“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุมสภากรรมการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ ครั้งที่ 10/2562 ที่ห้องประชุมชั้น 1 ที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ หัวหมาก เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ เปิดเผยว่า วาระสำคัญของการประชุมเป็นเรื่องที่สมาคมฯ ขออนุมัติจากสภาพกรรมการฯ ในการจัดเลือกตั้งนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ คนที่ 10 ซึ่งจะมีขึ้นในช่วงต้นปีหน้า ซึ่งตามระเบียบข้อบังคับนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ จะอยู่ในตำแหน่งถึงวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2563 แต่มีการพิจารณาว่า ก่อนจะมีการเลือกตั้งนั้น สมาคมฯ จะต้องจัดทำบัญชีงบดุลให้เสร็จเรียบร้อย และมีการประชุมสามัญเพื่อรับรองงบดุล เพื่อให้การส่งมอบงานต่อให้ผู้บริหารชุดต่อไปจะได้มีความเรียบร้อย
“ผมพยายามจะทำทุกสิ่งให้เรียบร้อยก่อนพ้นจากตำแหน่ง ตอนนี้ผมยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะลงสมัครชิงตำแหน่งนายกสมาคมฯ เพราะมีบางสิ่งบางอย่าง ซึ่งผมยังไม่สามารถสรุปได้ เพราะฉะนั้นการตัดสินใจทำอะไรผมจะต้องมั่นใจก่อนว่า จะไม่มีเงื่อนไขอื่นตามมา ซึ่งเป็นเงื่อนไขที่ทำให้การทำหน้าที่ของผมเป็นไปตามที่ตั้งใจไว้ ถ้าสิ่งที่ผมคิดว่าเป็นปัจจัยในการบริหารงานในอนาคตยังไม่ถูกดำเนินการแก้ไขให้เรียบร้อยก็คงจะไม่ตัดสินลงสมัคร” บิ๊กอ๊อด กล่าว
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวอีกว่า วาระสำคัญอีกเรื่องเป็นระเบียบในการโอนสิทธิ์ของสโมสรต่างๆ หากสโมสรใดมีการเปลี่ยนผู้ถือหุ้นแล้วจะต้องรับภาระหนี้สิน หรือภาระผูกพันที่นิติบุคคลเดิมได้กระทำไว้ เพื่อให้ผู้ได้รับผลกระทบจากการโอนสิทธิ์ หรือยุบสโมสรไม่ได้รับผลกระทบจากสิ่งที่เกิดขึ้น รวมทั้งมีการรายงานความคืบหน้าในการก่อสร้างศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ ที่ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี
ส่วนกรณีการทำหน้าที่ของ นที ชูสุวรรณ ผู้ตัดสินในเกมที่ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านแซงชนะ การท่าเรือ เอฟ.ซ. 3-1 ในศึกไทยลีก 2019 เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ซึ่งทำหน้าที่ผิดพลาดหลายครั้ง ทั้งจังหวะล้ำหน้า แต่ไลน์แมนไม่ยงธง และจังหวะที่ย้อนกลับมาให้บุรีรัมย์ได้ลูกฟรีคิกทั้งที่ปล่อยให้เล่นไปแล้วนั้น พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ส่วนตัวได้ดูเทป และเห็นว่ามีหลายช่วงที่ผู้ตัดสินทำผิดพลาดทั้งที่ทำให้บุรีรัมย์ได้เปรียบ และเสียเปรียบ ซึ่งเรื่องนี้ก็มีคณะกรรมการพิจารณาอยู่แล้ว และถ้าสโมสรบุรีรัมย์ หรือการท่าเรือ เห็นว่า ไม่ได้รับความเป็นธรรมก็สามารถร้องเรียนเข้ามาที่สมาคมฯ ได้
“ตัวผมเองดูจากเทปวิดีโอก็ไม่สามารถชี้ไปได้ว่า กรณีไหนผิดพลาด อย่างไร ทำให้ใครได้เปรียบ และเสียเปรียบ ซึ่งก็ได้ฟังความคิดเห็นจากผู้มีความรู้ หรือผู้มีประสบการณ์ ถือได้ว่ามีข้อผิดพลาดหลายครั้ง และทำให้เกิดความได้เปรียบ และเสียเปรียบทั้งสองทีม” นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลไทยฯ กล่าว
ด้านกรณีการมอบแชมป์ไทยลีก 2019 ซึ่งทางนายเนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ได้ระบุว่า ถ้าหากทีมได้แชมป์จะไม่รับมอบแชมป์ในเกมสุดท้ายที่จะบุกเยือน เชียงใหม่ เอฟซี ในวันที่ 26 ตุลาคมนั้น บิ๊กอ๊อด กล่าวว่า จริงๆ แล้วอยากให้แมตช์สุดท้ายมีความประทับใจ แต่ทางสโมสรที่คาดการณ์ว่าจะเป็นแชมป์คิดว่า แฟนบอลของเขามีน้อย ทำให้การฉลองแชมป์จะไม่สนุกสนาน ก็อยากไปฉลองในบ้านตัวเอง ซึ่งตรงนี้ทางสมาคมฯ ยังไม่ได้รับการประสานงานเข้ามา และเป็นเพียงแต่ข่าวเท่านั้น ซึ่งถ้าทางสโมสรที่คิดว่าจะได้แชมป์รายการนี้อยากจะทำอย่างไรก็ให้ทำหนังสือเข้ามา และสมาคมฯ จะได้พิจารณาต่อไป
