โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

อ่านก่อนตัดสินใจ ...สำรวจราคาเป้าหมาย CV ราคาหุ้นไม่ไปไหน ซื้อได้หรือเปล่า ?

Wealthy Thai

อัพเดต 09 ส.ค. 2566 เวลา 18.30 น. • เผยแพร่ 02 ก.ย 2564 เวลา 13.48 น. • This’s Alano

บริษัท โคลเวอร์ เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ CV ผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน และผู้ให้บริการด้านงานวิศวกรรมแบบครบวงจร โดยมีความเชี่ยวชาญมากกว่า 15 ปี เข้าเทรดวันแรก ทำราคาเปิดการซื้อขายที่ระดับเพิ่มขึ้นเพียง 1.54%จากราคาไอพีโอหุ้นละ 3.90 บาท
โดย Wealthy Thai จะพานักลงทุนมาหาคำตอบกันว่า CV จะมีความน่าสนใจแค่ไหน และจากราคาหุ้นที่เคลื่อนไหวในระดับที่ไม่ต่างจากราคา IPO มากนัก อาจจะเป็นโอกาสเข้าสะสมหรือไม่ โดยเราได้รวมรวมความเห็นจากนักวิเคราะห์ชั้นนำมาฝากนักลงทุนแล้ว
มุมมองของนักวิเคราะห์บริษัท หลักทรัพย์ คันทรี่ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 65 ที่ 5.60 บาทต่อหุ้น เพื่อสะท้อนผลประกอบการที่มีความสม่ำเสมอต่อเนื่องในระยะยาวตามอายุสัญญาซื้อขายไฟฟ้า 20 ปี และสมมุติฐานกำลังการผลิตติดตั้งเพิ่มขึ้นที่ 73.36 เมกะวัตต์ในปี 2566 จาก 26.20 เมกะวัตต์ในปี 2563 ซึ่งประเมินว่าในปี 2564-66 คาดกำไรสุทธิเติบโตราว 27% ต่อปี (CAGR)
ขณะที่มุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คาดปี 2564 จะมีกำไรสุทธิ 218 ล้านบาท จากการรับรู้ผลการดำเนินงานของ โรงไฟฟ้า RTB และ CPX ที่เริ่มเปิดดำเนินงานตั้งแต่ 16 ก.ค. 2563 และ 30 ต.ค. 2563 ตามลำดับ
และคาดจะเติบโตต่อเนื่องในปี 2565 จากการเปิดดำเนินงานของโรงงานแปรรูปขยะ RDF และ โรงไฟฟ้าก๊าซธรรมชาติขนาดเล็กกำลังการผลิต 7.36 MW และโอกาสในการรับงานวิศวกรรม เพิ่มขึ้น ประเมินมูลค่าเหมาะสม 5.00 บาท อิง EPS ปี’65 และระดับ P/E 20 เท่า ใกล้เคียงกับ ค่าเฉลี่ย P/E ของบริษัทที่ประกอบธุรกิจใกล้เคียงกัน
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเป้าหมายที่ 4.80 บาท โดยปัจจุบันมีโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้วตามสัดส่วนการถือหุ้นราว 17 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการเจรจาทั้งในและต่างประเทศอีกราว 43 เมกะวัตต์ คาดได้ข้อสรุปภายในปี 64 โดยประเมินกำไรสุทธิปี 2564 ที่ 198 ล้านบาท และปี 2565 ที่ 302 ล้านบาท เติบโตเฉลี่ย 18% ต่อปี
ส่วนมุมมองของนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ประเมินเป้าหมาย 5 บาท โดยแนวโน้มกำไรเติบโตสูงถึง 29% (CAGR) ในปี 2564-66 จากปี 2564 คาดอยู่ที่ 142 ล้านบาท และเพิ่มเป็น 239 ล้านบาทในปี 65 หลังจากนั้นปี 2566 คาดจะเพิ่มมาอยู่ที่ 304 ล้านบาท ซึ่งถือว่าเป็นการเติบโตที่โดดเด่นเทียบกับกลุ่ม โรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนในปัจจุบัน
โดยได้แรงหนุนจากเปิดดําเนินการเต็มปีครบทุกโครงการโรงไฟฟ้า และต้นทุนค่าเชื้อเพลิงที่ลดลง มีการ เปิดโรง RDF ในไตรมาส 4/ 64 เพื่อผลิตเชื้อเพลิง RDF ป้อนเข้าโรงไฟฟ้าพลงงานขยะของตัวเองและขายออกให้กับลูกค้าโรงไฟฟ้าขยะอื่น ๆ รวมทั้งยังมี Backlog งาน EPC ที่รอรับรู้สูงถึง 345 ล้านบาทในช่วงไตรมาส 2/64-2565 และโอกาสการได้งาน EPC จากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเชื้อเพลิงชีวมวล เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ซึ่งจะทำให้ Backlog ยังแข็งแกร่งต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ในภาวะที่สดใสของอุตสาหกรรมพลังงานทดแทน ทำให้ CV มีโอกาสได้งานบริการ EPCที่คาดว่าจะมีโครงการออกมาในอนาคตอีก 3,000 – 4,000 ล้านบาท และเป็น Potential upside ของกำไรในอนาคต อีกทั้ง บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างเจรจาเข้าซื้อโครงการทั้งในประเทศ และต่างประเทศอีกราว 65 เมกะวัตต์ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปี 2564 และเป็นแรงหนุนราคาหุ้นได้อีก
ด้านนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ประเมินราคาเป้าหมายพื้นฐานที่ 4.62 บาท ซึ่งราคาเป้าหมาย ดังกล่าวได้รวมมูลค่าของการเข้าซื้อโรงไฟฟ้าใหม่ขนาดรวม 55 MW อีก 2.75 บาทต่อหุ้น แนะนำ “ซื้อ”
อย่างไรก็ตามมุมมองของบริษัท หลักทรัพย์ ทิสโก้ จำกัด บอกว่า ราคา IPO ของ CV สูงกว่ามูลค่าที่เหมาะสมของเราเล็กน้อยที่ P/E สำหรับปี 2022F ที่ 28 เท่า ( เทียบกับกลุ่มบริษัทที่มีลักษณะการดำเนินงาน และขนาดใกล้เคียงกันทั้งใน ) แม้บริษัทจะมีแนวโน้มการเติบโตดีจากแผนการลงทุนทั้งการเข้าซื้อโรงไฟฟ้า และการเข้าร่วมประมูลในปีนี้ แต่หลายโครงการยังต้องรอผลการประมูลที่ชัดเจนอยู่ (หากประมูลได้ยังต้องใช้เวลาก่อสร้างอย่างน้อย 1-2 ปีถึงจะสามารถเริ่มดำเนินการได้) ประกอบกับรายได้ส่วนใหญ่ในขณะนี้ยังอยู่ที่ธุรกิจงาน EPC ซึ่งมีมาร์จิ้นต่ำ
อย่างไรก็ตาม เราคาดจะเห็นผลการดำเนินงานของ CV ดีขึ้นอย่างมากในช่วงปี 66หลังโรงไฟฟ้าชีวมวลในประเทศญี่ปุ่นดำเนินการแล้ว โดยคาดจะทำให้รายได้จากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัว (เป้าของบริษัทที่ 180 เมกะวัตต์ในปี 66โดยรวมทั้งที่ดำเนินการแล้วและอยู่ระหว่างก่อสร้าง) ช่วยหนุนอัตรากำไร (จากอัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนที่สูง 22-25%) และสร้างการเติบโตในระยะยาว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0