โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

‘หนึ่งหมู่บ้าน สองประเทศ’ ต้นแบบการท่องเที่ยวสุดรุ่งเรืองของ ‘จีน-เมียนมา’

Xinhua

เผยแพร่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 10.13 น.
‘หนึ่งหมู่บ้าน สองประเทศ’ ต้นแบบการท่องเที่ยวสุดรุ่งเรืองของ ‘จีน-เมียนมา’

คุนหมิง, 20 ม.ค. (ซินหัว) -- อุณหภูมิที่ติดลบในพื้นที่ทางตอนเหนือของจีนทำให้นักท่องเที่ยวชาวจีนจำนวนมากนิยมเดินทางมาเยือนเมืองรุ่ยลี่ ในมณฑลอวิ๋นหนาน (ยูนนาน) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน เพื่อหลบลมหนาวในฤดูกาลอันเย็นยะเยือก

เมืองรุ่ยลี่ที่มีพรมแดนติดกับตำบลมูเซของเมียนมา เริ่มเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวในช่วงใกล้เทศกาลตรุษจีน เพราะมีสภาพภูมิอากาศกึ่งเขตร้อนอันแสนอบอุ่น ทั้งยังมีทิวทัศน์ธรรมชาติงดงาม รวมถึงเอกลักษณ์ของพหุวัฒนธรรม จากหลากหลายกลุ่มชาติพันธุ์

แหล่งท่องเที่ยวโด่งดังของรุ่ยลี่ประกอบด้วย ตลาดหยก สวนป่าฝนเขตร้อนโม่หลี่ ประตูชายแดนเจี่ยก้าว และหมู่บ้านแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ระหว่างชายแดนจีนและเมียนมา

เส้นกั้นแบ่งชายแดนมักเป็นรั้วไผ่ ร่อง หรือเส้นสีเหลืองซึ่งขีดลงบนถนนอย่างง่ายๆ หมู่บ้านทางฝั่งจีนมีชื่อว่า "อิ๋นจิ่ง" ขณะที่ฝั่งเมียนมามีชื่อว่า "มางชิว" (Mangxiu) โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ชองหมู่บ้านมีเชื้อสายกลุ่มชาติพันธุ์ไท
หมู่บ้านแห่งนี้กลายเป็นจุดชมวิวยอดนิยมที่มีชื่อเรียกว่า "หนึ่งหมู่บ้าน สองประเทศ" ตลอดหลายปีที่ผ่านมา นักท่องเที่ยวมักชื่นชอบการถ่ายภาพกับป้ายและบ่อน้ำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์การแบ่งเขตแดนระหว่างหมู่บ้านทั้งสอง พวกเขายังสนุกสนานกับการแสดงระบำดั้งเดิมของนักแสดงชาวเมียนมาอีกด้วย

จางอวี้ นักท่องเที่ยวชาวจีนจากมณฑลเจียงซีทางตะวันออกของจีน กล่าวว่าเขาประทับใจชิงช้าของหมู่บ้านมากที่สุด เนื่องจากนักท่องเที่ยวสามารถแกว่งชิงช้าไปมาระหว่างสองประเทศได้

"ผมชื่นชอบการแสดงของเมียนมา และยังซื้องานฝีมือของเมียนมาอีกด้วย หมู่บ้านแห่งนี้ทำให้ผมได้เรียนรู้วัฒนธรรมของพวกเขา”

หานเฟิง ผู้จัดการทั่วไปประจำจุดท่องเที่ยวกล่าวว่า "หนึ่งหมู่บ้าน สองประเทศ" ต้อนรับนักท่องเที่ยวมากกว่า 700,000 คนในปี 2019 อีกทั้งมีจำนวนนักท่องเที่ยวเมียนมาเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

สำนักงานวัฒนธรรมและการท่องเที่ยวเทศบาลเมืองรุ่ยลี่เปิดเผยว่า นักท่องเที่ยวจากทั้งในและต่างประเทศมากกว่า 6.7 ล้านคนเดินทางเยือนเมืองรุ่ยลี่ในปี 2019 เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.7 จากปี 2018 เห็นได้ว่าการท่องเที่ยวชายแดนช่วยพัมนาเมืองระดับอำเภอแห่งนี้อย่างมาก

หลุนจิง ไกด์นำเที่ยวจากบริษัทตัวแทนท่องเที่ยวซึ่งตั้งอยู่ในรุ่ยลี่ระบุว่า “นอกจากโปรแกรมทัวร์ต่างๆ ในรุ่ยลี่แล้ว เส้นทางการท่องเที่ยว 1 หนึ่งวันระหว่างรุ่ยลี่-เมียนมาก็ได้รับความนิยมในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา”

หลุนเสริมว่าค่าใช้จ่ายสำหรับทัวร์ท่องเที่ยวตำบลมูเซอยู่ที่ราว 300 หยวน (ประมาณ 1,300 บาท) โดยจะนำนักท่องเที่ยวเยี่ยมชมวัดและเจดีย์ทางพุทธศาสนาเก่าแก่ในเมียนมา จับจ่ายสินค้าขึ้นชื่อของเมียนมา และซื้อสินค้าหัตถกรรมดั้งเดิมจากตลาดท้องถิ่น

“ในฤดูกาลท่องเที่ยว มีนักท่องเที่ยวชาวจีนประมาณ 2,000 คนลงทะเบียนเข้าร่วมทัวร์ท่องเที่ยวมูเซกับบริษัทของเราในแต่ละเดือน หลายคนบอกว่าคงน่าเสียดายหากพวกเขามาถึงรุ่ยลี่แล้วแต่ไม่ได้ไปเยือนมูเซ"

ข้อมูลทางการเปิดเผยว่าในปี 2019 มีนักท่องเที่ยวมากกว่า 50,000 คนเข้าร่วมทัวร์รุ่ยลี่-เมียนมาแบบ 1 วัน เพิ่มขึ้นจากปีก่อนหน้าถึงร้อยละ 23.9

หยางจิน ผู้อำนวยการสำนักงานฯ กล่าวว่า รุ่ยลี่จะเดินหน้ายกระดับการท่องเที่ยวชายแดนต่อไป พร้อมขยายเส้นทางการท่องเที่ยวข้ามพรมแดน อาทิ เส้นทางสำหรับขับรถเที่ยวด้วยตนเอง และทัวร์เที่ยวเมียนมาแบบหลายวัน
หยางกล่าวเสริมว่า "การท่องเที่ยวชายแดนช่วยเสริมสร้างการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม รวมถึงการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมของจีนและเมียนมา ทั้งยังช่วยสานสัมพันธ์ของผู้คนจากสองประเทศให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0