โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

‘สมาคมรถมือสอง’ ค้านมาตรการเยียวยาอุตฯยานยนต์ของ สอท.

Businesstoday

เผยแพร่ 26 พ.ค. 2563 เวลา 04.52 น. • Businesstoday
‘สมาคมรถมือสอง’ ค้านมาตรการเยียวยาอุตฯยานยนต์ของ สอท.

นายภิญโญ ธนวัชรภรณ์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว เปิดเผยว่า สมาคมฯ ได้มีการจัดทำหนังสือเปิดผนึกถึง พชร อนันตศิลป์ อธิบดีกรมสรรพสามิต เพื่อขอเข้าปรึกษาหารือเกี่ยวกับผลกระทบในอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้ว (รถมือสอง) จากมาตรการสนับสนุนข้อร้องเรียนของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้ ข้อหารือที่จะเกิดขึ้นในการเข้าพบ อธิบดีกรมสรรพสามิต คือ จากกรณีที่กลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) ได้มีการยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือต่อกรมสรรพสามิต โดยมีการนำเสนอให้ลดภาษีสรรพสามิตลง50%, โครงการนำรถเก่าและรถใหม่โดยให้ภาครัฐสนับสนุนชดเชยราคารถเก่ามูลค่า100,000 บาท ต่อคัน รวมถึง การเลื่อนการใช้มาตรฐานไอเสียยูโร5 และ ยูโร6 ออกไปเป็นปี2565

สำหรับสมาคมฯ มีความเห็นว่าข้อเสนอดังกล่าวจะส่งผลกระทบถึงอุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในอุตสาหกรรมรถยนต์ภายในประเทศหลากหลายมิติ เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับนโยบายรถยนต์คันแรกในปี2555

ดังนั้น สมาคมฯ จึงขออนุญาตเข้าพบ อธิบดีกรมสรรพสามิต ในวันที่27 พ.ค. 2563 เพื่อปรึกษาหารือและชี้แจงเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากมาตรการในครั้งนี้ เพื่อเป็นแนวทางในการพิจารณาให้ละเอียดถี่ถ้วน ซึ่งสมาคมฯ ยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมหารือกับ สอท. เพื่อร่วมกันพัฒนาและแก้ไขปัญหาในเชิงบูรณาการเพื่อยกระดับอุตสาหกรรมรถยนต์ให้เติบโตอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2563 นายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ได้มีการแสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวผ่าน เฟสบุ๊คของ สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว โดยมีข้อความระบุไว้ดังนี้

เมื่อวานนี้ขณะที่กำลังทำบุญอยู่ที่วัด มีโทรศัพท์จากท่านนายกสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว โทรเข้ามาเพื่อหารือเกี่ยวกับเรื่องที่ทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(สอท.) ได้ยื่นหนังสือขอความช่วยเหลือต่อกรมสรรพสามิต เกี่ยวกับการเยียวยากลุ่มธุรกิจที่ได้รับผลกระทบจากCOVID19 โดยทางกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ได้ยื่นข้อเรียกร้องในการลดภาษีสรรพสามิตลง50%, ให้รัฐสนับสนุนโครงการรถเก่าแลกรถใหม่โดยให้รัฐsubsidizeราคารถเก่าในมูลค่าถึง100,000บาท/คัน, รวมทั้งการเลื่อนการใช้มาตรฐานไอเสียยูโร5และ6ออกไปเป็นปี2565

ข้อเรียกร้องดังกล่าวได้ถูกนำเสนอไปยังกรมสรรพสามิตจริง หากแต่ว่าในภาคปฏิบัติ"ไม่ใช่เรื่องง่ายๆที่จะเกิดขึ้น" เนื่องจากข้อเรียกร้องดังกล่าวนั้นล้วนแล้วแต่สร้างผลกระทบต่อผู้ที่มีส่วนได้ส่่วนเสีย(stakeholders) ตั้งแต่ธุรกิจต้นน้ำไปจนถึงธุรกิจปลายน้ำทั้งสิ้น ผมเชื่อมั่นว่าสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว ซึ่งเป็นธุรกิจปลายน้ำ ยังไม่เคยได้รับการปรึกษาหารือเกี่ยวกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากข้อเสนอของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์อย่างแน่นอน และขอขอบคุณท่านอธิบดีกรมสรรพสามิต คุณพชร อนันตศิลป์ ที่ท่านได้ให้สัมภาษณ์อย่างชัดเจนว่า"การลดภาษีรถยนต์ไม่ใช่ทางออกที่เหมาะสมในเวลานี้"

หากเราได้ย้อนเวลากลับไปในปี2012 ประเทศไทยได้รับบทเรียนจากการที่ภาครัฐออกนโยบายsubsidyให้กับภาคประชาชนเพื่อสนับสนุนการขายรถยนต์ให้กับกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์เป็นจำนวนเงิน70,000-100,000บาท/คัน สำหรับผู้ที่ซื้อรถยนต์คันแรกในเวลานั้น การออกนโยบายเชิงมหภาคดังกล่าว ส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วซึ่งเป็นอุตสาหกรรมปลายน้ำเป็นอย่างมาก เนื่องจากมูลค่าราคารถยนต์ใช้แล้วที่ผู้ประกอบการครอบครองอยู่เพื่อจัดจำหน่ายมีการปรับราคาลงอย่างรุนแรง ส่งผลกระทบให้ผู้ประกอบการธุรกิจรถยนต์ใช้แล้วต้องล้มหายตายจากไปจากธุรกิจนี้กว่า30% จากการออกนโยบายที่ไม่ได้คำนึงถึงผู้ที่มีส่วนได้ส่วนเสีย(stakeholders)ในองค์รวม

