ เป็นฉากทัศน์สมมุติสถานการณ์แบบเลวร้ายที่สุด โดยที่ในความเป็นจริงแล้ว ช่วง 3 สัปดาห์สุดท้ายที่ผ่านมาได้มีการเร่งรัดวางแผนเรื่องเบร็กซิตเพิ่มขึ้นมาก

สำหรับสำนักงานของ บอรัส จอห์นสัน นายกรัฐมนตรีอังกฤษคนปัจจุบัน แถลงว่าไม่ขอแสดงความเห็นเกี่ยวกับเอกสารที่ถูกปล่อยรั่วไหลออกมา

ขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลรายหนึ่งซึ่งขอไม่ให้ระบุชื่อ ประณามการรั่วไหลคราวนี้ว่าเป็นฝีมือของอดีตรัฐมนตรีผู้หนึ่งซึ่งต้องการมีอิทธิพลเหนือการเจรจาที่อังกฤษจะทำกับอียู

ก่อนหน้านี้ เมื่อถูกถามถึงเอกสารเยลโลว์แฮมเมอร์ รัฐมนตรีพลังงานคนปัจจุบัน ควาซี ควาร์เตง บอกกับข่าวทีวีสกายนิวส์ว่า เวลานี้มีการปล่อยข่าวสร้างความหวาดกลัวไปทั่ว แต่อังกฤษจะเตรียมพร้อมอย่างเต็มที่แน่นอนหากจำเป็นต้องออกจากอียูแบบโนดีลในวันที่ 31 ตุลาคม

ทั้งนี้ อังกฤษกำลังมุ่งเดินหน้าสู่วิกฤตการณ์รัฐธรรมนูญภายในประเทศ และการเผชิญหน้ากับอียู จากการที่นายกฯจอห์นสันประกาศลั่นซ้ำแล้วซ้ำอีกว่า ไม่ยอมรับข้อตกลงเบร็กซิตที่นายกฯเมย์ทำไว้กับอียูตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว ทว่าถูกสภาอังกฤษปฏิเสธไม่รับถึง 3 ครั้ง และจะถอนตัวจากยุโรปในวันที่ 31 ตุลาคม แม้ไม่มีข้อตกลงใดๆ พร้อมกับเรียกร้องให้อียูเปิดการเจรจาอีกครั้งกับอังกฤษเพื่อทำข้อตกลงฉบับใหม่

ทางฝ่ายอียูนั้นไม่ได้แสดงอาการจะยอมตาม โดยที่เห็นกันว่าฝ่ายยุโรปเล็งว่า รัฐสภาอังกฤษซึ่งเคยผ่านมติไม่ยอมรับเบร็กซิตแบบโนดีล จะออกมาขัดขวางไม่ให้จอห์นสันเดินหน้าไปตามเส้นทางที่เขาประกาศไว้

เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา สมาชิกสภากลุ่มหนึ่งจำนวนกว่า 100 คนได้ทำจดหมายถึงจอห์นสัน เรียกร้องให้เปิดประชุมฉุกเฉินรัฐสภาที่กำลังหยุดพักฤดูร้อนกันอยู่ เพื่ออภิปรายถึงสถานการณ์อันน่าวิตกกังวลนี้

“เรากำลังเผชิญภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ และตอนนี้จะต้องเรียกประชุมรัฐสภาขึ้นมาใหม่ในเดือนสิงหาคม และนั่งประชุมกันอย่างถาวรไปจนกระทั่งถึงวันที่ 31 ตุลาคม เพื่อที่ว่าปากเสียงของประชาชนจะได้เป็นที่รับฟังกัน และจะได้สามารถตรวจสอบรัฐบาลของท่านอย่างถูกต้องเหมาะสม” เนื้อหาในจดหมายระบุ

นักวิเคราะห์มองกันว่า ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่า พวกสมาชิกรัฐสภาจะมีความสามัคคีกันเพียงพอ หรือกระทั่งมีอำนาจหรือไม่ ในการอาศัยรัฐสภาเพื่อป้องกันการออกจากอียูแบบโนดีล

สำหรับตัวจอห์นสันนั้นมีกำหนดเดินทางไปเยือนยุโรปสัปดาห์นี้ โดยที่เขาเตรียมไปบอกกับประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง ของฝรั่งเศส และนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนีว่า รัฐสภาอังกฤษจะไม่สามารถหยุดยั้งเบร็กซิตได้ และอียูจะต้องยินยอมเห็นพ้องทำข้อตกลงใหม่ ถ้าหากจะหลีกเลี่ยงเบร็กซิตแบบโนดีล

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0