โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

‘สีจิ้นผิง’ กร้าว!! ใครคิดแบ่งแยกดินแดนจีนจะถูกขยี้ ‘แหลกเป็นจุณ’

Manager Online

เผยแพร่ 14 ต.ค. 2562 เวลา 06.29 น. • MGR Online

เอเอฟพี - ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ของจีนออกมาเตือนว่าผู้ใดก็ตามที่คิดแบ่งแยกดินแดนจีนจะต้องถูก “บดขยี้จนเป็นผุยผง” คล้ายจะเป็นการส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ประท้วงฮ่องกงซึ่งก่อการจลาจลต่อต้านรัฐมานานถึง 4 เดือน

เมื่อวานนี้ (13 ต.ค.) กระทรวงการต่างประเทศจีนได้เผยแพร่คำแถลงของ สี ขณะไปเยือนเนปาลเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยผู้นำแดนมังกรกล่าวว่า “ใครก็ตามที่พยายามแบ่งแยกดินแดนส่วนหนึ่งส่วนใดของจีนจะต้องพินาศย่อยยับ ร่างกายและกระดูกของพวกเขาจะถูกบดขยี้จนเป็นผุยผง”

“พลังภายนอกที่สนับสนุนการแยกดินแดนจีนเป็นเพียงแค่ภาพมายาในสายตาชาวจีนเท่านั้น”

แม้ สี จะไม่ได้ระบุชัดว่าหมายถึงภูมิภาคใด แต่ก็เป็นที่คาดเดาได้จากสถานการณ์ความรุนแรงระหว่างตำรวจกับผู้ประท้วงฮ่องกงในวันอาทิตย์ (13) รวมไปถึงความตึงเครียดกับไต้หวันที่ร้อนระอุขึ้นทุกขณะ

ผู้ประท้วงได้จัดการชุมนุมเคลื่อนไหวในหลายพื้นที่ของเกาะฮ่องกง โดยบางกลุ่มมีการปิดกั้นถนน บุกทำลายรางรถไฟ และโจมตีห้างร้านที่สนับสนุนจีนแผ่นดินใหญ่

ปักกิ่งอ้างว่ามี “พลังอำนาจภายนอก” คอยยุยงปลุกปั่นความไม่สงบในฮ่องกง เขตกึ่งปกครองตนเองซึ่งที่ผ่านมาผู้คนมีสิทธิและเสรีภาพกว้างขวางกว่าชาวจีนบนแผ่นดินใหญ่

การชุมนุมประท้วงในฮ่องกงมีจุดเริ่มต้นมาจากกระแสคัดค้านร่างกฎหมายส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนไปจีน ก่อนจะลุกลามขยายวงเป็นการเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยและเอาผิดพฤติกรรมป่าเถื่อนของตำรวจ

หลายฝ่ายเริ่มวิตกกังวลว่าจีนอาจส่งทหารเข้าไปปราบผู้ประท้วงฮ่องกงในที่สุด แต่จนถึงขณะนี้ปักกิ่งก็ยังยืนยันความเชื่อมั่นว่าตำรวจฮ่องกงสามารถรับมือกับเหตุจลาจลที่เกิดขึ้นได้

มีนักวิเคราะห์เพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่เชื่อว่าปักกิ่งไม่แคร์เสียงประณามจากนานาชาติ และพร้อมที่จะบดขยี้ผู้ประท้วงฮ่องกงเหมือนที่เคยทำกับกลุ่มนักศึกษาเรียกร้องประชาธิปไตยที่จัตุรัสเทียนอันเหมินเมื่อปี 1989 ซึ่งในตอนนั้นคาดว่ามีผู้เสียชีวิตหลายร้อย หรืออาจมากกว่า 1,000 คน

จีนยังแสดงจุดยืนแข็งกร้าวกับไต้หวันมากขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดี ไช่ อิงเหวิน เข้ารับตำแหน่งเมื่อปี 2016 เนื่องจากรัฐบาลของ ไช่ ปฏิเสธที่จะยอมรับว่าไต้หวันเป็นส่วนหนึ่งของ “จีนเดียว”

แม้ไต้หวันจะปกครองตนเองมาตั้งแต่สิ้นสุดสงครามกลางเมืองในปี 1949 แต่จีนยังถือว่าเกาะประชาธิปไตยแห่งนี้เป็น ‘มณฑล’ หนึ่งของตน และไม่ปฏิเสธที่จะใช้กำลังทหารยึดกลับคืนมาหากมีความจำเป็นจริงๆ

อีกหนึ่งภูมิภาคที่ยังคงมีความขัดแย้งกันอยู่ก็คือทิเบต ซึ่งเนปาลได้รับผู้ลี้ภัยชาวทิเบตเข้าไปอาศัยอยู่มากถึง 20,000 คน ทว่าด้วยแรงกดดันของรัฐบาลจีนชุดปัจจุบันทำให้กาฐมาณฑุเริ่มใช้นโยบายแข็งกร้าวกับนักเคลื่อนไหวชาวทิเบตมากขึ้น

นายกรัฐมนตรี เค.พี. ชาร์มา โอลี ยืนยันกับ สี ว่า เนปาลซึ่งมีพรมแดนติดทิเบต “จะไม่มีวันยอมให้กองกำลังฝ่ายใดเข้ามาใช้ดินแดนเนปาลเป็นฐานทำกิจกรรมแบ่งแยกดินแดนจีน”

ปักกิ่งยังถูกสหรัฐฯ และนานาชาติวิจารณ์เรื่องนโยบายกดขี่ชนกลุ่มน้อยในซินเจียง หลังผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นออกมาเผยว่าจีนมีการสร้าง ‘ค่ายลับ’ เอาไว้หลายแห่งเพื่อกักกันชาวอุยกูร์และมุสลิมกลุ่มอื่นๆ กว่า 1 ล้านคน

จีนอ้างว่าค่ายเหล่านั้นเป็นเพียง “ศูนย์ฝึกอาชีพ” ที่มุ่งอบรมประชาชนให้ปฏิเสธลัทธิหัวรุนแรงและความสุดโต่งทางศาสนา

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0