COVID19ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แต่เพียงกลุ่มเดียว แน่นอนว่าธุรกิจต้นน้ำจนถึงธุรกิจปลายน้ำของอุตสาหกรรมยานยนต์ล้วนแล้วแต่ได้รับผลกระทบด้วยกันทั้งสิ้น การเรียกร้องเพื่อให้ภาครัฐสนับสนุนอุตสาหกรรมของท่านโดยไม่คำนึงถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง"เป็นการกระทำที่น่าละอายและเห็นแก่ตัวอย่างที่สุด" ในฐานะที่ท่านเป็นกลุ่มองค์กรในสภาอุตสาหกรรมยานยนต์ ผมอยากให้ทางสภาฯไตร่ตรองข้อเรียกร้องให้ละเอียดถี่ถ้วนก่อนที่จะยื่นข้อเรียกร้องไปยังภาครัฐ มิฉะนั้นความน่าละอายในครั้งนี้ แน่นอนว่าสภาอุตสาหกรรมยานยนต์จะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้เช่นกัน หากปัญหาของพวกท่านคือยอดการผลิตและยอดจัดจำหน่ายรถยนต์ที่ลดลง ท่านก็ควรไปปรับปรุงพัฒนาวิธีการจัดจำหน่ายในยามวิกฤตนี้ให้ดีขึ้น เฉกเช่นเดียวกับผู้ประกอบการขนาดเล็กและขนาดกลางที่มีทุนในการประกอบธุรกิจน้อยกว่าท่านได้ปรับตัวกันไปแล้วในช่วงวิกฤตในครั้งนี้

การลงมือแก้ไขปัญหาด้วยตนเองก่อนเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดสำหรับผู้ประกอบการมืออาชีพ การที่ท่านยังไม่ได้ลงมือแก้ปัญหาแต่กลับเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยแก้ไข ซ้ำยังสร้างผลกระทบต่ออุตสาหกรรมอื่นด้วย ผมคิดว่าคณะผู้บริหารของสอท.ยังขาดความเป็นมืออาชีพเป็นอย่างมาก สมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้วยินดีเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ภายในประเทศร่วมกับท่าน การร่วมกันพัฒนาอุตสาหกรรมทั้งระบบตั้งแต่อุตสาหกรรมต้นน้ำยันอุตสาหกรรมปลายน้ำเป็นส่วนสำคัญที่จะพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน อย่าให้บทเรียนที่เคยเกิดขึ้นแล้วมาซ้ำเติมเศรษฐกิจของเราด้วยความโลภอย่างที่เคยเกิดขึ้นมาเมื่อ8ปีก่อนอีกเลย

การเสนอให้ภาครัฐsubsidizeราคารถยนต์ใช้แล้วและผลักภาระมาให้อุตสาหกรรมข้างเคียงโดยไม่ปรึกษาหารือกันเป็นการกระทำที่ไม่มีมารยาทในทางธุรกิจ ข้ออ้างที่ว่าการที่การขายรถยนต์ใหม่มากขึ้นจะทำให้รถยนต์ที่ปล่อยไอเสียที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมมีจำนวนลดลง ล้วนแล้วแต่เป็นข้ออ้างทางธุรกิจ หากท่านมีวัตถุประสงค์เช่นนั้นจริง คงไม่เสนอให้ภาครัฐเลื่อนการบังคับใช้มาตรฐานยูโร5และยูโร6ออกไปด้วยเช่นกัน อุตสาหกรรมของพวกเรายังมีวิถึทางในการพัฒนาไปอีกมากมายในหลากหลายมิติ อุตสาหกรรมรถยนต์ใช้แล้วเป็นอุตสาหกรรมที่ช่วยสนับสนุนการขายรถยนต์ใหม่ในประเทศนี้มากว่า50ปี วิกฤตCOVID19ในครั้งนี้ หากเราเลือกที่จะใช้วิกฤตนี้ให้เป็นโอกาส จะเป็นการปฏิวัติการพัฒนาอุตสาหกรรมยานยนต์ทั้งระบบได้เช่นกัน

เพื่อนๆที่เห็นด้วยกับบทความของผม ช่วยกรุณาแชร์บทความนี้ไปให้มากที่สุด เพื่อร่วมกันเป็นเสียงสะท้อนให้ภาครัฐและสภาอุตสาหกรรมได้รับรู้ถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้บทเรียนที่เคยเกิดขึ้นมาใน2012เกิดขึ้นซ้ำอีกในอุตสาหกรรมยานยนต์ของเรา

ตระหนักได้แต่อย่าตระหนก

ขอพลังจงสถิตย์อยู่กับพวกเราชาวไทยทุกคน

วิสุทธิ์ เหมพรรณไพเราะ

ประธานสมาคมผู้ประกอบการรถยนต์ใช้แล้ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0